ผอ.สุวรรณภูมิ แจงใช้แผนฉุกเฉินระงับเหตุสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ถูกขู่วางระเบิด

นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันนี้ (11 ธันวาคม 2558) เมื่อเวลาประมาณ 14.25 น. ศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สายการบินบางกอกแอร์เวย์ว่า เกิดเหตุขู่วางระเบิดอากาศยานในเที่ยวบิน PG 145 เส้นทางกรุงเทพฯ – สมุย ซึ่งเครื่องมีกำหนดออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เวลา 14.00 น. พร้อมด้วยผู้โดยสาร 100 คนและลูกเรือ 7 คน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงระหว่างที่อากาศยานอยู่บนทางขับ (Taxiway) ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือ กัปตันเครื่องบินลำดังกล่าวจึงตัดสินใจยกเลิกเที่ยวบิน และนำเครื่องเข้าจอดที่หลุมจอด Isolate Parking เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ

ภายหลังได้รับแจ้งเหตุ ทสภ. จึงได้มีการประกาศใช้แผนฉุกเฉิน บทที่ 9 กรณีการขู่วางระเบิดอากาศยาน (Bomb threat on aircraft) และจัดส่งเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ฝ่ายรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่แพทย์เข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการตามแผนฉุกเฉินโดยทันที โดยได้มีการนำผู้โดยสารลงจากเครื่องบินเพื่อไปตรวจค้นร่างกาย และนำสัมภาระของผู้โดยสารลงจากเครื่องเพื่อนำมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งไม่ปรากฏว่ามีวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นวัตถุระเบิด

หลังจากนั้น สายการบินบางกอกแอร์เวย์ ได้นำผู้โดยสารไปที่ Gate A 6 เพื่อพักรอก่อนที่จะบินไปสมุยด้วยเที่ยวบิน PG 187 โดยเครื่องออกในเวลา 19.30 น.  นายศิโรตม์ กล่าวว่า เหตุการณ์ฉุกเฉินในครั้งนี้ผ่านพ้นไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องจาก การปฏิบัติตามแผนฉุกเฉินของ ทสภ. ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งจากส่วนงานภายใน ทสภ. เจ้าหน้าที่สายการบินบางกอกแอร์เวย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ผู้ปฏิบัติงานทุกหน่วยงานมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในการปฏิบัติตามแผนฉุกเฉินของท่าอากาศยาน หากเกิดกรณีมีการขู่วางระเบิดอากาศยาน ทุกหน่วยสามารถประสานการปฏิบัติงานแบบบูรณาการได้เป็นอย่างดี ทำให้สามารถคลี่คลายสถานการณ์ดังกล่าวได้ในเวลาอันรวดเร็ว และกระทบต่อการให้บริการของท่าอากาศยานน้อยที่สุด

สำหรับผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ทราบว่าเป็นชายชาวต่างชาติ ขณะนี้ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวและอยู่ในระหว่างการสอบสวน เบื้องต้นพบว่าเป็นการทะเลาะวิวาทกันระหว่างผู้ต้องหากับผู้โดยสารชาวต่างชาติด้วยกัน และผู้โดยสารที่ก่อเหตุได้พูดโยงไปถึงการมีระเบิดอยู่ในเที่ยวบินนี้ จึงทำให้ ทสภ.ต้องดำเนินการตามแผนฉุกเฉินของท่าอากาศยาน