ทันสถานการณ์ฯ:นานาชาติยินดีข้อตกลงลดดลกร้อน/เฟดเตรียมขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย/ชาวอิรักชุมนุมไล่ทหารตุรกี*

ผู้นำหลายประเทศทั่วโลกออกแถลงการณ์แสดงความยินดีต่อผลการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 21 หรือ COP21 ที่กรุงปารีสของฝรั่งเศส ซึ่งที่ประชุมสามารถบรรลุข้อตกลงที่มีความชัดเจน จากที่ในการประชุมหลายครั้งที่ผ่านมา มีเพียงการรับรู้ว่าเกิดปัญหา แต่ไม่มีแนวทางปฏิบัติ

นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ชื่นชมว่า นานาชาติได้มาถึงจุดสูงสุดของการตกลงในระบบพหุภาคี

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการช่วยโลกของเรา ซึ่งแม้ว่าข้อตกลงนี้จะมีช่องว่าง แต่หากทุกคนร่วมมือกันก็จะทำให้ปัญหาลดลง ทั้งยังเห็นว่าเป็นโอกาสสร้างงานและเศรษฐกิจในภาคการลงทุนธุรกิจสีเขียว

ด้านนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษ นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี แห่งมนตรีอินเดีย นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ นายจิม ยอง คิม ประธานธนาคารโลก ต่างก็สนับสนุนข้อตกลงนี้เช่นกัน

ผู้เชี่ยวชาญคาดธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ หลังพบว่า เศรษฐกิจขยายตัวและอัตราการว่างงานลดลง หนังสือพิมพ์วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ระบุว่า ร้อยละ 97 ของนักเศรษฐศาสตร์ที่เข้าร่วมในการแสดงความเห็น เชื่อว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมช่วงกลางสัปดาห์นี้ เพื่อยุติเสียงวิจารณ์ที่ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกายังเผชิญกับปัจจัยลดทางด้านเงินเฟ้อและอัตราการว่างงานในระดับสูง

โดยในวันที่ 15-16 ธันวาคมนี้คณะกรรมการตลาดเสรีของเฟดจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นระหว่างธนาคารพาณิชย์ที่เป็นกลไกหลักของเฟด ในการกำหนดทิศทางการเงินทั้งระบบ โดยคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับร้อยละ 0-0.25 ไปอยู่ที่ระดับ 0.25-0.50 ซึ่งนับเป็นการสิ้นสุดการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมาตลอด 7 ปีของเฟด โดยเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นระหว่างธนาคารพาณิชย์ลงสู่ระดับร้อยละ 0 เมื่อปี 2551 เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศเกิดภาวะหดตัวอย่างรุนแรงเข้าสู่ภาวะถดถอย

เหตุเพลิงไหม้โรงพยาบาลจิตเวช ที่หมู่บ้านอัลเฟรอฟกา เขตปกครองโวโรเนช ตอนใต้ของรัสเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 23 ศพ ได้รับบาดเจ็บ 23 คนเจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังกว่า 440 คนและใช้เวลา 3 ชั่วโมงเพื่อควบคุมเพลิงไว้ได้

กลุ่มนักรบติดอาวุธและผู้สนับสนุนหลายพันคนรวมตัวกันที่จัตุรัสตาห์รีร์ในกรุงแบกแดดเมื่อวันเสาร์ เพื่อเรียกร้องให้ตุรกีถอนทหารออกจากเขตแดนของอิรัก ขณะที่ผู้ชุมนุมตะโกนขับไล่ทหารตุรกี และเผาธงชาติตุรกี ส่วนนายนูริ อัล-มาลิกี อดีตนายกรัฐมนตรีอิรัก ได้ไปร่วมการชุมนุมครั้งนี้ด้วย สร้างความยินดีให้แก่ผู้ชุมนุม ที่หลายคนใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพและถ่ายคลิปวิดีโอ

