*โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง 5 ป.ป.ช.ใหม่/บรรยากาศ ปีใหม่ทั่วโลก/แอร์อินเดีย ลงจอดฉุกเฉินพบหนูบนเครื่อง*

31 ธันวาคม 2558, 20:24น.


+++เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่สนช.ได้ลงมติเมื่อวันที่ 19 พ.ย.2558 ให้ความเห็นชอบผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ จํานวน 5 คน เป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แทนตําแหน่งประธานกรรมการและกรรมการฯที่ว่างลง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งประธานและกรรมการป.ป.ช. ดังต่อไปนี้ 1.พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ เป็นประธานป.ป.ช.  2.นายวิทยา อาคมพิทักษ์ เป็นกรรมการป.ป.ช. 3.นางสุวณา สุวรรณจูฑะ เป็นกรรมการป.ป.ช. 4.นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร เป็นกรรมการป.ป.ช. 5.พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ เป็นกรรมการป.ป.ช. ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.

+++การทำงานของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ในปี 2559 นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.กล่าวว่า การทำงานจะต้องเน้นการพิจารณากฎหมายที่อยู่ในชั้นของคณะกรรมาธิการ(กมธ.) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายสำคัญที่จะต้องเร่งดำเนินการ คือร่างพ.ร.บ.จัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบซึ่งรัฐบาลให้ความเห็นชอบในหลักการแล้ว รอส่งมาให้สนช. พิจารณา คาดว่า สนช.คงไม่สามารถพิจารณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวได้ 3 วาระรวด เพราะจะต้องเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ศาลยุติธรรม ตำรวจ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ให้ความเห็นก่อน ยืนยันว่า สนช.จะพิจารณาผ่านกฎหมายฉบับดังกล่าวอย่างรอบคอบให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายอีกฉบับที่อยากให้รัฐบาลรีบส่งให้สนช.พิจารณา คือร่างพ.ร.บ.เกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิตอล ซึ่งเป็นกฎหมายสำคัญที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และยังมีร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆที่คณะกรรมาธิการของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) จะส่งให้สนช.พิจารณาโดยต้องผ่านการกลั่นกรองของคณะรัฐมนตรี(ครม.)ก่อน



+++ประธานสนช. กล่าวถึง แนวทางการพิจารณาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญของสนช. คงต้องศึกษาเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ที่จะออกมาในปลายเดือน ม.ค. เพื่อนำมาวิเคราะห์แล้วส่งความคิดเห็นกลับไปยังกรธ.ว่าควรปรับปรุงแก้ไขในส่วนใดบ้าง และเรื่องใดที่จะทำออกเป็นกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญได้บ้าง และสนช.จะต้องเร่งพิจารณากฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งให้เสร็จทันตามโรดแม็พ ขณะนี้ สนช.สามารถวางแนวทางกฎหมายไว้ล่วงหน้าได้ ไม่ต้องรอให้ร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกเสร็จ เนื่องจาก ขณะนี้เริ่มเห็นทิศทางร่างรัฐธรรมนูญของกรธ.แล้ว 



