*สรุปเด่นรอบโลกรอบปี:ระเบิดกรุงปารีส-แผ่นดินไหวเนปาล-กรีซผิดนัดชำระหนี้*

30 ธันวาคม 2558, 06:08น.


ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.



+++เหตุการณ์สำคัญส่งท้ายปี 2015 ที่ต้องกล่าวถึง คือ เหตุก่อวินาศกรรมอย่างน้อย 6 จุดกลางกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 130 ราย รวมถึงผู้เสียชีวิต 89 รายที่โรงละครบาตากล็องเพียงแห่งเดียว จากฝีมือของกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เป็นสมาชิกกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่มีเครือข่ายในยุโรป ล่าสุด พันเอกสตีฟ วอร์เรน โฆษกกองทัพสหรัฐฯประจำฐานทัพแบกแดด เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่านายชาราฟฟ์ อัล-มัวอาดาน พลเมืองฝรั่งเศสเสียชีวิตในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศที่นำโดยสหรัฐฯเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พร้อมกล่าวว่านายมัวอาดาน กำลังวางแผนเพื่อโจมตีตะวันตกอีกระลอก  มัวอาดาน มีอายุ 26 ปี เป็นบุตรคนสุดท้องจากทั้งหมด 8 คนของสามีภรรยาคู่หนึ่งที่เกิดในโมร็อกโก เขาเติบโตในย่านชานกรุงปารีสและเคยถูกจับกุมในเดือนตุลาคม 2012 ขณะกำลังเตรียมเดินทางออกไปยังเยเมนหรือไม่ก็อัฟกานิสถานผ่านโซมาเซีย พร้อมกับเพื่อนบ้านอีก 2 คน แหล่งข่าวใกล้ชิดกับทีมสืบสวนบอกกับเอเอฟพี  สหรัฐ ยังพาดพิงถึงชายอีกคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการปลอมแปลงและมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายโจมตีปารีส แต่เขาปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติม  



+++ด้าน กองทัพอิรักประกาศปลดปล่อยเมืองรามาดีจากกลุ่มไอเอสในวันจันทร์(28ธ.ค.) หลังได้รับชัยชนะครั้งสำคัญเหนือนักรบญิฮัด ในเรื่องนี้พันเอกวอร์เรน บอกว่าส่วนหนึ่งในความสำเร็จในรามาดีและพื้นที่อื่นๆคือการสังหารเหล่าแกนนำ



+++ในวันที่ 24 มีนาคม ผู้คนทั่วโลกต่างก็ต้องตกตะลึง หลังเกิดโศกนาฎกรรมเครื่องบินโดยสารแบบแอร์บัส A320-211 ของสายการบิน “Germanwings” ประสบอุบัติเหตุตกในเทือกเขาแอลป์สของฝรั่งเศส เป็นเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 150 ชีวิตบนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด



++++จากนั้น 25 มีนาคม ทางการซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นชาติผู้นำโลกมุสลิมฝ่ายสุหนี่ พร้อมด้วยพันธมิตรอาหรับอีกหลายประเทศเริ่มการเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเยเมนร่วมกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องรัฐบาลเยเมนจากภัยคุกคามของกลุ่มกบฏฮูตีส์ที่เป็นพวกมุสลิมนิกายชีอะห์และได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน ซึ่งเป็นชาติผู้นำมุสลิมของฝ่ายชีอะห์และยังเป็นคู่แข่งสำคัญของซาอุดีอาระเบีย ในการแข่งขัน-แย่งชิง-แผ่ขยายอิทธิพล เหนือภูมิภาคตะวันออกกลางมาช้านาน



++++เหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในประเทศเนปาล ซึ่งสามารถวัดความรุนแรงได้ที่ระดับ 7.8 ตามมาตราแมกนิจูดเมื่อวันที่ 25 เมษายน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 9,018 ราย ทั้งในเนปาล อินเดีย จีน และบังกลาเทศ ซึ่งในจำนวนนี้ถือเป็นผู้เสียชีวิตเฉพาะในเนปาลประเทศเดียวมากกว่า 8,857 ราย ยังไม่นับรวมกับผู้เสียชีวิตอีกอย่างน้อย 218 รายจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงครั้งที่ 2 ในเนปาล ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมและวัดความรุนแรงได้ที่ระดับ 7.3 ตามมาตราแมกนิจูด



