*ชาวไทยพร้อมแล้ว เริ่มกิจกรรมประวัติศาสตร์ ปั่นเพื่อพ่อ วันนี้*

11 ธันวาคม 2558, 06:56น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.



++++เริ่มวันนี้แล้ว สำหรับ กิจกรรมประวัติศาสตร์ 'ปั่นเพื่อพ่อ' กิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในงานจักรยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558 "ปั่นเพื่อพ่อ Bike For Dad" ในวันที่ 11 ธ.ค. ว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ จะทรงปั่นจักรยานนำข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ บุคคลสำคัญทุกหมู่เหล่าและประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานตลอดเส้นทาง 29 กิโลเมตร เริ่มเวลา 15.00 น.



++++จุดเริ่มต้นอยู่ที่พระลานพระราชวังดุสิต (พระบรมรูปทรงม้า) เลี้ยวเข้าถ.ศรีอยุธยา ไปแยกมักกะสัน เลี้ยวเข้าถ.ราชปรารภ ตรงไปประตูน้ำ แยกราชประสงค์ เลี้ยวขวาถ.พระราม 1 แยกปทุมวัน เลี้ยวซ้ายเข้าถ.พญาไท ผ่านจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สามย่าน ใช้ถ.พระราม 4 แยกศาลาแดง เข้าสีลม ไปแยกบางรัก เข้าเจริญกรุง ผ่านวงเวียนโอเดียน เข้าเยาวราช เลี้ยวซ้ายวัดตึก จักรวรรดิ ไปสะพานพระปกเกล้า แยกบ้านแขก วงเวียนใหญ่ วนกลับแยกบ้านแขก เข้าอรุณอมรินทร์ ผ่านแยกศิริราช ขึ้นสะพานพระราม 8 ลงแยกวิสุทธิกษัตริย์ เข้าแยก จปร. มุ่งหน้าสู่พระลานพระราชวังดุสิต โดยมีจุดที่ประทับพัก 2 จุด ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และพระราชวังเดิม (บก.ทร.เก่า) และมีจุดร่วมขบวนจักรยาน 4 จุด ได้แก่ 1.สวนลุมพินี 2.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 3.วงเวียนโอเดียน และ 4.วงเวียนใหญ่ มีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมในกรุงเทพฯ 99,999 คน รวมประชาชนในต่างจังหวัด 607,909 คน



+++ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีและชื่นชมประชาชนชาวไทยทั่วประเทศที่ตั้งใจมุ่งมั่นเข้าร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ ขอให้ประชาชน ยึดหลัก 3 ข้อ คือ สง่างาม น้ำใจ รักษาวินัยจราจร กล่าวคือร่วมขับขี่ด้วยความสง่างาม ไม่รีบเร่ง ไม่แข่งขัน มีน้ำใจช่วยเหลือดูแลกัน และที่สำคัญคือรักษาวินัยจราจร ไม่แซง ไม่ปาด ให้สัญญาณมือ สังเกตสัญญาณจราจร และสัญลักษณ์ที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้ เพื่อให้เป็นกิจกรรมที่ออกมางดงามสมพระเกียรติที่สุด และขอให้ยึดถือปฏิบัติเช่นเดียวกันทั่วประเทศ  สำหรับประชาชนที่มาเฝ้ารอรับเสด็จตลอดเส้นทาง ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ที่จะคอยถวายความปลอดภัยและถวายพระเกียรติ รวมทั้งดูแลประชาชน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเพื่อให้ทุกคนได้ชื่นชมพระบารมี



++++นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อว่า สพฉ. จัดศูนย์ประสานงานติดตามการบริหารจัดการ เฝ้าระวัง รวบรวมเหตุการณ์ ทั้งอุบัติเหตุและการเจ็บป่วยฉุกเฉินที่เกิดขึ้น พร้อมเตรียมสนับสนุนการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินด้วยยานพาหนะพิเศษสำหรับพื้นที่จำเป็นหรือสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน  เมื่อครั้งที่แล้ว พบผู้ป่วยโรคหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน จึงรณรงค์ให้ทีม ผู้ปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉินในทุกจังหวัดนำเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ หรือเออีดีแบบสะพายหลังติดไปกับจักรยานและปั่นตามขบวนไปด้วย จะได้ช่วยเหลือผู้ป่วยทันท่วงที หากพบเห็นผู้ป่วยฉุกเฉินสิ่งแรกที่ต้องทำคือตั้งสติและโทร.แจ้งสายด่วน 1669



