+++วัดบวรนิเวศวิหาร เปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะพระอัฐิ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธมฺมสากิโย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ระบุว่า วันที่ 18 ธันวาคม เปิดให้สักการะ ได้ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00น. ส่วนวันที่ 19 ธันวาคม จะเปิด ให้สักการะพระอัฐิเฉพาะช่วงเช้าถึงราว 14.00น. เนื่องจากในเวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุเสด็จฯในการพิธีพระราชกุศลพระอัฐิ (ฉลองพระอัฐิ) แล้วเชิญพระอัฐิ ขึ้นประดิษฐาน ณ ตำหนักเดิม
+++สภาพอากาศ นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ในช่วงระยะนี้ เช่น ภาคเหนือ ลดลง 3-4 องศาเซลเซียส บางจังหวัดอาจต่ำสุดอยู่ที่ 16 องศาเซลเซียส และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส สำหรับกรุงเทพฯและปริมณฑล อาจได้รับลมเย็นจากตอนเหนือของไทย ทำให้ช่วงวันที่ 17-19 ธันวาคม ช่วงเช้าจะมีอากาศหนาว แต่หลังวันที่ 20 ธันวาคมเป็นต้นไป จะกลับมามีอุณหภูมิปกติเหมือนเดิม
+++นายวันชัย กล่าวว่า ในวันที่ 27-28 ธันวาคม จนถึงช่วงปีใหม่หรือเดือนมกราคม คาดว่า อากาศน่าจะกลับเย็นอีกครั้ง โดยเฉพาะที่ราบสูงในตอนเหนือหรือตะวันออกเฉียงเหนือที่อาจจะหนาวถึง 10 องศาเซลเซียส และอาจมีน้ำค้างแข็งบางจังหวัด คาดว่า อากาศจะไม่หนาวเท่ากับปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังมีมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเป็นแห่งๆ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ดังนั้นขอให้ชาวประมงเฝ้าระวัง
+++ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ต้อนรับ นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ของกัมพูชาและคณะที่เดินทางเยือนประเทศไทยหารือข้อราชการคณะเล็ก การเดินทางมาครั้งนี้ จะมีการหารือกันในหลายมิติ เช่น ด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และความร่วมมือการช่วยเหลือด้านสังคม แต่จะไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องของพื้นที่ทับซ้อนและความขัดแย้งของ2ประเทศ ช่วงสายนายกรัฐมนตรีฮุนเซน จะพบปะกับคณะนักธุรกิจไทย กัมพูชา ที่โรงแรมดุสิตธานี ส่วนช่วงค่ำ นายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีกัมพูชา รวมทั้งเพื่อเป็นการฉลองการครบรอบ 65 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-กัมพูชา ส่วนวันเสาร์ที่ 19 ธ.ค. คณะรัฐมนตรีไทย – กัมพูชา ประชุมเต็มคณะ และนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศจะเป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจหลายฉบับ เช่น บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน ข้อตกลงว่าด้วยการจ้างงานไทย กัมพูชา และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวร เป็นต้น
+++ความร่วมมือไทย-จีน นายหวัง หย่ง มนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าพบนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้าการลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน (JC) ครั้งที่ 4 พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายยืนยันความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน ไทยและจีนมีความร่วมมือระหว่างกันในหลายมิติ ทั้งเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน วัฒนธรรม และสาธารณสุข สำหรับความร่วมมือด้านรถไฟ พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงของไทยในการดำเนินโครงการความร่วมมือด้านรถไฟ หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะหาข้อสรุปร่วมกันในประเด็นที่ยังตกลงกันไม่ได้ นอกจากการส่งเสริมความเชื่อมโยงทางระบบราง ไทยกับจีนควรร่วมมือกันส่งเสริมความเชื่อมโยงอื่นๆ ในภูมิภาคด้วย เช่น เส้นทางถนน การขนส่งทางน้ำและอากาศ และยังประสงค์จะเชิญชวนจีนเข้ามาร่วมพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจภาคใต้ของไทยด้วย
+++นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้มีการหารือถึงการร่วมมือรถไฟไทย-จีน โดยได้ข้อสรุป 4 เร่ง คือ เร่งด้านเทคนิค เร่งด้านต้นทุนและการเงิน เร่งด้านทำสัญญาและข้อตกลงว่าด้วยความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ที่ต้องใช้ในโครงการและเร่งดำเนินการก่อสร้างตามที่กำหนดไว้
+++นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เชิญชวนรัฐบาลจีนและนักธุรกิจจีนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะการลงทุนระบบรางที่จะทำให้มูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างไทยจีนเพิ่มสูงขึ้น การลงทุนของจีนในประเทศไทยช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ มีทั้งสิ้น 45 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 12,000 ล้านบาท โดยจัดอยู่ในลำดับที่ 4 ของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในไทย รองจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย
+++ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ นายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านกิจการภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก หารือนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายรัสเซล เปิดเผยถึงการวางเป้าหมายการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในต้นปีหน้าว่า จะทำอะไรได้บ้างให้กับประเทศในภูมิภาคและประเทศที่กำลังพัฒนา พร้อมหารือถึงประเด็นปัญหาระหว่างประเทศ โดยสหรัฐฯ จะให้ความร่วมมือเรื่องเศรษฐกิจโลก อาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ การโยกย้ายถิ่นฐานที่ไม่ปกติ ไทยและสหรัฐฯจะช่วยวางแผนร่วมกัน นายรัสเซล กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐต้องให้ประชาชนสามารถมีสิทธิการแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นตามหลักสิทธิมนุษยชนสากลและเป็นการแสดงออกขั้นพื้นฐาน
+++นายภุชงค์ นุตราวงศ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ยื่นอุทธรณ์คำสั่งเลิกจ้างของกกต. หลังจากนั้น นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ชี้แจงระเบียบการประเมินเลขา กกต. และการทำงานภายใน กกต.
