การชี้แจงผลดำเนินงานในด้านกฎหมายในช่วง 1 ปี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า ผลงานและผลที่เกิดจากการทำงานของรัฐบาล จะแยกเป็นด้านต่างๆ เช่น ด้านความมั่งคง เศรษฐกิจ สังคม กฏหมายและกระบวนการยุติธรรม รวมถึงด้านพลังงาน และการต่างประเทศ แต่ไม่ว่าเป็นด้านใดก็ตาม การที่จะให้ผลงานเหล่านั้นเกิดความเรียบร้อยและประสบความสำเร็จจะต้องมีตัวช่วย คือ กฏหมาย ไม่ว่าจะปัญหาใดๆ หากไม่มีกฏหมายรองรับ หรือกฏหมายให้อำนาจเกินว่ากำหนดและข้ามขั้นตอน อาจจะมีจุดจบที่ศาลฎีกา ศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น ซึ่งประเทศที่ใช้กฏหมายเป็นเครื่องมือ เรียกว่า นิติรัฐ คือ ใช้นิติเป็นเครื่องมือ โดยผลงานด้านกฏหมายกระบวนการยุติธรรมและระเบียบต่างๆ เนื่องจากกฏหมายจะต้องใช้กฏหมายเป็นเครื่องมือทั้งสิ้น
นายวิษณุ กล่าวว่า ก่อนวันที่ 22 พ.ค.2557 คนไทยเสียดายโอกาสสิ่งดีๆหลายอย่างที่ค้างคา หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะมองไม่เห็นว่าสถานการณ์จะขยับขึ้นอย่างไรในด้านของกฏหมาย และไม่ได้โทษรัฐบาลในทุกยุคทุกสมัย แต่ปัญหาที่มีและไม่ได้แก้เพราะมีเหตุขัดข้อง ซึ่งรัฐบาลชุดนี้โชคดีเพราะไม่มีเหตุขัดข้อง เพราะบ้านเมืองสงบเหตุขัดข้องก็หมดไป เพราะกฏหมายต้องออกจากสภา แต่สภาผู้แทนราษฎร ยุบ หากเสียงในสภาไม่พอ กฏหมายก็ตกไป และไม่มีการเสนอ กฎหมาย แม้ว่าผู้คนยังมีเสียงคัดค้านในสังคมในแง่กฏหมายต่างๆก็ตาม
นายวิษณุ กล่าวว่า 8 ประเด็นในด้านกฏหมายที่ได้รวบรวมในรัฐบาลชุดนี้ ประกอบไปด้วย คือ พันธะระหว่างประเทศที่ค้างคาและภาระที่ต้องปฏิบัติตาม รัฐบาลจึงเร่งออกกฏหมายจนครบแล้วเหลือแต่การบังคับใช้กฏหมายเท่านั้น ประกอบด้วย กฏระเบียบทางธุรกิจมากมายที่ฉุดเศรษฐกิจไม่เกิดความเข้มแข็ง ตราบใดที่ไม่ออกกฏหมายคะแนนก็ลดลง เพราะไม่มีกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ การขาดการจัดระเบียบสังคมและสิทธิเสรีภาพและความสงบเรียบร้อยของสังคม เพื่อให้เกิดความสมดุล ดังนั้นต้องสร้างความสมดุล ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้ไขแต่ไม่สามารถให้ได้ทั้งหมด การลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เพื่อลดช่องว่างระหว่างสังคมในทุกชนชั้น
นอกจากนี้ ยังมีเรื่อง ระบบราชการของประเทศ ที่เป็นระบบ 4 ช. คือ เชย เชื่องช้า ใช้งบประมาณมาก และเปิดช่องให้ทุจริต ซึ่งจะต้องแก้ให้เกิดความลดลงให้ได้ โลกเปลี่ยนไปแต่กฏหมายไทยถอยหลัง จากกฏหมายคุ้มครองการอุ้มบุญ เพื่อก้าวตามให้ทันโลก ทรัพยากรธรรมถูกกระทบเทือน โดยไม่มีกฏหมายรองรับและต้องรีบแก้ไข และคดีความเต็มศาลและพิจารณาความล่าช้าและไม่ทันสมัย ซึ่งเป็นกระบวนการยุติธรรมของประเทศ แม้รัฐบาลอดีตจะพยายามแก้ไขแต่มีข้อจำกัด เพราะเลือกสภาเดียวและไม่มีฝ่ายค้าน ที่สามารถออก พ.ร.บ. พ.ร.ก. และมาตรา 44 โดยรัฐบาลจะนำความได้เปรียบตรงนี้ใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อเป้าหมายของประเทศ แต่จุดอ่อน คือรัฐบาลไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่จะใช้วิกฤติให้เป็นโอกาสและทำในสิ่งที่ควรทำในเวลาจำกัดเพื่อส่งต่อให้รัฐบาลหน้า
ผู้สื่อข่าว:วิรวินท์ ศรีโหมด