+++เหตุการณ์ความรุนแรงครั้งล่าสุด ระหว่างชาวยิวกับชาวปาเลสไตน์ เกิดเหตุชายชาวปาเลสไตน์ 2 คน อายุประมาณ 20 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของอิสราเอลยิงเสียชีวิต หลังจากทั้งคู่ก่อเหตุใช้มีดปลายแหลมจ้วงทวงชาวยิว ที่กำลังเดินอยู่บนฟุตบาทริมถนน นอกเขตเมืองเก่าของนครเยรูซาเล็ม เมื่อวันพุธ ทำให้ชาวยิวได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 คน ส่วนชาวยิวคนที่ 3 เคราะห์ร้าย ถูกกระสุนลูกหลงที่เจ้าหน้าที่ยิงใส่คนร้ายปาเลสไตน์ ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา กลายเป็นศพที่ 3
+++ลูบา แซมมี โฆษกหญิงสำนักงานตำรวจเยรูซาเลม เปิดเผยว่า การโจมตีเกิดขึ้นบริเวณด้านนอกประตูจาฟฟา อีกจุดยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ที่ไปเยือนเขตเมืองเก่าที่มีกำแพงล้อมรอบ ของนครเยรูซาเล็ม คนแรกถูกกระสุนปืนเสียชีวิตคาที่ ส่วนอีกคนบาดเจ็บและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
+++นับตั้งแต่กลางเดือน ก.ย. เกิดเหตุรุนแรงการโจมตีของชาวปาเลสไตน์เกือบรายวัน ซึ่งเกือบทั้งหมดหันมาใช้วิธีใช้อาวุธมีดแทงชาวยิว ส่วนน้อยที่ใช้ปืนยิง หรือขับรถยนต์พุ่งชน และทุกครั้งจะถูกเจ้าหน้าที่อิสราเอล ใช้ปืนยิงตอบโต้ ทางการอิสราเอล กล่าวว่า ความรุนแรงเกิดจากการปล่อยข่าวลือและการปลุกระดมของชาวปาเลสไตน์ ขณะที่ฝ่ายปาเลสไตน์กล่าวว่าเกิดจากความไม่พอใจ ที่มีต่อการปกครองของกองทัพอิสราเอล ยาวนานเกือบ 5 ทศวรรษ
+++นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย และคณะ เดินทางถึงกรุงมอสโก ของรัสเซีย แล้ว ตามกำหนดการเยือนรัสเซียเป็นเวลา 2 วัน เพื่อประชุมสุดยอดประจำปี อินเดีย-รัสเซีย ครั้งที่ 16 กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย คาดว่า การหารือจะเน้นเกี่ยวกับความร่วมมือทางด้านกลาโหม นิวเคลียร์ และอวกาศ นายปูติน เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารมื้อค่ำเป็นการส่วนตัวแก่นายกรัฐมนตรีโมดี
+++เอส. ไจชานการ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย กล่าวว่า ข้อตกลงหลายฉบับถูกเตรียมไว้แล้ว เพื่อการลงนาม หลังการพบปะหารือของผู้นำทั้งสองในวันพฤหัสบดี รัสเซียและอินเดียมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด นับตั้งแต่ยุคสงครามเย็น ถึงแม้ว่าอินเดียจะยังคงเป็นลูกค้ารายใหญ่สุด ของอุตสาหกรรมอาวุธยุทโธปกรณ์ของรัสเซีย แต่ช่วงไม่กี่ปีมานี้อินเดียพยายามหันไปเป็นลูกค้าซื้ออาวุธของชาติอื่นด้วย เพื่อความหลากหลาย โดยจัดซื้อฮาร์ดแวร์กองทัพจากสหรัฐ ฝรั่งเศส และอิสราเอล
+++สำนักนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนของอังกฤษ แถลงว่า จะสอบสวนตามที่สมาชิกสภาร้องเรียนว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯสกัดไม่ให้ครอบครัวมุสลิมที่เป็นชาวอังกฤษขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวพักผ่อนวันหยุดที่ดิสนีย์แลนด์ นางสเตลลา ครีซีย์ สมาชิกพรรคแรงงานซึ่งเป็นฝ่ายค้านอังกฤษ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯไม่ได้ชี้แจงเหตุผลที่ปฏิเสธไม่ให้ครอบครัวชาวอังกฤษมุสลิมขึ้นเครื่องบินจากเมืองกัตวิคเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม คาดว่าเป็นเพราะเจ้าหน้าที่สหรัฐฯไม่ได้รับข้อมูลเพียงพอ และสร้างความไม่พอใจในหมู่ชาวมุสลิมที่รู้สึกว่าถูกแบ่งแยก ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวถือเป็นประเด็นอ่อนไหว หลังจากที่มีกรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องให้สหรัฐฯออกกฏห้ามชาวมุสลิมเข้าประเทศชั่วคราวเพื่อป้องกันกลุ่มก่อการร้ายโจมตี
+++หนังสือพิมพ์บิลด์ของเยอรมนี รายงานอ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลเยอรมนีว่า ตำรวจเยอรมนี อยู่ระหว่างการติดตามไล่ล่า 12 คน ที่เข้าเมืองโดยใช้พาสปอร์ตปลอมของชาวซีเรีย และต่อมาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เบื้องต้นเยอรมนีคาดว่าเอกสารดังกล่าวถูกยึดมาโดยกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)หลังการบุกยึดเมืองร็อกเกาะห์ เมื่อปี 2556 และมอบเอกสารนั้นให้แก่กลุ่มผู้อพยพแบบเดียวกับที่ 2 คนร้ายที่ร่วมก่อเหตุโจมตีกรุงปารีส ฝรั่งเศส ใช้
+++นายลูฮัต ปันไจตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีด้านกิจการความมั่นคงและการเมืองอินโดนีเซียกล่าวว่า ถึงแม้มีการจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรงและสกัดแผนการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธได้หลายครั้ง แต่เชื่อว่าอินโดนีเซียยังคงเผชิญกับภัยคุกคามด้านก่อการร้ายไปจนถึงช่วงเทศกาลวันหยุดยาวนี้ รัฐบาลอินโดนีเซีย ระดมเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง 1 แสน 50,000 นาย รักษาการทั่วประเทศเพื่อคอยดูแลความปลอดภัยตามโบสถ์ สนามบิน และที่สาธารณะอื่นๆ รวมทั้งติดตามไล่ล่านายอาบู วาดาห์ ซานโตโซ สมาชิกกลุ่มติดอาวุธซึ่งเป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดของอินโดนีเซียที่ประกาศภักดีกับกลุ่มไอเอส รัฐมนตรีอินโดนีเซีย กล่าวว่า ได้รับข่าวกรองสำคัญมาว่าอาจมีแนวโน้มกลุ่มหัวรุนแรงโจมตีได้ทุกเมื่อทั้งในช่วงนี้และอนาคต ดังนั้นอินโดนีเซียจึงต้องเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ตามสนามบินและจุดยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงของชาติที่สำคัญอื่นๆ
+++รายงานขององค์การนิรโทษกรรม ระบุว่า มีรายงานกองกำลังรัสเซีย ใช้ระเบิดดาวกระจายในพื้นที่เป้าหมายมากขึ้น นับตั้งแต่รัสเซียเข้าร่วมการโจมตีในซีเรียอย่างเป็นทางการเมื่อ 30 ก.ย.ซึ่งระเบิดดาวกระจายไม่เลือกเป้าหมายโจมตี และบ่อยครั้งที่ระเบิดดาวกระจาย ซึ่งตกถึงพื้นแล้วแต่ยังไม่ทำงาน และเมื่อระเบิดดาวกระจายทำงานแล้ว ก็สามารถทำให้พลเรือนบาดเจ็บสาหัสหรือพิการ แม้กระทั่งเสียชีวิต
+++รายงานระบุว่า มีการใช้ระเบิดดาวกระจายโจมตี 6 ครั้งในจังหวัดฮอมส์, อิดลิบ และอเลปโป ระหว่างเดือนก.ย. - พ.ย. ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 200 ศพ พร้อมกับประณามรัสเซียที่ไม่ยอมรับว่า เข่นฆ่าประชาชน แต่เจ้าหน้าที่รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
+++ส่วนสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรียเข้าขั้นวิกฤตอย่างหนัก ทำให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ต้องการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะรัฐบาลซีเรีย เปิดทางให้มีการนำความช่วยเหลือเช่นอาหารและยารักษาโรค เข้าถึงประชาชนกว่า 13.5 ล้านคน
+++นายไมเคิล โมลเลอร์ ผู้อำนวยการทั่วไปของสหประชาชาติในนครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยว่า จะมีการประชุมที่นครเจนีวาในเดือนม.ค. ปีหน้า เพื่อกดดันให้มีการเจรจา ยุติความขัดแย้งในซีเรีย