จากผลการชัณสูตรศพผู้ก่อการร้ายที่สังหารนักท่องเที่ยว 38 คน ที่ประเทศตูนิเซียเมื่อเดือนมิถุนายน พบว่าผู้ก่อการร้ายใช้สารเสพติดแคปตากอนในขณะเกิดเหตุ ซึ่งสถานีโทรทัศน์เนเธอร์แลนด์ จัดทำสารคดีที่ระบุว่าสารเสพติดแคปตากอนมีบทบาทสำคัญในความขัดแย้งของประเทศซีเรีย โดยพบว่ามีนักรบของกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสหลายคนที่ใช้สารเสพติดชนิดนี้ ซึ่งจะทำให้ไม่รู้สึกหิวและไม่กระหายน้ำ นอกจากนี้กลุ่มยังมีรายได้มหาศาลจากการค้าสารเสพติดชนิดนี้ ซึ่งมีต้นทุนการผลิตที่ถูกมาก นายแซนเดอร์ วาน โฮร์ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ NOS ของเนเธอร์แลนด์ รายงานด้วยว่า แคปตากอนมีส่วนผสมของ เฟเนธิลีนซึ่งเป็นสารกระตุ้น และส่งผลให้ผู้ก่อการร้ายสามารถลงมือก่อเหตุอย่างเลือดเย็น

คณะกรรมการการเลือกตั้งซาอุดีอาระเบียประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ว่า นางชัลมา บิน ฮิซาบ อัล-โอเตอิบี ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นได้สำเร็จ โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ ยังถูกจับตามองเนื่องจากเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกของซาอุดีอาระเบียที่ให้สตรีมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก

นางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของพม่า พร้อมสมาชิกพรรคและอาสาสมัคร ออกเดินเก็บขยะตามท้องถนนในเมืองกอว์มู ประเทศพม่า ซึ่งนางกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะต้องทำให้เขตที่ตนเองชนะการเลือกตั้งนั้นสะอาดขึ้น เนื่องจากพม่ายังมีปัญหาเรื่องการจัดเก็บขยะ

สถานเอกอัครราชทูตไทยในนครเวียงจันทน์ ระบุ จากการตรวจสอบ ไม่พบมีการประกาศเคอร์ฟิวในแขวงไซสมบูน ทางภาคกลางตอนเหนือของประเทศ ตามที่สื่อต่างประเทศรายงาน ว่ามีคำสั่งเคอร์ฟิวเนื่องจากเกิดเหตุรุนแรงต่อเนื่องในพื้นที่ จากการปะทะกันระหว่างทหารกับกลุ่มก่อความไม่สงบ

ปิดท้ายที่กระทรวงการคลังแห่ง สปป.ลาว ได้ยื่นแบบแสดงรายการ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอออกพันธบัตรหุ้นกู้ระยะยาว II/HNW สกุลเงินเหรียญสหรัฐรวม 6,540 ล้านบาท ครั้งที่ 2/2558 ชุดที่ 1 จำนวน 5,821.47 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568 และชุดที่ 2 จำนวน 718.70 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570 โดยมีธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรุงไทยเป็นแกนนำในการจัดการ โดยขายหน่วยละ 1,000 เหรียญสหรัฐ ให้กับนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนบุคคลที่มีฐานะ โดยได้อันดับเครดิต A จากบริษัท ทริส เรทติ้ง โดยจะนำพันธบัตรนี้ซื้อขายในตลาดตราสารหนี้ไทยด้วย มาดาม ทิพากร จันทรวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการเงินของ สปป.ลาว เคยกล่าวว่า สปป.ลาว ต้องการเงินทุนในการพัฒนาประเทศ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) โดยเครื่องมือที่ สปป.ลาว ใช้การระดมทุนส่วนใหญ่เป็นการกู้เงินจากโครงการความช่วยเหลือขององค์กรต่างประเทศ ต่อมาบริษัท ทวิน ไพน์ คอนซัลติ้ง เข้ามาช่วยวางแผนระดมทุน ในประเทศไทย เพื่อเป็นแหล่งระดมทุน ทางเลือกใหม่ให้กับ สปป.ลาว

..