+++การจัดงานส่งท้ายปี2558รับปี 2559 นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ประเทศไทย ถูกปักหมุดในปฏิทินเคาท์ดาวน์ของโลก ด้วยการทุ่มงบประมาณ 118.69 ล้านบาท จัดกิจกรรมไทยแลนด์ เคาท์ดาวน์ 2016 ภายใต้ชื่อ “เบิกฤกษ์มงคล รับอรุณแห่งปี” เป็นครั้งแรกในการจัดกิจกรรมนับถอยหลังสู่ปีใหม่ โดยมีพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหารเป็นสัญลักษณ์ในการต้อนรับศักราชใหม่ โดยไฮไลท์สำคัญจะอยู่ในวันที่ 31 ธ.ค.2558-1ม.ค. 2559 เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมของคนไทยด้วยการนำเสียงสวดมนต์ข้ามปีมาเป็นเสียงประกอบ การฉายภาพลงบนพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม และการแสดงดนตรีโดยวง “มหานคร ฟิลฮาร์โมนิก ออร์เคสตรา” และนักดนตรีรับเชิญจากกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งอยู่บนเวทีที่สร้างในแม่น้ำเจ้าพระยา อำนวยการเพลงและเรียบเรียงเสียงประสาน โดยนายพงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ขณะเดียวกัน จะมีการแสดงพลุเฉลิมฉลอง 3 ชุดใหญ่ จำนวน 5,574 นัด แบ่งเป็น 2,016 นัดเพื่อฉลองปีใหม่ และปีสากล 2,559 นัดเพื่อฉลองปีพุทธศักราช และ 999 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ คาดว่า จะมีเงินสะพัดจากการท่องเที่ยวในช่วง 31ธ.ค.2558-4ม.ค.2559 ประมาณ 15,300ล้านบาท โดยมีนักท่องเที่ยวไทย 2.73 ล้านคน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 4 แสน 70,000 คน



+++บรรยากาศในต่างประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เอกเพรสส์ของอังกฤษรายงานว่า นิวซีแลนด์เป็นประเทศแรกๆในโลกที่อำลาปีเก่า เข้าสู่ศักราชใหม่ 2559 เมื่อเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่นหรือราว 18.00 น.ตามเวลาวันนี้ของประเทศไทย มีการจัดงานจุดพลุดอกไม้ไฟประจำปีที่บริเวณสกายทาวเวอร์ เมืองโอ๊คแลนด์ หอคอยที่สูงที่สุดในซีกโลกใต้ ต่อหน้าผู้ร่วมฉลองงานเคาท์ดาวน์ราว 25,000 คน มีการจุดพลุดอกไม้ไฟจำนวนมากขึ้นสู่ท้องฟ้า นับเป็นงานฉลองปีใหม่ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดมาในนิวซีแลนด์



+++ขณะเดียวกัน นครซิดนีย์ของออสเตรเลียจะเป็นประเทศต่อไปที่จะเข้าสู่ศักราชใหม่ในเวลา 20.00 น.ตามเวลาวันนี้ของไทย แต่ละปีจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองที่บริเวณสะพานฮาร์เบอร์บริดจ์ นครซิดนีย์ มีการแสดงพลุดอกไม้ไฟ พร้อมเอฟเฟคประกอบการแสดง งานแสดงคืนนี้ใช้ทุนจัดราว 5 ล้านปอนด์ ในแต่ละปีมีผู้เข้าชมงานนี้ราว 1.5 ล้านคนและมีคนกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลกเฝ้าชมงานเคาท์ดาวน์ครั้งนี้ทางโทรทัศน์ ปีนี้จะมีการจุดดอกไม้ไฟ 2,400 ลูก ในภาพรวมทั่วโลกจะมีการจุดพลุดอกไม้ไฟคืนนี้ราว 100,000 ลูก



+++ทางการออสเตรเลีย เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยมากขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นจากกลุ่มหัวรุนแรงในประเทศ  



+++ถัดจากออสเตรเลีย ประเทศต่อไปที่จะมีการต้อนรับศักราชใหม่คือกรุงโตเกียว ญี่ปุ่นและกรุงโซล เกาหลีใต้ในเวลา 22.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย



+++ประชาชนหลายล้านคนที่อาศัยอยู่ในชุมชนเมืองต่างๆ ของญี่ปุ่น เดินทางกลับบ้านเพื่อฉลองดื่มกินและร้องเพลงสังสรรค์กับครอบครัวญาติพี่น้อง และถือเป็นประเพณีที่เมื่อเวลาใกล้ผ่านเที่ยงคืนของวันที่ 31 ธ.ค. ชาวญี่ปุ่นจะไปชุมนมกันที่วัด ที่อยู่ใกล้หมู่บ้าน เพื่อเคาะระฆังและสวดมนต์ขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์  แต่ในเมืองหลวงกรุงโตเกียว ปีนี้ทางการเพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยมากเป็นพิเศษ จากความวิตกเกี่ยวกับการก่อการร้าย ทางการปิดประกาศข้อความตามที่สาธารณะ เช่น สถานีรถไฟใต้ดิน ห้างสรรพสินค้า เรียกร้องประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่ หากพบกิจกรรมหรือวัตถุต้องสงสัย



