หลังจากการประมูล 4จี บนคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ได้รับรองผลการประมูล เมื่อวันที่ 15-19 ธันวาคม ซึ่งถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ เพราะใช้เวลาประมูลกว่า 87 ชั่วโมง รวม 4 คืน 5 วัน มีเงินประมูลรวม 2 ใบอนุญาตที่ 151,952 ล้านบาท นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กล่าวว่า ที่ประชุมมีมตินับรองผลการประมูลคลื่น 900 Mhz และจะทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการที่ชนะการประมูล ทั้ง 2 รายได้แก่ใบอนุญาตที่ 1 บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ที่ชนะการประมูลไปในราคา 75,654 ล้านบาท และใบอนุญาตที่ 2 บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ที่ชนะการประมูลไปในราคา 76,298 ล้านบาท โดยให้นำเงินค่าประมูลงวดแรก 8,040 ล้านบาท พร้อมด้วยแบงก์การันตีครบจำนวน 67,614 ล้านบาท และ 68,258 ล้านบาท ตามลำดับ มาชำระภายใน 90 วัน
ส่วนของผู้ที่ใช้บริการบนคลื่นความถี่ 900 Mhz ของเอไอเอสที่สิ้นสุดสัมปทานนั้น ยังสามารถใช้บริการได้จนถึงเมื่อมีการออกใบอนุญาตประกอบกิจการ ให้ผู้ที่ชนะการประมูลรายใดรายหนึ่ง ซึ่งน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 วันในการออกใบอนุญาต หลังจากผู้ประกอบการที่ชนะการประมูลนำเงินมาชำระ ซิมจึงจะดับ
ส่วนเรื่องค่าบริการ นายฐากร กล่าวว่า อย่ากังวลเพราะอยู่ภายใต้เงื่อนไข โดยอัตราค่าบริการ 4 จีจะต้องถูกกว่า 3 จีที่ใช้ในปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันค่าโทรจะอยู่ที่ 69 -72 สตางค์ ต่อนาที ส่วนการให้บริการแบบดาต้าจะอยู่ที่ 26 สตางค์ต่อเมกกะไบค์ รวมไปถึงคนที่มีรายได้น้อยและผู้พิการจะต้องได้ใช้บริการที่ถูกกว่าไปอีกระดับหนึ่ง ซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามต้องปรับหรือพักใบอนุญาต ขณะเดียวกันการที่มีผู้ให้บริการเพิ่มขึ้นจะทำให้ประชาชนมีทางเลือกในการรับบริการมากขึ้น ในราคาถูกลงแต่คุณภาพที่ดีขึ้นเพราะระบบแข่งขันในการตลาด
ส่วนความเป็นไปได้หรือไม่ในการขยายสัญญาเช่าคลื่นที่ 1800 MHz ที่ กสท.โทรคมาคม เป็นเจ้าของแต่ขณะนี้ เปิดให้ดีแทคเช่าสัญญาน นายฐากรกล่าวว่า ทั้งสองบริษัทต้องอยู่ภายใต้สัมปทานของรัฐ โดยในวันพรุ่งนี้ จะเป็นวันที่ชำระเงินงวดสุดท้ายในการประมูลคลื่น 3 จี 2100 Mhz ของผู้ประกอบการได้ แก่ ทรูมูฟเอช ดีแทค และเอไอเอส ที่ประมูลไปเมื่อปี 2555 และจะหมดสัมปทานในปี 2570
ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี