*ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพิ่งเริ่มต้น ยังต้องหารืออีกเปิดเสรีการค้า ก้าวหน้ามากที่สุด*

31 ธันวาคม 2558, 11:15น.


เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” หรือเออีซี หลังจากที่เลื่อนกำหนดเดิมจากต้นปีมาเป็นสิ้นปี ในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ เปิดตลาดร่วมที่มีประชากร 625 ล้านคน และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) 2.6 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการติดตามและวัดผลการดำเนินงานเออีซี หรือสกอร์การ์ด เมื่อสิ้นเดือน ต.ค.ที่พบว่า “การเปิดเสรีการค้า” เป็นด้านที่มีความคืบหน้าไปมากที่สุด และอาจเป็นเพียงด้านเดียวที่อ้างความสำเร็จได้ จากการลดกำแพงภาษีสินค้าไปแล้วร้อยละ 99  ใน 6 ประเทศ และอีก 4 ประเทศที่มีระดับการพัฒนาน้อยกว่า คือ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม จะได้รับการยืดหยุ่นไปถึงปี 2018 แต่ด้านการค้าเองก็ยังมีปัญหามาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี เช่น อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ที่มีกฎระเบียบด้านความปลอดภัยทางอาหารอย่างเข้มงวด



สำหรับ “การเปิดเสรีการค้าในภาคบริการ” มีการดำเนินการไปได้แล้ว 9 ส่วนจากทั้งหมด 11 ส่วน ซึ่งเป็นที่คาดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้ภายในปีหน้า และแม้ว่าการเปิดเสรีภาคบริการจะทำได้ช้ากว่า แต่การค้าในภาคบริการก็มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ภาคที่มีความคืบหน้าน้อยที่สุดของตลาดร่วมอาเซียนในวันนี้ก็คือ “ตลาดเงินและตลาดทุน” โดยกรอบการรวมตัวของภาคธนาคารอาเซียน (AIBF) เพื่อเป้าหมายการเปิดเสรีภาคการธนาคารภายในปี 2020 ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร 10 ชาติไม่สามารถตกลงเรื่องมาตรฐานสถาบันการเงินร่วมกัน (QAB) และหันมาใช้วิธีเจรจาทวิภาคีกันแทน เพื่อให้ประเทศที่พร้อมกว่าเดินหน้าไปได้ก่อน



“การเปิดเสรีภาคแรงงาน” กับการเคลื่อนย้ายแรงงานมีฝีมือนั้น พบว่า มาตรการด้านตลาดแรงงานราวร้อยละ 7.3  ยังไม่บรรลุผล การที่แต่ละประเทศต่างพยายามปกป้องตลาดแรงงานของประเทศตัวเอง เป็นเพราะมีความวิตกว่าอาจเกิดแรงงานไหลเข้าอย่างมหาศาลหากมีการเปิดเสรีแรงงาน และสร้างผลกระทบต่อแรงงานในประเทศ โดยต้องยอมรับว่าแม้จะยังมีภารกิจอีกมากที่ต้องทำให้สำเร็จ แต่เออีซีก็ถือเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อเพิ่มแรงดึงดูดด้านการค้าและการลงทุนจากต่างชาติที่มองอาเซียนเป็นแพ็กเกจ เช่น การใช้กฎแหล่งกำเนิดสินค้าร่วม ที่ทำให้สามารถกระจายอุตสาหกรรมการลงทุนในหลายประเทศได้ และยังถือเป็นการช่วยพัฒนาลดความเหลื่อมล้ำของชาติสมาชิกอาเซียนด้วย  ขณะที่จีนก็สนใจที่จะขยายกรอบการค้าเสรีอาเซียน+6 เป็นความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) เพื่อทัดทานความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี) ที่นำโดยสหรัฐ

ข่าวทั้งหมด

X