ทันสถานการณ์ฯ:ทั่วโลกร่วมต้อนรับปีใหม่/คลังสหรัฐเพิ่มการลงโทษอิหร่าน/อินโดฯสู้คดีค่าเสียหายจากการเผาป่า*

หลายประเทศทั่วโลก จุดพลุเฉลิมฉลองเพื่อต้อนรับปีใหม่เรียงตามลำดับเวลา ตั้งแต่หมู่เกาะซามัว โดยที่ออสเตรเลีย มีชาวออสเตรเลียและนักท่องเที่ยวมากกว่า 1 ล้านคนชมการแสดงพลุ และดอกไม้ไฟ เริ่มตั้งแต่เวลา 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และมีการจุดพลุอีกครั้งเป็นเวลา 12 นาทีนับจากเวลาเที่ยงคืน

ส่วนท่าอากาศหลัก 2 แห่งในตุรกี ต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยว เนื่องจากมีหิมะตกหนักในวันสุดท้ายของปี เตอร์กิช แอร์ไลน์ส สายการบินแห่งชาติตุรกี ยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศจากท่าอากาศยานอาตาเติร์ก และสนามบินชาบิฮา กอคเซน สายการบินเอกชนอย่าง เปกาซัส ก็ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและออกจากชาบิฮา กอคเซนเช่นกัน ขณะที่บางเที่ยวบินต้องบินวนเหนืออิสตันบูลนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถลงจอดที่อาตาเติร์ก ขณะที่อื่นๆต้องต่อคิวนานกว่าเดิมเพื่อรอเวลาออกเดินทาง 

ส่วนนครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรต จัดงานฉลองต้อนรับปีใหม่ 2016 และจุดพลุไฟจากเบิร์จ คาลฟิ อาคารระฟ้าที่สูงที่สุดในโลก ตลอดจนอาคารที่ตั้งอยู่โดยรอบตามกำหนดการเดิมในเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 31 ธันวาคม 2015 แม้เพิ่งเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงแรม 5 ดาว ดิ แอดเดรส ดาวน์ทาวน์ ดูไบ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่งานจะเริ่มขึ้น เนื่องจากการแสดงพลุไฟที่เบิร์จ คาลิฟา ใช้เวลาเตรียมการกว่า 6 เดือน ใช้พลุไฟปริมาณเกือบ 9 ตัน จากจุดปล่อยมากกว่า 685 จุด

ตำรวจฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคมเป็นต้นมา ซึ่งเป็นช่วงฉลอง 2 สัปดาห์ส่งท้ายปีเก่า และมีธรรมเนียมการเล่นดอกไม้ไฟและยิงปืนขึ้นฟ้า ปรากฏว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย และอีกกว่า 185 คนได้รับบาดเจ็บ ในจำนวนนี้รวมถึงเด็กชายวัย 5 ขวบที่ต้องสูญเสียมือข้างหนึ่ง

กระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกาเตรียมเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรบุคคล และบริษัทในอิหร่าน ฮ่องกง และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งมีส่วนร่วมในการสนับสนุนรัฐบาลอิหร่านทดสอบขีปนาวุธอย่างน้อย 2 ลูก นับตั้งแต่บรรลุข้อตกลงระงับการทดลองนิวเคลียร์ ร่วมกับกลุ่มประเทศมหาอำนาจ พี 5+1 เมื่อเดือนกรกฎาคม รวมถึงเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่กองทัพเรืออิหร่านทดสอบการยิงจรวด ห่างจากเรือรบของสหรัฐและฝรั่งเศส ในน่านน้ำทะเลอาหรับนอกชายฝั่งโอมาน เพียง 1,500 เมตร

อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวเตือนว่าการคว่ำบาตรเข้าข่ายละเมิดข้อตกลงยับยั้งการทดลองนิวเคลียร์ ซึ่งระบุชัดว่ากลุ่มประเทศคู่เจรจาจะยกเลิกบทลงโทษทางเศรษฐกิจ

พันเอกหยาง อิ๋วจวิน โฆษกกระทรวงกลาโหมของจีน เปิดเผยว่า จีนกำลังออกแบบเรือบรรทุกเครื่องบินลำที่ 2 ขนาด 50,000 ตัน โดยใช้เทคโนโลยีภายในประเทศทั้งหมด แต่ไม่ใช่พลังงานนิวเคลียร์เหมือนเรือบรรทุกเครื่องบินเหลียวหนิง ปัจจุบันจีนมีเรือบรรทุกเครื่องบินประจำการอยู่ในกองทัพ 1 ลำคือ เรือบรรทุกเครื่องบินเหลียวหนิง ซึ่งปรับปรุงและพัฒนามาจากเรือที่ซื้อจากยูเครนเมื่อกว่า 10 ปีก่อน แล้วเข้าประจำการในปี 2556 แต่เรือลำนี้ยังไม่เคยถูกนำไปใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ  จีนเร่งเสริมศักยภาพของกองทัพเรือด้วยการบรรจุเรือฟริเกต, เรือพิฆาต และเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์หลายลำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขยายอำนาจทางทะเล

เจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซียจับกุมชายผู้ต้องสงสัย 3 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ซึ่งสืบเป็นการขยายผลการจับกุมจากการจับกุมนายซานโตโซ ผู้นำกองกำลังที่ทางการอินโดนีเซียต้องการตัวมากที่สุด 

หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายอินโดนีเซียพบว่า มีผู้เข้าร่วมกับกลุ่มหัวรุนแรงราว 1,000 คน และมีกลุ่มทั่วประเทศอินโดนีเซีย

ด้าน กระทรวงสิ่งแวดล้อมและป่าไม้อินโดนีเซีย แถลงยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีเรียกร้องค่าเสียหาย 565 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากบริษัทพีที บูมี เมการ์ ฮีจาอู (บีเอ็มเอช) หนึ่งในผู้ผลิตผลิตภัณฑ์กระดาษที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามข้อกล่าวหาเป็นต้นเหตุของการเผาป่ากว่า 125,000 ไร่บนเกาะสุมาตรา และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดควันพิษปกคลุมไปทั่วประเทศ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย หลังจากศาลในเมืองปาเล็มบังยกฟ้อง บริษัทบีเอ็มเอช เนื่องจากเห็นว่าการเผาป่าที่เกิดขึ้นในเขตปลูกป่าเยื่อกระดาษของบีเอ็มเอช ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ทางการอินโดนีเซีย ย้ำว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น จะต้องมีผู้รับผิดชอบ

ประธานาธิบดีมูฮัมมาดู บูฮารี ประธานาธิบดีไนจีเรีย แถลงว่าพร้อมเจรจาต่อรองกับผู้นำกลุ่มโบโก ฮาราม เพื่อปล่อยตัวนักเรียนหญิงกว่า 200 คน ที่ถูกลักพาตัวไปเมื่อปีก่อน

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 31 ธันวาคมในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 178.84 จุด หรือร้อยละ 1.02 ปิดที่ 17425.03 จุด ผลงานโดยรวมตลอดปีลดลงร้อยละ 2.2 

ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 19.42 จุด หรือร้อยละ 0.94 ปิดที่ 2043.94 จุด สรุปรายปีลดลงร้อยละ 0.7 ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2554

ดัชนีแนสแด็กลดลง 58.44 จุด หรือร้อยละ 1.15 ปิดที่ 5007.41 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 ตลอดปีที่ผ่านมา

*-*

...