ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.
+++ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2558 นับเป็นความผันผวนในตลาดหุ้น และตลาดเงิน ตลาดทองคำโลก ราคาน้ำมันโลก ปรับตัวลดลงกว่า ร้อยละ 30จากระดับ 53.27 เหรียญเมื่อต้นปี มาอยู่ที่ประมาณ 37 เหรียญในวันนี้ ราคาทองคำโลก ลดลงร้อยละ 9.57 ที่ 113 เหรียญ จากต้นปีอยู่ที่ 1,184.37 เหรียญ มาอยู่ที่ 1,050 เหรียญในวันนี้
+++ขบวนการค้ามนุษย์ที่ถูกปล่อยเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน กระทั่งเจ้าหน้าที่พบค่ายกักกันชาวโรฮีนจาบนเทือกเขาแก้ว หมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา มีหลุมฝังศพแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. (ในขณะนั้น) จึงสั่งขยายผลหาผู้กระทำความผิด และมีคำสั่งย้ายตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากขบวนการหลายโรงพัก ก่อนทยอยสาวถึงตัวการใหญ่ที่เต็มไปด้วยนักการเมืองท้องถิ่นผู้กว้างขวาง เช่น นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง อดีตนายก อบจ.สตูล นายบรรจง ปองผล หรือโกจง นายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้บังคับการจังหวัดทหารบกชุมพร และอดีตผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ข้อหาสมคบกันค้ามนุษย์ หน่วงเหนี่ยวกักขัง และร่วมกันเรียกค่าไถ่ คุมตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดนาทวี ค้านการประกันตัว รวมผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับทั้งสิ้น 153 คน จับกุมได้ 91 คน ยังหลบหนีอีก 62 คน ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รอง ผบช.ภ.8 หัวหน้าพนักงานสอบสวนถูกย้ายไปเป็นรอง ผบช.ศชต. ทำเจ้าตัวน้อยใจขอลาออก อ้างโดนอิทธิพลเครือข่ายค้ามนุษย์ขู่ฆ่า ถึงขนาดตัดสินใจพาครอบครัวขอลี้ภัยไปอยู่ประเทศออสเตรเลีย
+++ข่าวเด่นแวดวงอาชญากรรมต้องคดีอื้อฉาวของขบวนการแอบอ้างเบื้องสูง เปิดเผยขึ้นหลัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีคำสั่งตั้ง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบกลุ่มบุคคลร่วมกันมีพฤติการณ์แอบอ้างสถาบันเบื้องสูง เรียกหรือรับผลประโยชน์ เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายมาตรา 112 นำไปสู่การจับกุมนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรืออาท ชัตเตอร์มหาเทพ คนสนิท และ “สารวัตรเอี๊ยด” พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา สว.กก.1 บก.ปอท..ที่ต่อมาผูกคอตายคาห้องขัง ต่อมาวันที่ 7 พ.ย. 58 นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง มีอาการป่วยหนัก เสียชีวิตในเวลาต่อมา แพทย์ระบุเกิดจากระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลวจากการติดเชื้อในกระแสโลหิต และมีผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มอีก 1 คน คือ พ.อ.คชาชาต หรือ เสธ.โจ้ บุญดี ทว่าเจ้าตัวหลบหนีออกประเทศเพื่อนบ้าน พนักงานสอบสวนยังออกหมายจับ พล.ต.สุชาติ หรือ เสธ.โต พรม–ใหม่ คนสนิท พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร อดีต ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา อดีตรอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.