+++สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ส่วนใหญ่ยังคงเป็นไปด้วยความครึกครื้นสนุกสนาน เหมือนกับทุกๆ ปี  ยกเว้นบางประเทศที่ทางการวิตกเกี่ยวกับความปลอดภัย จากการก่อการร้าย ประกาศงดจัดกิจกรรม หรือลดระดับการฉลองพร้อมกับเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย



+++นครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ  ที่แต่ละปีจุดสนใจของผู้คนทั่วโลกจับจ้องไปที่การฉลองเชิงสัญลักษณ์ ที่บริเวณจัตุรัสไทม์สสแควร์ ปีนี้นายเจมส์ โอนีล หัวหน้าสำนักงานตำรวจนครนิวยอร์ก ยืนยันว่า งานนับถอยหลังต้อนรับปีใหม่ที่ไทมส์สแควร์ปลอดภัยที่สุดในโลก ด้วยกำลังตำรวจหลายพันนาย รวมถึงหน่วยต่อต้านก่อการร้ายและสุนัขตำรวจ  ส่วน นายวิลเลียม แบรตตัน ผู้บัญชาการตำรวจ กล่าวว่ายังไม่มีข้อมูลที่เชื่อถือได้ว่าจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นมาก่อนถึงวันงาน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยอมรับว่า มีข้อจำกัดเช่นกันทางด้านการดูแลรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะในเขตนอกพื้นที่ควบคุม คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวราว1ล้านคนมาชุมนุมแนนพื้นที่ของจัตุรัสไทมส์สแควร์เพื่อเฝ้าดูลูกบอลคริสตัลน้ำหนักรวม 5,400 กก. ร่วงลงมาเพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์ของการเข้าสู่ศักราชใหม่ปี ค.ศ.2016 



+++การจัดงานฉลองในกรุงปักกิ่ง ที่บริเวณลานจัตุรัสเทียนอันเหมิน หน้าพระราชวังต้องห้ามของจีน มีการแสดงการละเล่น คอนเสิร์ตดนตรี ขณะที่สถานีโทรทัศน์หลายช่องจะถ่ายทอดสดงานฉลองภายในสนามกีฬาแห่งชาติ หรือที่เรียกกันว่ารังนก แผร่ภาพไปทั่วโลก ส่วนการฉลองที่นครเซี่ยงไฮ้ เมืองใหญ่สุดของประเทศ ทางการสั่งปิดรถไฟใต้ดินบริเวณใกล้เขตเมืองเก่าบันด์ ริมฝั่งแม่น้ำ เนื่องจากเกิดเหตุเหยียบกันตาย ระหว่างการฉลองปีใหม่เมื่อปีที่แล้ว  ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 36 ศพ   



+++ฝรั่งเศส ลดระดับการฉลองในเมืองหลวงกรุงปารีส จากปัญหาด้านความปลอดภัย หลังจากเกิดเหตุกลุ่มหัวรุนแรงโจมตีก่อการร้ายครั้งใหญ่ในปารีส 3 ครั้งในปีนี้ คือเมื่อวันที่ 7 และ 9 ก.พ. และวันที่ 13 พ.ย. รัฐบาลท้องถิ่นกรุงปารีส ปรับเวลาจัดแสดงแสงสีเสียงในช่วงเทศกาลปีใหม่ให้สั้นลงถึงเพียงเที่ยงคืนของวันนี้ และงดจัดแสดงพลุดอกไม้ไฟ เพื่อลดจำนวนผู้คนที่จะไปร่วมกิจกรรมส่งท้ายปี



+++รอยเตอร์ รายงานอ้างนางเอวีลิน แมส ประธานสมาพันธ์การโรงแรมฝรั่งเศสว่า โรงแรมและภัตตาคารในกรุงปารีส ยังได้รับผลกระทบจากเหตุโจมตีเมื่อเดือนที่แล้ว ยอดจองห้องพักโรงแรมช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ลดลงร้อยละ 30-40 แม้ว่า กรุงปารีสได้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังภัยมากขึ้นก็ตาม



+++ส่วนเบลเยียมปีนี้ ทางการประกาศงดจัดงานฉลองในกรุงบรัสเซลส์ จากความวิตกเกี่ยวกับการก่อการร้าย การประกาศมีขึ้นหลังจากทางการได้ประเมินความเสี่ยงแล้ว เห็นว่ามีความเสี่ยงสูงหากมีการจัดงาน  ปีที่แล้วงานฉลองปีใหม่ในกรุงบรัสเซลส์ มีประชาชนเข้าร่วมประมาณ 1 แสนคน

+++ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างสำนักอัยการกลางของเบลเยียมว่า ตำรวจสามารถจับกุมนายอายูบ บี. ชาวเบลเยียมวัย 22 ปีได้ในย่านโมเลนบีค ทางตอนเหนือของกรุงบรัสเซลส์  นับเป็นผู้ต้องสงสัยคนที่ 10 ที่ถูกจับฐานเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตี 6 จุดในกรุงปารีส ฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน เบื้องต้นอัยการได้แจ้งข้อหาความผิดฐานฆาตกรรมและเข้าร่วมกับองค์กรก่อการร้าย



+++เครื่องบินโดยสารสายการบินแอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ 131 ซึ่งออกเดินทางจากเมืองมุมไบในอินเดีย มีปลายทางที่กรุงลอนดอนของอังกฤษ เมื่อเวลา 07.00 น. วันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น (ราว 12.30 น. ตามเวลาประเทศ) ต้องย้อนกลับไปลงจอดที่สนามบินเมืองมุมไบ หลังมีรายงานลูกเรือพบเห็นหนูบนเครื่อง เว็บไซต์ข่าวฮินดูสถานไทม์สรายงานว่ามีผู้โดยสารบนเครื่อง 240 คน ออกเดินทางไปเป็นเวลาราว 3 ชั่วโมง กำลังบินอยู่เหนือน่านฟ้ากรุงเตหะรานของอิหร่าน ตามขั้นตอนปฏิบัติด้านความปลอดภัย นักบิน ได้แจ้งกลับไปยังหอบังคับการบินเมืองมุมไบเพื่อขอเปลี่ยนเส้นทางกลับไปลงจอดฉุกเฉิน โดยสามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัยเมื่อเวลา 12.50 น. ตามเวลาท้องถิ่น (18.20 น. ตามเวลาประเทศไทย) สายการบินออกแถลงการณ์ ระบุว่า การลงจอดฉุกเฉินเป็นไปตามขั้นตอนด้านความปลอดภัย แม้จะยังไม่มีการยืนยันรายงานการพบเห็นดังกล่าว เจ้าหน้าที่และทีมวิศวกรของสายการบินกำลังอยู่ในระหว่างตรวจสอบเครื่องบิน เนื่องจากหนูสามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงจากการกัดแทะสายไฟ ซึ่งจะส่งผลต่อระบบการควบคุมภายในเครื่อง หลังจากนั้นจะมีการรมควันภายในเครื่องตามระเบียบขั้นตอน



+++สายการบินได้จัดเครื่องบินเสริมทดแทนสำหรับเที่ยวบินดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีรายงานการพบเห็นหนูบนเครื่องบินของแอร์อินเดีย โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ก.ค. เที่ยวบินจากกรุงนิวเดลีไปยังเมืองมิลานของอิตาลี ซึ่งเครื่องบินต้องย้อนกลับไปยังสนามบินต้นทางหลังขึ้นบินไปแล้ว 2 ชั่วโมง

 



 

ข่าวทั้งหมด

X