+++เรื่องแนวโน้มสถานการณ์น้ำมัน รอยเตอร์ รายงานอ้างนายอับดุลเลาะห์ อัล-บัดรี เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ระบุว่า ความต้องการใช้น้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกจากทั่วโลกอาจจะลดลงในปี 2563 คาดว่า คู่แข่งจะยังคงเดินหน้าผลิตน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาดในปริมาณสูงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าราคาจะดิ่งหนัก
+++โอเปก ยอมรับเป็นครั้งแรกในรายงานเรื่องทิศทางราคาน้ำมันดิบของโลกประจำปี 2558 ว่า การที่คู่แข่ง เช่น อาร์เจนตินา รัสเซีย สหรัฐฯ เม็กซิโกและจีน ผลิตน้ำมันดิบจำนวนมากเข้าสู่ตลาดโลกมีผลกระทบอย่างมากต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ราคาน้ำมันดิบร่วงลงกว่าครึ่งหนึ่งในช่วง 18 เดือนที่แล้ว ดิ่งต่ำสุดในรอบ 11 ปีที่ 36.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันจันทร์ ภาพรวม โอเปกคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะอยู่ที่ 55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปีนี้และขยับขึ้นอีก 5 ดอลลาร์ต่อปี ก่อนจะขยับขึ้นไปที่ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปี 2563
+++สำนักข่าวเอพี รายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ว่า สายการบินรายานี แอร์ (Rayani Air) ของมาเลเซีย เริ่มให้บริการผู้โดยสารเที่ยวบินภายในประเทศ เที่ยวปฐมฤกษ์เมื่อวันอาทิตย์ และเป็นสายการบินอิสลามรายแรกของประเทศ ซึ่งเที่ยวบินเสนอบริการที่ยึดมั่นต่อหลักศาสนา รวมถึง การทำละหมาด ไม่บริการเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ หรืออาหารที่มีเนื้อหมู ขณะที่พนักงานต้อนรับหญิงบนเครื่องก็จะแต่งกายอย่างเคร่งครัด ตามแบบสตรีมุสลิม
+++แนวคิดในการก่อตั้ง รายานี แอร์ เกิดจากเสียงร้องเรียนเป็นจำนวนมาก จากกลุ่มชาวมุสลิมอนุรักษ์นิยม ที่เชื่อว่าโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ จากภัยพิบัติทางอากาศ 2 ครั้ง ที่เกิดกับมาเลเซีย แอร์ไลน์ส สายการบินแห่งชาติ เที่ยวบิน เอ็มเอช 370 ที่หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ตั้งแต่เดือน มี.ค. 2557 และเที่ยวบิน เอ็มเอช 17 ตกในอีกไม่กี่เดือนถัดมา ที่ประเทศยูเครน เกิดจากความโกรธเคืองของพระเจ้า และทางแก้ไขที่พวกเขาแนะนำก็คือ สายการบินจะต้องยึดมั่นต่อธรรมเนียมปฏิบัติของอิสลามอย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยงการลงโทษของพระเจ้า จากปฏิกิริยาที่มีต่อภัยพิบัติ
+++การก่อตั้งรายานี แอร์ ถือเป็นตัวอย่างของความเคร่งในศาสนาที่มีมากขึ้นในมาเลเซีย ประเทศที่ประชากรราวร้อยละ 60 ของทั้งหมด 30 ล้านคน เป็นชาวมุสลิม นายจาฟาร์ ซัมฮารี กรรมการผู้จัดการใหญ่สายการบินรายานี แอร์ กล่าวว่า รายานี แอร์ ตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องของชาวมาเลเซียจำนวนมาก ที่ต้องการสายการบินอิสลาม รายานี แอร์ ไม่ใช่สายการบินศักดิ์สิทธิ์ หรือให้บริการบินไปยังจุดหมายเมืองศักดิ์สิทธิ์ เพียงแต่ต้องการเสนอทางเลือกสำหรับนักเดินทาง และพร้อมที่จะให้บริการแก่ผู้โดยสารทุกเชื้อชาติศาสนา นายราวี อลาเจนดราน และนางขัตติยานี โกวินดาน คือสองสามีภรรยาที่ก่อตั้งสายการบิน โดยชื่อของสายการบินได้จากตัวย่อชื่อของนายราวีและภรรยามารวมกัน