*ธปท.- เอกชน มองเฟดขึ้นดอกเบี้ยไม่กระทบไทย อัตราแลกเปลี่ยนอาจผันผวน*

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จากร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 0.25 ถึงร้อยละ 0.50 นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตลาดรับทราบข่าวเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว ในส่วนผลกระทบโดยเฉพาะเรื่องการเคลื่อนย้ายเงินทุนกับไทย อาจยังไม่ชัดเจนมากนัก แต่ยอมรับว่าการดำเนินการของเฟดครั้งนี้ จะมีผลในเรื่องความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรต่างๆ ในตลาดมากกว่า ในส่วนนี้จะกระทบกับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่มากกว่าไทย ขณะนี้ธนาคารกลางหลายประเทศมีการส่งสัญญาณในการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบ ทั้งยุโรป ญี่ปุ่น จีน ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษ ส่งสัญญาณออกมาแล้วว่าจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยจากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นในตลาดการเงินทั่วโลกนี้ อาจจะเกิดผลกระทบในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ค่าเงินสกุลหลัก จะผันผวนมากขึ้น

ด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า การที่เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงตามภูมิภาคซี่งไม่น่าเป็นห่วง ส่วนจะทำให้การส่งออกของไทยดีขึ้นหรือไม่ จะต้องพิจารณาตามเศรษฐกิจโลก เพราะอัตราแลกเปลี่ยนเกี่ยวข้องกันและกัน การส่งออกจะดีขึ้นหรือไม่จะต้องพิจารณาจากการปรับยุทธศาสตร์ของภาคอุตสาหกรรม ขณะนี้ ในส่วนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ปรับยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนไปแล้ว แต่จะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรม สำหรับเศรษฐกิจไทย ขณะนี้ มีเพียงการลงทุนของภาครัฐ และการท่องเที่ยวที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุน

ส่วนทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของไทย คาดว่า จะทรงตัวในระดับปัจจุบันต่อไปไม่ปรับขึ้น เพราะเศรษฐกิจไทยยังไม่เติบโตในระดับร้อยละ 5-6 ต่อปี ทิศทางดอกเบี้ยของไทยจะปรับได้ก็ต่อเมื่อเศรษฐกิจไทยขยายตัวในระดับร้อยละ 4 ขึ้นไป

CR:แฟ้มภาพ