ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.
+++เหตุการณ์ ครั้งประวัติศาสตร์ของพสกนิกรชาวไทย เกิดขึ้นถึง 2 งานภายในปีเดียวกัน ยังความปลื้มปีติยินดีเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ เมื่อ “สมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” ทรงมีพระราชปณิธานที่จะจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 83 พรรษา วันที่ 12 ส.ค.2558 เพื่อแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที ความจงรักภักดี และเป็นการแสดงความสามัคคีของประชาชนชาวไทย ภายใต้ชื่อกิจกรรม “BIKE FOR MOM ปั่นเพื่อแม่” โดยกำหนดจัดในวันที่ 16 ส.ค.2558และกิจกรรม กิจกรรม จักรยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธ.ค.2558 “ปั่นเพื่อพ่อ BIKE FOR DAD” และทรงนำขบวนพสกนิกรผู้เข้าร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ ระยะทาง 29 กิโลเมตรเท่ากันทั่วประเทศ
++++สรุปข่าวการเมืองในรอบปี 2558 ส่งท้ายปีเก่า กับประเด็นร้อนอุทยานราชภักดิ์ หลังการแถลงผลสอบข้อเท็จจริงที่เพิ่งแถลงไปสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวาน พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการดำเนินการโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ (คกก. แถลงผลสอบราชภักดิ์ กลาโหมแจงตัวเลขยิบ สรุปยอดเงินงบกลาง-บริจาค รวม 866 ล้านบาท ใช้ไปแล้ว 816 ล้าน แต่ไม่วินิจฉัยถูกผิด เพราะไม่มีอำนาจ ตั้งข้อสังเกตการใช้ระเบียบไม่รัดกุม เร่งรีบสร้าง รับบริจาคไม่ผ่านระเบียบสำนักนายกฯ เตรียมส่งผลสอบ 16 หน้าให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนประเด็นการปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน กำหนดไว้ 72 ต้น ต้นละ 3 แสนบาท และมีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคอีก ย้ำว่ากิจกรรมดังกล่าวไม่ได้ซื้อต้นไม้มาปลูก ภาคเอกชนเป็นผู้สนับสนุนต้นไม้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และรับบริจาคเงินที่ผู้ประสงค์เข้าร่วมกิจกรรม และจะมีการนำชื่อไปติดไว้ที่หน้าต้นไม้ไว้เป็นเกียรติ ซึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าวมีรายได้รวมทั้งสิ้น 77 ล้านบาทเศษ หักค่าใช้จ่าย 1 ล้านบาทเศษ ซึ่งมีรายรับรายจ่ายชัดเจน ขณะนี้เหลือ 76 ล้านบาทเศษ และเงินจำนวนดังกล่าวได้นำเงินเข้าบัญชีกองทุนสวัสดิการอุทยานราชภักดิ์ และจากการตรวจสอบพบว่ามีการดำเนินการตามแผนงานที่ได้กำหนดไว้ทุกอย่าง
+++ส่วนประเด็นโรงหล่อ พล.อ.ชัยชาญตอบว่า จากที่ตรวจสอบ บางท่านก็ไม่ให้ข้อมูล บางท่านก็ตามตัวไม่ได้ ประเด็นนี้อยู่นอกเหนืออำนาจของ คกก. แต่ให้ข้อสังเกตว่าให้หน่วยงานที่มีอำนาจดำเนินการ ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อพล.อ.อุดมเดชและคนใกล้ตัวไม่มีการทุจริต แต่ทำไมคนใกล้ตัวลาออก หนีออกต่างประเทศ ที่สังคมอยากทราบ รองปลัดกลาโหมตอบว่า ได้ขอความร่วมมือมาสอบข้อเท็จจริง แต่ก็ไม่ได้มา ไม่สามารถตามตัวได้ ดังนั้นสิ่งนั้นมีเหตุผลอย่างไรที่จะสรุปได้ คนที่ตามไม่ได้หรือคนที่หนีไป เป็นคดีอื่น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งเป็นคดีตามหมายศาลทหารกรุงเทพออกหมายจับเรียกสอบไม่ได้
++ในเอกสารของคณะกรรมการฯ ได้ระบุถึงชื่อที่เชิญมาในลำดับที่ 7 คือ นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ หรือเซียนพระชื่อดัง ในประเด็นค่าที่ปรึกษา โดยมีเฉพาะช่องเงินบริจาคคืน 20 ล้านบาท ซึ่งหากนำเงินบริจาคของ 6 บริษัทรวมกันทั้งหมด ก็ตรงกับข่าวที่ก่อนหน้านี้ว่าได้เรียกค่าหัวคิวและได้บริจาคคืนให้กองทัพบกวงเงิน 20 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าวงเงินที่ถูกเรียกค่าหัวคิวและนำกลับมาบริจาคนั้น เป็นจุดทศนิยม ซึ่งเป็นการคำนวณจากเปอร์เซ็นต์ของวงเงินการหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์แต่ละพระองค์
+++อีกข่าวเรื่องร้อน หลังมีความพยายามกันมานาน การถอดยศ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นับตั้ง แต่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 2 ปี ในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินถนนรัชดาภิเษก แต่ก็ไม่มีรัฐบาลใดสามารถถอดยศได้สำเร็จ โดยเฉพาะรัฐบาลที่มาจากเครือญาติ จนมาถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เน้นปราบโกง สกัดกั้นคนทุจริต ที่เห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นกรณีกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และมีความจำเป็นต้องดำเนินการเป็นการด่วน ทั้งได้ตรวจสอบข้อกฎหมายตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการถอดยศตำรวจ พ.ศ. 2547 และข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่ามีมูล จึงใช้คำสั่งหัวหน้า คสช. อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ถอดยศ ได้ในที่สุด โดยไม่ใช้ขั้นตอนตามปกติ เพราะไม่อยากให้กระทบถึงเบื้องสูง.
++++ภารกิจต่อเนื่องของ คสช. และรัฐบาล หลังการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 จนล่วงเข้าสู่ปี 2558 ซึ่งเป็นภารกิจที่สองของการบริหารราชการแผ่นดิน คือการสลายขั้วข้าราชการระดับสูงในหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ของรัฐบาลที่มีความใกล้ชิดกับกลุ่มอำนาจเก่า บริหารงานไม่เข้าตา หรือพัวพันกรณีทุจริต โดยมีการลงดาบม.44 ครั้งใหญ่ฟันข้าราชการและนักการเมืองท้องถิ่นกว่า 71 ราย หนึ่งในนั้นคือ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายก อบจ.สมุทรปราการ คนดังแห่งเมืองปากน้ำให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนศาลฎีกาจะตัดสินจำคุกนายชนม์สวัสดิ์ด้วยคดีโกงการเลือกตั้งในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีการใช้มติ ครม.แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในกระทรวงใหญ่ เช่น กระทรวงมหาดไทย มีการแต่งตั้งนายกฤษฎา บุญราช ขึ้นแท่นปลัดกระทรวงคนแรกในรอบ 100 ปี ที่เป็น “สิงห์ทอง” จบจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
++++ครั้งแรกของประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อต้นปี 58 ได้มีมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯออกจากตำแหน่ง ด้วยคะแนน 190 ต่อ 18 งดออกเสียง 11 เสียง พร้อมตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี จากกรณีที่ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดว่ามีพฤติการณ์ส่อว่าจงใจใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปี 2550 และส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ.2534 มาตรา 11 (1) กรณีไม่ยับยั้งความเสียหายปล่อยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวซึ่งนับว่าเป็นอดีตนักการเมืองคนแรกที่ถูกถอดถอนจากกระบวนการทางรัฐสภาไทยได้สำเร็จเพราะในอดีตที่ผ่านมา สภายังไม่เคยถอดถอนนักการเมืองคนไหนได้เลย ต่อมาในวันที่ 8 พ.ค. 2558 สนช.ได้ลงมติถอดถอนนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ , นายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ รวมถึงนายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐด้วย.
+++คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ 20 ที่คาดว่าจะคลอดส่งท้ายปี 58 ต้องคว่ำลงไปเมื่อวันที่ 6 ก.ย.58 ในการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) เมื่อสปช.สายทหาร –สายตำรวจ เดินสายล็อบบี้ช่วงโค้งสุดท้ายล้มร่างรัฐธรรมนูญภายใต้การนำของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญด้วยคะแนนเสียง 135 ต่อ 105 ท่ามกลาง 2 เหตุผลหลัก คือ ไม่พอใจเนื้อหา โดยเฉพาะคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและปรองดองแห่งชาติ (คปป.) ที่กลายเป็นระเบิดลูกสุดท้ายและต้องการขยายเวลาให้ คสช.อยู่ต่อไประยะหนึ่งสบาย ๆ จากนั้นวันที่ 5ต.ค.58 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ได้ตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) 21 คน มี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ปรมาจารย์ด้านกฎหมาย มารับศึกรอบใหม่ ภายในเวลา 180 วัน ก่อนวัดใจคนไทยทั้งประเทศในการทำประชามติ “ผ่าน-ไม่ผ่าน” กลางปี 59ต้องมาลุ้นกันอีกที
ส่วนคดีที่คนทั้งประเทศให้ความสนใจคือการดำเนินคดีที่เกี่ยวกับ “โครงการรับจำนำข้าว”ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เพราะมีทั้งในส่วนคดีทางอาญา ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯกับพวก ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามความเห็นของ ป.ป.ช.โดยจะไปสืบพยานนัดสุดท้ายในช่วงปลายปี 59 และในส่วนของการเรียกเก็บค่าเสียหายจากโครงการดังกล่าว จากผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรัฐบาลได้ใช้วิธีการออกคำสั่งทางปกครอง ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ ปี 2539 ซึ่งจะมีอายุความถึงเดือน ก.พ. 2560 ผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไรเราคงต้องตามกันต่อไป
+++ปีนี้เป็นเป็นสูญเสียเกจิชื่อดัง วันที่ 16 พ.ค.58 เวลา 11.45 น. พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เกจิชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้ละสังขารมรณภาพอย่างสงบ หลังมีอาการอาพาธหัวใจหยุดเต้น ขณะเข้ารักษาตัวที่ชั้น 2 ห้องไอซียู โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เมื่อวันที่ 15 พ.ค.58 สิริอายุ 92 ปี 71 พรรษา โดยมีการนำสรีรสังขารหลวงพ่อคูณเพื่อเป็น“อาจารย์ใหญ่ โดยจะดองสรีระหลวงพ่อคูณเพียงร่างเดียว ภายในอ่างสเตนเลสลวดลายกนกสวยงามที่สั่งบริษัทกนกไทยกรุ๊ปทำเป็นพิเศษ เมื่อครบกำหนด 1 ปี จึงจะนำสังขารหลวงพ่อคูณออกมาให้นักศึกษาแพทย์ใช้ศึกษาอีก 2 ปี รวมเป็นเวลา 3 ปี ก่อนจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในเดือน พ.ค. 2561