+++พนักงานสอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จะนำตัว จ.ส.ต.ประธิน จันทร์เกศ อดีตนายตำรวจตระเวนชายแดน , นายณัฐพล ณวรรณ์เล , นายวัลลภ บุญจันทร์ และนายพาหิรัญ กองคำ กลุ่มขอนแก่นโมเดล ผู้ต้องหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 112 มาขออนุญาตฝากขังที่ศาลทหาร เป็นผัดที่ 3 จำนวน 12 วัน
+++การชี้แจงคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายพิเชษฐ์ ทาบุตดา กับพวกรวม 20 คน ซึ่งเป็นกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) จ.อุบลราชธานี ที่ก่อเหตุวางเพลิงศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553 นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า ศาลจังหวัดอุบลราชธานีอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาให้นายพิเชษฐ์ จำเลยที่ 1 และนายชัชวาล ศรีจันดา จำเลยที่ 11 จำคุกตลอดชีวิต พร้อมทั้งพิพากษาให้นางอรอนงค์ บรรพชาติ จำเลยที่ 2, น.ส.ปัทมา มูลมิล จำเลยที่ 5 นายลิขิต สุทธิพันธ์ จำเลยที่ 7 นายธีรวัฒน์ สัจสุวรรณ จำเลยที่ 9 นายสนอง เกตุสุวรรณ จำเลยที่ 12 และนายสมศักดิ์ ประสานทรัพย์ จำเลยที่17 จำคุกคนละ 33 ปี 4 เดือน และพิพากษาให้จำคุก จ.ส.อ.สมจิตร สุทธิพันธ์ จำเลยที่ 16 เป็นเวลา 1 ปี รวมจำเลยที่ศาลฎีกาพิพากษาแก้ทั้งสิ้น 9 คน นอกนั้นให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 3 แต่อาจทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับคำพิพากษาดังกล่าวว่าศาลฎีกา พิพากษาให้ประหารชีวิต นายสืบพงษ์ ชี้แจงเพื่อให้เกิดความถูกต้องว่า คำพิพากษาของศาลจังหวัดอุบลราชธานี ศาลอุทธรณ์ภาค 3 และศาลฎีกาไม่เคยปรากฏโทษประหารชีวิตจำเลย ตามที่เป็นข่าว
+++นายวัฒนา จันทศิลป์ ทนายความเสื้อแดง กล่าวว่า ได้กลับไปดูเอกสารจากคำพิพากษาแล้ว ศาลไม่ได้ลงโทษนายพิเชษฐ์ ทาบุดดา จำเลยที่ 1 ประหารชีวิต โดยลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ไม่ปรากฏโทษประหารชีวิตตามที่ให้ข่าว โดยขอยอมรับในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
+++กรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. กล่าวว่า ในวันนี้ จะเดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจแกนนำ นปช.อุบลราชธานี พล.ท.ธวัช สุกปลั่ง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ของกองทัพภาคที่ 2 จะพยายามดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ให้เกิดความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่ และทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมาย ขอร้องผู้ที่จะเดินทางมา อย่าทำเกินขอบเขตของกฎหมายกำหนด เมื่อศาลฎีกา มีคำพิพากษาออกมาแล้วถือว่าเป็นที่สุด
+++การประมูล 4จี 900 MHz ที่ดำเนินการโดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ก้าวเข้าสู่เช้าวันที่ 4 ของการประมูล นับแต่เริ่มต้นเปิดเสนอราคารอบแรกเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 ธ.ค. 2558 เวลาประมูลล่าสุดอยู่ที่เวลา 05.59น. ประกาศผลการเคาะประมูลรอบล่าสุด 162 ช่วงคลื่นที่ 1 มีผู้เคาะประมูล 1 ราย ราคา 64,062 ล้านบาท ช่วงคลื่นที่ 2 มีผู้เคาะประมูล 2 ราย ราคา 66,316 ล้านบาท ราคารวม 2 ใบอนุญาตอยู่ที่ 1 แสน 30,378 ล้านบาท จบการประมูลคลื่นในช่วงเวลา 00.00 น. – 06.00 น. และจะเริ่มประมูลต่อในเวลา 09.00 น.
+++นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช. กล่าวว่า ผู้เข้าร่วมประมูลขอตรวจร่างกาย เนื่องจากมีปัญหาเรื่องความดัน กสทช. จะให้ผู้เข้าร่วมประมูลทั้ง 4 ราย ตรวจร่างกาย กสทช.นิมนต์พระมาให้ผู้ประกอบการใส่บาตรเมื่อเวลา 06.15 น. ตามที่ขอ แต่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำบุญตักบาตรวันพระ โดยให้ทีมงานนำของถวายพระขึ้นไปให้ผู้ร่วมประมูลอธิษฐานด้านบนห้องประมูลของแต่ละค่าย เพื่อป้องกันการผิดเงื่อนไขการประมูล