หลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกรณีที่พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดกองทัพเมียนมา ส่งสารร้องขอให้ทบทวนพยานหลักฐานจำเลย 2 คนชาวเมียนมา ที่ก่อเหตุฆาตกรรมนักท่องเที่ยว 2 คนบนเกาะเต่า จ. สุราษฏร์ธานี และศาลจังหวัดเกาะสมุย ซึ่งเป็นศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต ซึ่งพลเอกประวิตรเห็นว่า ไม่ได้เป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของไทย แต่อาจเป็นไปได้ว่าได้รับทราบข้อมูลบางอย่าง จึงแสดงความไม่เห็นด้วย แต่กระบวนการยุติธรรมของไทย ก็ยังจะต้องมีขั้นตอนการพิจารณา ทั้งศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา รวมถึงการถวายฎีกา ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรื้อคดี หรือทบทวน เพราะผ่านขั้นตอนนั้นไปแล้ว
พลเอกประวิตร ยังมองว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ จึงไม่ได้การโทรศัพท์เพื่อพูดคุยกับทางการเมียนมาเป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด ส่วนที่มีการชุมนุมเคลื่อนไหว เชื่อว่าจะมีผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งคาดว่าเป็นกลุ่มคนที่ต่อต้านและไม่หวังดีต่อรัฐบาล รวมถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงต้องการให้การทำงานของรัฐบาลสะดุดลง ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ติดตามและสืบหาข้อมูล เชื่อว่าจะนำตัวผู้อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน ส่วนความเคลื่อนไหวของชาวเมียนมา ที่ออกมาประท้วงหน้าสถานทูตนั้น ทางสถานทูตสามารถจัดการได้ ตามระบบรักษาความปลอดภัย และมีเจ้าหน้าที่ของเมียนมา ดูแลอยู่ ไม่มีอะไรน่ากังวล
.
ผสข.สมจิตร์ พูลสุข