จีรวัฏฐ์ บุญวัฒนาภรณ์ อดีต สว. 2 กก.1 บก.ทล.ที่ยื่นลาออกก่อนหน้า และ พ.ต.ท.ธนบัตร ประเสริฐวิทย์ รอง ผกก.1 บก.ปคม. ท่ามกลางกระแสโยงใยการทุจริตการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะเดียวกันผลพวงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังกดดันให้ พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่ปรึกษา สบ 10 ต้องลาออกจากราชการ
++++โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ในรอบปี วันที่ 17 ส.ค. มีคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ ทำให้ชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิต 20 คน บาดเจ็บอีกกว่า 100 คน และต่อมาช่วงบ่ายวันที่ 18 ส.ค. เกิดเหตุระเบิดซ้ำที่ท่าเรือสาทร โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต กล้องวงจรปิดจับภาพชายต่างชาติใส่เสื้อเหลืองเป็นผู้ต้องสงสัยวางระเบิดที่ศาลพระพรหม และจับภาพชายชาวเอเชียใส่เสื้อฟ้าต้องสงสัยวางระเบิดที่ท่าเรือสาทร ซึ่งตำรวจเชื่อว่าระเบิดทั้ง 2 แห่งมีส่วนเชื่อมโยงกัน และทำเป็นขบวนการ 29 ส.ค. ชุดสืบสวนเข้าจับกุมนายอาเดม คาราดัก หรือนายบิลาล โมฮัมเหม็ด อายุ 28 ปี ชาวตุรกี ถัดมาอีก 3 วันทหารจับกุมนายเมียไรลี ยูซูฟู อายุ 26 ปี ชาวจีนเชื้อสายอุยกูร์ ขณะกำลังหนีข้ามชายแดน จ.สระแก้วไปประเทศกัมพูชา นายอาเดม คาราดัก รับสารภาพว่าเป็นชายเสื้อเหลืองที่เอาระเบิดไปซุกไว้ในศาลพระพรหม ขณะที่นายเมียไรลีก็รับว่าเป็นคนนำระเบิดไปส่งให้นายอาเดมเพื่อเอาไปวางที่ศาลพระพรหม แล้วตัวเองเป็นคนกดระเบิดบนสกายวอล์ก ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี ส่วนสาเหตุเกิดจากการแก้แค้นให้กับชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับไปจีน ต่อมาวันที่ 24 พ.ย. ศาลทหารกรุงเทพรับฟ้องผู้ต้องหาทั้งสองใน 10 ข้อหาหนัก อาทิ มีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อนุญาตไว้ในครอบครอง ใช้วัตถุระเบิดในการกระทำผิด ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน คดีนี้ขออนุมัติหมายจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 17 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่ร่วมในขบวนการ รวมถึงนางวรรณา สวนสัน หรือไมซาเลาะห์ ผู้จัดหาห้องพักให้ผู้ต้องหา และนายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู ชาวตุรกี สามีนางวรรณา ซึ่งหลบหนีไปที่ตุรกีและมีข่าวว่าถูกจับตัวได้แล้ว
+++การเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 51 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เมื่อคืนวันที่ 26 มิ.ย. ขณะนั่งอยู่ในรถยนต์เลกซัส สีดำ โดยมี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ เป็นคนขับ พุ่งไปชนต้นไม้ข้างทาง บริเวณถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ระหว่างซอย 48-50 เขตประเวศ พ.ต.ท.