เครือข่ายประชากรข้ามชาติ เรียกร้องไทยแก้พรบ.คนเข้าเมือง หลังถูกวิจารณ์ส่งกลับอุยกูร์

การนำเสนอรายงานสถานการณ์การย้ายถิ่นฐาน แรงงานข้ามชาติ รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสังคมไทย จากการสหประชาชาติ กำหนดให้วันที่ 18ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันแรงงานข้ามชาติสากล ซึ่งในปีนี้ทางเครือข่ายองค์กรที่ทำงานด้านประชากรข้ามชาติ "Migration Crisis to Protection" จึงได้จัดงานแถลงข่าว การนำเสนอสถานการณ์ และรายงานประจำปีเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวขึ้น

นายศิววงศ์ สุขทวี ตัวแทนเครือข่ายองค์กรที่ทำงานด้านประชากรข้ามชาติ กล่าวว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาปัญหาเรื่องการย้ายถิ่นฐาน แรงงานข้ามชาติมีจำนวนมาก ซึ่งในส่วนของประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาเรื่องดังกล่าวเช่นกัน คือ การตรวจสอบ จับกุมขบวนการผู้ที่เกี่ยวของกับขบวนการโรฮิงญา และการผลักดันชาวอุยกูร์กลับไปยังประเทศต้นทางไป สำหรับเรื่องชาวโรฮิงญา ที่ลักลอบหนีออกจากประเทศต้นทางมานั้น ก็เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 2552 เพราะได้หนีปัญหาหาจากการสู้รบภายในประเทศต้นทางออกมา จึงทำให้สถานการณ์ผู้อพยพเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และทำให้ขบวนการค้ามนุษย์เติบโตขึ้นมาตลอดด้วยเช่นกัน เพราะเห็นได้จากปีที่แล้ว ไทยมีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทั้ง กลุ่มผู้มีอิทธิพล เจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งก็ทำให้สถานการณ์การลักลอบเข้าเมืองของชาวโรฮิงญาก็หยุดลงไปได้ แต่เรื่องนี้ในช่วงแรกก็มองว่าทางการไทยดำเนินการได้ถูกต้อง แต่เกิดปัญหาเมื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ลงไปทำงานได้รับผลกระทบ จนต้องถูกย้ายและขอลี้ภัยไปต่างประเทศ จึงทำให้เห็นว่าหน่วยงานต้นสังกัดดูแลเจ้าหน้าที่ที่ลงไปทำงานไม่เต็มที่  จึงอยากให้รัฐมีมาตรการจัดการกับปัญหาดังกล่าวในภาพรวมให้ชัดเจน

ส่วนหน่วยงานหลักในพื้นที่ ที่ดำเนินการในเรื่องนี้ คือ กองอำนวยการรักษาความั่นคงภายในภาค 4ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค4) ถ้าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ก็ขอให้มีการปรับย้ายภารกิจ ให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องโดยตรงดูแล เพราะเห็นว่าการทำงานในเรื่องดังกล่าว ควรทำงานบนพื้นฐานที่คำนึงถึงการปกป้องชีวิตคน มากกว่าการปกป้องดินแดนในการทำงานเรื่องนี้

ขณะที่ปัญหาการลักลอบเข้าเมืองของชาวอุยกูร์ หลังจับที่ทางการไทยจับได้ก็มีการส่งกลับประเทศต้นทาง ทำให้ไทยถูกวิจารณ์งมาก เพราะไม่มีความชัดเจนในกระบวนการพิสูจน์สัญชาติจึงเสมือนเป็นล้มเหลวในการจัดการ จึงอยากเสนอรัฐบาลมีการแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.คนเข้าเมือง 2521 โดยมีการตั้งคณะกรรมการฯ.ขึ้นมาพิจาราณาสถานะของคนเหล่านี้เพื่อทำให้การทำงานกระบวนการพิสูน์สัญชาติมีความชัดเจน

ด้านนายอดิสร เกิดมงคล ตัวแทนเครือข่ายองค์กรที่ทำงานด้านประชากรข้ามชาติ กล่าวว่า ปี 2558 เป็นปีที่มีปรากฎการณ์ผู้อพยพเกิดขึ้นมากในโลก โดยที่บางเรื่องกระทบกับไทย อาทิ ชาวโรฮิงญาที่เกิดกับไทยโดยตรง และกระทบกับหลายประเทศในอาเซียน และวิกฤติผู้อพยพของชาวอุยกูร์ ซึ่งถึงแม้ที่ผ่านมาไทยจะมีมาตราการดำเนินการอย่างเข้มงวด แต่ส่วนตัวมองว่าการจัดการของรัฐบาลไทย ยังไม่มีมาตราการจัดการกับผู้อพยพเหล่านี้ที่ชัดเจน

ส่วนปัญหาการค้ามนุษย์จากแรงงานประมงทะเล ที่ผ่านมาทางการไทยพยายามแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และทุ่มเทการทำงานเป็นอย่างมาก แต่ปัญหาที่เจอคือเรื่องการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ยังน้อยไป ซึ่งเห็นว่าทางรัฐบาลควรปรับปรุงเรื่องนโยบายเกี่ยวกับการแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ชัดเจนด้วยเช่นกัน