++++ส่วนเรื่องราวเศรษฐกิจ  1 กรกฎาคม ตลาดการเงิน-ตลาดทุนทั่วโลกพากันผันผวนปั่นป่วนอย่างหนัก หลังจากที่กรีซได้เขียนหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ที่ไม่น่าจดจำด้วยการกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วประเทศแรกที่ “ผิดนัดชำระหนี้” ต่อทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)ในรอบ 71 ปี นับแต่ที่มีการก่อตั้งองค์กรทางการเงินระหว่างประเทศแห่งนี้ขึ้น



+++ส่วนความคืบหน้า ล่าสุดกลุ่มองค์กรความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organization :SCO) ประกาศจะพิจารณาคำขอของรัฐบาลอิหร่านในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์กรทันที หากทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN Security Council) ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งปวงที่บังคับใช้



++++ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่สัญชาติอังกฤษ-ดัตช์อย่าง “เชลล์” ประกาศแผนจ่ายคืนหนี้สินก้อนโตกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ให้แก่รัฐบาลอิหร่าน ในทันทีที่มาตรการคว่ำบาตรทั้งปวงต่ออิหร่านถูกยกเลิกเช่นเดียวกัน  รายงานข่าวระบุว่า หนี้สินก้อนดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นเงินที่บริษัทเชลล์ค้างชำระ “ค่าน้ำมัน” ที่สั่งซื้อจากรัฐบาลอิหร่าน เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของโลกตะวันตกที่นำโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกา มีข้อกำหนดห้ามการจ่ายเงินทุกรูปแบบแก่รัฐบาลเตหะราน ซึ่งครอบคลุมการห้ามชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่มีการสั่งซื้อจากอิหร่าน ราคาน้ำมันฟื้นตัวในวันอังคาร(29ธ.ค.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 1.06 ดอลลาร์ ปิดที่ 37.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 37.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(29ธ.ค.)ปรับตัวสู้ขึ้น จากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เช่นเดียวกับการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน ดัชนีอุตสากรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 192.71 จุด ปิดที่ 17,720.98 จุด ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร(29ธ.ค.) ปิดลบเล็กน้อย ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 30 เซนต์ ปิดที่ 1,068.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์



+++จากนั้นในวันที่ 14 กรกฎาคม อิหร่านบรรลุข้อตกลงประวัติศาสตร์ยอมจำกัดขอบเขต ของโครงการพัฒนาทางด้านนิวเคลียร์กับชาติมหาอำนาจกลุ่ม “P5+1” เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่มหาอำนาจจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ระยะเวลา 54 ปี หรือเกินกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา



++++5 สิงหาคม มีการค้นพบซากและชิ้นส่วนของเที่ยวบินมรณะ “MH370” ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส บริเวณนอกชายฝั่งของเกาะเรอูนียง ซึ่งเป็นดินแดนในปกครองของฝรั่งเศสในมหาสมุทรอินเดีย หลังจากที่เที่ยวบินนี้หายไปอย่างเป็นปริศนาตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2014



++++เหตุเหยียบกันตายอย่างน้อย 2,200 ศพเมื่อ 24 กันยายน ของเหล่าผู้แสวงบุญพิธีฮัจญ์ ที่นครเมกกะของซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นโศกนาฏกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและความเชื่อ ที่นำมาซึ่งความสูญเสียมากที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา โดยนอกจากยอดผู้เสียชีวิตที่มีจำนวนดังกล่าวแล้ว ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราว 900 ราย ขณะที่ผู้แสวงบุญที่ยังคงสูญหายจากเหตุสลดระหว่างพิธีฮัจญ์นี้ยังคงมีจำนวนมากกว่า 650 ราย



+++อย่างเข้าสู่ช่วงเดือนตุลาคม ได้เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายระหว่างการเดินขบวนเรียกร้องสันติภาพที่กรุงอังการาเมืองหลวงของตุรกี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 100 รายและได้รับบาดเจ็บมากกว่า 400 รายเมื่อ 10 ตุลาคม ขณะที่ในวันที่ 31 ตุลาคม เที่ยวบิน “KGL9268” ของสายการบินสัญชาติรัสเซีย จากเมืองตากอากาศชาร์ม เอล-ชีคห์ของอียิปต์ ตกในคาบสมุทรไซนายขณะมุ่งหน้าสู่ปลายทางในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก นำมาซึ่งการเสียชีวิตของผู้โดยสาร 217 รายและอีก 7 ลูกเรือ จากนั้นได้เกิดวิกฤตทางการทูตครั้งเลวร้ายระหว่างตุรกีกับรัสเซีย หลังจากที่กองทัพตุรกียิงเครื่องบินขับไล่ของรัสเซียตกในเขตแดนของซีเรียเมื่อ 24 พฤศจิกายน 

ข่าวทั้งหมด

X