บรรยินได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนนายชูวงษ์เสียชีวิต คดีนี้เหมือนเป็นอุบัติเหตุ แต่หลังจัดงานศพเสร็จแล้ว ญาติกลับพบพิรุธการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ไปยังบุคคลอื่น จึงสงสัยว่าอาจเป็นฆาตกรรมอำพราง ตำรวจกองปราบฯ ตรวจพบพิรุธ มีการแก้ไขข้อความในเอกสารจาก “จำนำหุ้น” เป็น “โอนหุ้น” เขียนนามสกุลผิดจาก “แซ่ตั๊ง” เป็น “แซ่ตั้ง” ใช้ปากกาพิเศษที่ลบได้มาเขียนในใบโอน และโทรศัพท์ที่ใช้ยืนยันการโอนก็เป็นเบอร์ของ พ.ต.ท.บรรยิน กระทั่งวันที่ 4 ส.ค.ศาลอนุมัติหมายจับ พ.ต.ท.บรรยิน น.ส.กัญฐณา ในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร ลักทรัพย์ และรับของโจร และอนุมัติหมายจับ น.ส.อุรชา นางศรีธรา ในข้อหาลักทรัพย์และรับของโจร
++++ความขัดแย้งในกระทรวงสาธารณสุข นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกมาเปิดศึกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ถึงการใช้งบไม่ตรงวัตถุประสงค์ จนเป็นเหตุให้ รพ.ในสังกัด สธ.ขาดทุน กลายเป็นประเด็น แบ่งเป็นฝักฝ่ายระหว่างประชาคมสาธารณสุขหนุน นพ.ณรงค์ และกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ หมอชนบทฝั่ง สปสช. กลายเป็นปัญหาการเมืองไม่จบ สุดท้าย นพ.ณรงค์ ถูกย้ายไปสำนักนายกรัฐมนตรี เหตุเพราะถูกตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่าไม่สนองงานรัฐมนตรีว่าการ สธ. ซึ่งขณะนั้นคือ นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน จนประชาคมสาธารณสุขออกมาร้องขอความเป็นธรรม สุดท้าย นพ.ณรงค์ได้กลับมา สธ.แต่เปลี่ยนรัฐมนตรี เป็น นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นรัฐมนตรีมาบริหารแทน หนำซ้ำ นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช. ถูกย้าย ด้านสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ก็ถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบการใช้งบจน ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส.ต้องลาออก
++++ประเด็นร้อน กลุ่มดารา โพสต์ภาพดื่มเบียร์ลงอินสตาแกรม หรือไอจีส่วนตัว จนเป็นประเด็นว่า เป็นการโฆษณาทางอ้อม เข้าข่ายผิดมาตรา 32 พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 กระทั่ง นพ.สมาน ฟูตระกูล ผอ.สำนักงานควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ออกมาเชิญกลุ่มดารา ซึ่งเมื่อตรวจสอบมีอีกกว่า 50 คน มาให้ข้อมูล เพื่อเชื่อมโยงว่ารับเงินจากธุรกิจน้ำเมาหรือไม่ ซึ่งเกิดดราม่าตามมาในโลกโซเชียล ทั้งกลุ่มดารา และประชาชนทั่วไปว่า ไม่ทราบกฎหมาย แค่โพสต์เฉยๆ เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ลุกลามไปถึงลานเบียร์สะดุ้งอีกว่า ผิดกฎหมาย เพราะเข้าข่ายโฆษณา หรือส่งเสริมการขาย
+++ผลงานหนึ่งเดียวที่เห็นผลเป็นรูปธรรมมากที่สุด ของการกลับมาทำหน้าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)ของหม่อมราชวงศ์ สุขุมพันธ์ บริพัตร นั่นก็คือการจัดระเบียบทางเท้า ซึ่งจุดสำคัญที่ กทม.จัดระเบียบในปี 2558 นี้คือ "ตลาดคลองถม" ย่านการค้าเก่าแก่ชื่อดัง โดยห้ามมีการวางสิ่งของบนทางเท้าเด็ดขาด เพื่อแก้ปัญหาจราจรบนถนนโดยรอบ และอีกจุดที่เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยคือ "ตลาดสะพานเหล็ก" ย่านการค้าในตำนานที่ปิดฉากลงใน 33 วัน สาเหตุที่ต้องจัดระเบียบเพราะมีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำคลองโอ่งอ่าง ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน
+++ส่วนเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2558 ในพื้นที่กรุงเทพฯ เกิดฝนตกหนัก ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังบนถนนสายหลักหลายจุด ประชาชนต้องเผชิญรถติดเป็นเวลานาน หนำซ้ำยังเกิดเหตุต้นไม้ล้ม และตึกทรุดอีกด้วย คนกรุงเทพฯต่างวิพากษ์วิจารณ์ความเห็นอย่างกว้างขวางของการเตรียมรับมือฝนตกของ กทม. ทั้งๆ ที่ปริมาณฝนเพียง 70 มิลลิเมตรเท่านั้น ที่สำคัญยังไร้เงาผู้ว่าฯ ที่ทุกคนหวังจะออกมาร่วมทุกข์ร่วมสุข ซึ่งเช้าวันต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวอ้าแขนรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น โดยสาเหตุสำคัญเพราะ กทม.ได้กักเก็บน้ำในคลองแสนแสบไว้สูงเพื่อเกษตรกรและเพื่อการสัญจร ซึ่งขณะนั้นยังอยู่หน้าแล้ง จึงไม่ได้พร่องน้ำเพื่อรับมือกับฝนตกหนัก ซึ่งยังไม่เข้าสู่ฤดูฝน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ก็กล่าวบนเวทีแถลงข่าวว่า "กรุงเทพฯเป็นเมืองน้ำ เป็นเมืองฝน ถ้าไม่อยากเจอน้ำท่วมก็ขึ้นไปอยู่บนดอย"
++อุกกาบาตตก 2ครั้ง เช้าวันที่ 7 กันยายน 2558 มีผู้บันทึกภาพลูกไฟพวยพุ่งจากท้องฟ้าสว่างวาบ โดยสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) ให้ข้อมูลว่าเป็น "อุกกาบาต" เส้นผ่านศูนย์กลาง 3.5 เมตร น้ำหนัก 66 ตัน ความเร็วที่พุ่งเข้ามาในโลกวัดได้มากกว่า 75,600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีค่าเทียบเท่าการระเบิดของทีเอ็นที 3.9 กิโลตัน ในเวลาห่างกันไม่นานนัก ค่ำคืนของวันที่ 2 พฤศจิกายน 2558 พบลูกไฟสว่างวาบ สีเขียว ตกลงมาจากฟ้าอีกครั้ง โดยเบื้องต้น สดร.คาดว่าจะเป็นลูกไฟที่เกิดจากวัตถุขนาดเล็กผ่านเข้ามาในชั้นบรรยากาศโลกด้วยความเร็วสูงมาก เสียดสีจนเกิดความร้อนจนลุกไหม้ เห็นเป็นลูกไฟสว่างและมีควันขาวเป็นทางยาว
+++ปิดท้าย สหพันธ์ดาราศาสตร์สากล (ไอเอยู) จัดตั้งโครงการ เนมเอกโซเวิลด์ส (NameExoWorlds) ซึ่งมีเป้าหมายในการจะตั้งชื่อสามัญให้แก่ดาวต่างระบบ จำนวน 20 ดวง โดยเปิดโอกาสให้ชาติต่างๆ เสนอชื่อเข้าไป และตัดสินด้วยการ ลงคะแนนเสียงออนไลน์จากทั่วโลก มีองค์กรทางดาราศาสตร์กว่า 584 องค์กรทั่วโลกร่วมเสนอชื่อ สมาคมดาราศาสตร์ไทยก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย ซึ่งทางสมาคมดาราศาสตร์ไทยได้เลือกเอาชื่อ "ตะเภาแก้ว" ซึ่งเสนอโดย ด.ญ. ศกลวรรณ ตระการรังสี และคณะทำงานของสมาคมดาราศาสตร์ไทยเสนอให้เพิ่ม ชาละวัน และ ตะเภาทอง เข้าไปด้วย เพื่อเป็นชื่อให้แก่ระบบสุริยะของดาว 47 หมีใหญ่ (Ursae Majoris) เนื่องจากอยู่ในกลุ่มดาวที่ตรงกับดาวจระเข้ของไทยซึ่งสอดคล้องกับตัวละครในเรื่องไกรทองพอดี โดยให้ชื่อ ชาละวัน แก่ดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์บริวาร 2 ดวงให้ชื่อตะเภาแก้วและตะเภาทอง จนในที่สุด มีคะแนนโหวตจากทั่วโลกให้คะแนนแก่ดาวทั้ง 3 ดวง ไอเอยูจึงประกาศผลให้ดาวชาละวัน-ตะเภาแก้ว-ตะเภาทอง ชนะการคัดเลือก ได้เป็นชื่อสามัญของดาว 47 หมีใหญ่ อย่างเป็นทางการ