โฆษกคสช.ชี้แจงออกหมายเรียกนศ.กลุ่มปชต.ใหม่ 11คน มั่วสุมชุมนุมการเมือง

ตำรวจออกหมายเรียกนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว แกนนำนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ พร้อมพวกรวม 11 คน ข้อหามั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง กรณีจัดกิจกรรมนั่งรถไฟไปตรวจสอบการทุจริตที่อุทยานราชภักดิ์ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ร.ต.ท.อัษฎายุธ ทองสวรรค์ พนักงานสอบสวน สน.รถไฟธนบุรี ยืนยันได้ออกหมายเรียกนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว พร้อมพวกรวม 11 คน ในข้อหามั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ สถานที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปฯ และได้ส่งหมายเรียกไปตามภูมิลำเนา เพื่อแจ้งให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ เวลา 09.00 น.ที่ สน.รถไฟธนบุรี แต่อาจมีบางคนที่พักอาศัยไม่ตรงกับที่อยู่ตามภูมิลำเนา ซึ่งพนักงานสอบสวนจะเร่งตรวจสอบและส่งหมายเรียกไปอีกครั้ง

 

ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่รวม 11 คน รับทราบข้อกล่าวหาฐานมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง กรณีที่เชิญชวนให้ประชาชนร่วมนั่งรถไฟไปตรวจสอบการทุจริตโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งและประกาศ คสช. ว่า หลังจากพิจารณาพฤติกรรมโดยรวม ตั้งแต่อดีตพบว่ามีการเคลื่อนไหวทางการเมืองมาตลอด เริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งใช้ชื่อ “กลุ่มพลเมืองโต้กลับ” จากนั้นได้จัดกิจกรรมที่หอศิลป์ แยกปทุมวัน ภายใต้ชื่อกิจกรรม “เลือกตั้งที่ลัก” และเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 ได้จัดกิจกรรมอีกครั้งภายใต้ชื่อ “ศุกร์ 22 มาฉลองกันมะ” ซึ่งนักศึกษาดังกล่าวมีคดีอยู่ในช่วงระหว่างดำเนินการและได้รับการประกันตัว จากนั้นได้มีการเปลี่ยนชื่อที่ใช้ในการเคลื่อนไหวใหม่ เป็น “กลุ่มประชาธิปไตยใหม่” โดยพฤติกรรม คือ พยายามปลุกปั่นกระแสโจมตี เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือรัฐบาลและ คสช. ด้วยการปลุกระดมผ่านสื่อต่าง ๆ  จนกระทั้งเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2558 เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบว่านักศึกษากลุ่มดังกล่าวกำลังมีเจตนาที่จะจัดกิจกรรมทางการเมือง ในลักษณะให้มีความสอดคล้องกับการจัดกิจกรรมทางการเมืองของแกนนำกลุ่มอื่น

 

ดังนั้น  เพื่อให้สังคมเกิดความสงบเรียบร้อยมากที่สุด เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป สำหรับผู้ที่เข้าข่ายและร่วมในกิจกรรมครั้งนั้นอีกจำนวนหนึ่งได้ให้ความร่วมมือและมีการปรับความเข้าใจ พร้อมตกลงยอมรับเงื่อนไขร่วมกับเจ้าหน้าที่แล้วตามแนวทางลักษณะอะลุ่มอล่วยที่เน้นการขอความร่วมมือเป็นลำดับแรก จึงไม่ได้อยู่ในกลุ่มของ 11 คนที่เจ้าหน้าที่ได้ไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้

ก่อนหน้านี้  เจ้าหน้าที่ได้เชิญกลุ่มที่จัดกิจกรรม “เอาไฟฉายไปส่องหาการทุจริตโครงการอุทยานราชภักดิ์” รวมทั้งหมด 37 คน โดย 26 คนได้ยอมรับเงื่อนไขของเจ้าหน้าที่ในการพูดคุย จึงถือว่าได้เข้าเงื่อนไขคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 3/2558 ข้อ 12 วรรค 2 ที่หากผู้ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมแล้ว มีความสมัครใจในการพูดคุย ทำความเข้าใจ และยอมรับเงื่อนไขของเจ้าหน้าที่ ให้ถือว่าคดีนั้นเลิกกัน