การชี้แจงข้อสงสัยการจัดงานกรุงเทพ แสงสีแห่งความสุข นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึง การใช้งบประมาณในการจัดทำแผงไฟประดับ แอลอีดี ว่า กทม.ไม่กังวลว่าจะกลายเป็นประเด็นทางการเมืองเพราะดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน กทม. ได้ร่วมกับรัฐบาลในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ถ้าจะกังวลก็คงเป็นเรื่องการถูกจับตามองจากหลายฝ่าย จึงไม่กล้าทำผิดกฎหมายหรือทุจริตแน่นอน เพราะคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีนโยบายปราบปรามการทุจริตอยู่แล้ว อีกทั้งมีมาตรา 44 คอยกำกับดูแลหน่วยงานรัฐอยู่ ขอแช่งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงานหากมีใครทุจริตตามที่เป็นข่าวจริง ยืนยันไม่มีการทุจริตแน่นอน เนื่องจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มาตรวจสอบแล้ว และขอให้ทุกคนเปิดใจในการชื่นชมไฟประดับ เนื่องจากเป็นงานศิลปะ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนจะมองว่าสวยงามหรือไม่ ซึ่งการจัดไฟครั้งนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ชำนาญการด้านไฟฟ้ากว่า 100 คน ช่วยกันเร่งจัดแผงไฟตลอด 24 ชั่วโมงไม่ได้พักเพื่อให้ทันตามกำหนดที่ กทม. ตั้งไว้ จึงขอให้ให้มองด้วยใจที่เป็นธรรม ไม่ใช่อคติ เพราะถ้ามองด้วยภาพ 2 มิติ ผ่านภาพถ่ายความสวยงามลดลงถึงร้อยละ80 จึงอยากขอให้กลุ่มคนที่วิพากษ์วิจารณ์มาชื่นชมความสวยงามในสถานที่จริง ซึ่งจะเปิดให้เข้าชมในวันนี้วันแรกในเวลา 18.00น.
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่าบริษัทชนะการประมูลเข้ามาเตรียมงานก่อนที่ผลการประมูลจะออก รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในวันที่ 17 ธ.ค.มีการเปิดประมูลและได้ผู้ชนะทันที จากนั้นวันที่ 18 ธ.ค. กทม. จึงได้ทำหนังสือแจ้งให้บริษัทที่ชนะเข้ามาดำเนินการได้เลยเพราะอยากให้เสร็จเร็ว แต่ขั้นตอนการออกสัญญาเป็นวันที่ 22 ธ.ค. ทำให้เห็นว่าบริษัทเข้าไปจัดไฟก่อนวันที่มีสัญญา ซึ่งเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากที่วิจารณ์กันในอินเตอร์เน็ตและ ข้อมูลที่ สตง. ได้รับโดยมีการเปิดประมูลบริษัทจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ มีบริษัทขอเอกสารถึง 9 ราย ที่เข้ามาร่วมดำเนินการภายใต้ข้อกำจัดด้านเวลาที่ต้องรวดเร็ว สวยงาม และให้ความรู้ประชาชน ตามที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. แต่ท้ายสุดเมื่อถึงเวลาประมูลพบว่ามีเพียง 2 บริษัทที่มีความพร้อมในการเข้าร่วมประมูล และในที่สุดบริษัท คิวริโอ ทัวร์ แอนด์ แทรเวิล จำกัด เป็นผู้ชนะการประกวดราคา ด้วยวงเงิน 39,500,000 บาท ทำสัญญาเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2558แต่ด้วยระยะเวลาและเงื่อนไขที่ค่อนข้างมาก การประมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์จึงค่อนข้างเปิดกว้าง นายอมร ยืนยันว่า จากการตรวจสอบภายหลัง พบว่า ได้ระบุในการจดทะเบียนตั้งบริษัทว่าสามารถดำเนินการเกี่ยวกับการติดตั้งไฟประดับได้ กทม. จึงอนุญาต
นายอมร ยืนยันว่า กิจกรรมนี้คุ้มค่ากับเงิน 39 ล้านบาท ไม่มีทุจริตแน่นอน ซึ่งยอดเงินงบประมาณเกือบ 40 ล้านบาท ที่จัดไฟ เป็นการพิจารณาจากผู้ว่าฯ กทม.ที่เห็นว่าคุ้มค่าแล้ว เพราะประเทศอื่นใช้งบประมาณเป็นร้อยล้าน หากให้เอกชนช่วยจัดจะออกมาพร้อมกับป้ายโฆษณา ไม่อยากให้ภาพแห่งความสุขติดภาพถ่ายโฆษณา อีกทั้งยังเป็นการใช้งบประมาณที่จำกัดมากๆ และไม่อยากให้ประชาชนถ่ายภาพที่ติดการโฆษณาไปด้วย และการดูผ่านโชเชียลอาจไม่สวย อยากให้ลองมาดูของจริงก่อนที่จะตัดสิน
ผู้สื่อข่าว:พนิตา สืบสมุทร