+++ส่วน หลังจากกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "ปั่นเพื่อพ่อ Bike For Dad" เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนม พรรษา 88 พรรษา 5 ธ.ค.2558 กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้รับมอบหมายให้จัดแสดงโขนกลางแปลงพระราชทานต่อเนื่อง ในวันที่ 12 และ 13 ธ.ค. โดยเริ่มเวลา 18.30 น. กำหนดจัดแสดงทั้งสิ้น 5 องก์ ประกอบด้วย องก์ที่ 1 นารายณ์ปราบนนทุก องก์ที่ 2 ทศกัณฐ์ลักนางสีดา-หนุมานถวายพล องก์ที่ 3 จองถนน-พระรามข้ามสมุทร องก์ที่ 4 ยกรบ และองก์ที่ 5 พระรามคืนนคร เพื่อบอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่ปฐมบทเกิดทศกัณฐ์ จนถึงพระรามเสด็จคืนกลับกรุงศรีอยุธยาขึ้นเถลิงราชย์เป็นจอมกษัตริย์ปกครองไพร่ฟ้าประชาชน ผาสุกร่มเย็นด้วยทศพิธราชธรรม ใช้ผู้แสดงกว่า 250 คน จากสำนักการสังคีต กรมศิลปากร สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ และวิทยาลัยนาฏศิลป การแสดงเต็มไปด้วยแสง สี เสียง อลังการ มีการนำโขนชักรอก ซึ่งเป็นการเหาะเหินเดินอากาศของตัวแสดงโขนมาเพิ่มความสนุกสนานให้ผู้รับชมด้วย



+++สำหรับการแสดงโขนกลางแปลง พระราชทาน จัดแสดงในวันที่ 11-13 ธ.ค.เวลา 18.30-21.30น. (ชมฟรี)



รอบวันที่ 11 ธ.ค. เฉพาะคณะทูตานุทูตและแขกเชิญ รอบวันที่ 12ธ.ค. รอบนักเรียนนักศึกษา (พกบัตรประจำตัวนักเรียนนักศึกษาไปด้วยนะคะ) รอบวันที่ 13 ธ.ค. รอบประชาชนทั่วไป



++++ ขณะที่สนามเสือป่า จัดนิทรรศการ "ทำดีแบบพ่อ" เพื่อส่งเสริมให้พสกนิกรชาวไทยทำดีแบบพ่อ ผ่านนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำเสนอพระราชกรณียกิจของพระองค์เพื่อพสกนิกรชาวไทยทุกคน ประชาชนสามารถเข้าชมได้ระหว่างวันที่ 12 - 13 พ.ย. เวลา 09.00 - 17.00 น. บนพื้นที่ 6,720 ตร.ม. รูปแบบการจัดนิทรรศการเป็นแบบไลฟ์ เอ็กซิบิชั่น จากกระทรวง กรมต่างๆ นำผลงานที่น้อมนำแนวพระราชดำรัส พระราชดำริ มาดำเนินการจนเกิดประโยชน์ต่อประชาชน แบ่งเป็น 11 โซน ประกอบด้วย โซนที่ 1 ทรงเป็นเอกกษัตริย์นักพัฒนา จากกรมประชาสัมพันธ์, โซนที่ 2 ทรงเป็นราชาจอมทัพไทย โดยกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองทัพไทย ตชด. กอ.รมน., โซนที่ 3 ทรงงาน ด้านการศึกษา และสาธารณสุข โดยกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข โซนที่ 4 ทรงเป็นปราชญ์แห่งแผ่นดิน โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, โซนที่ 5 ทรงเป็นภูมินทร์นักปฏิบัติ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพลังงาน, โซนที่ 6 ทรงเป็นอัครราชาปิ่นฟ้าคมนาคม โดยกระทรวงคมนาคม



+++โซนที่ 7 ทรงเป็นราชาแห่งการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม โดยสำนักงานกปร., โซนที่ 8 ทรงเป็นผู้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมูลนิธิปิดทองหลังพระ, โซนที่ 9 ทรงเป็นอัครศิลปิน พระอัจฉริยภาพทุกสาขา โดยกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงแรงงาน, โซนที่ 10 ทรงเป็นมหาราชาที่โลกแซ่ซ้องสรรเสริญ โดยกระทรวงการต่างประเทศ และโซนสุดท้าย ทรงเป็นแบบอย่างของการทำดี โดยกรมประชาสัมพันธ์จะจัดให้มีการถวายพระพรออนไลน์



++++ด้านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เชิญชวนพสกนิกรชาวไทยทั้งในและต่างประเทศ ส่งภาพถ่ายเข้าร่วมประกวดในกิจกรรมประกวดภาพถ่าย "ปั่นเพื่อพ่อ Bike for Dad" ด้วย



+++หลังสำนักงานการบินพลเรือนสหภาพยุโรปคงสถานะการบิน ของประเทศไทย พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีรู้สึกขอบคุณสหภาพยุโรปที่เห็นความตั้งใจและแนวทางของรัฐบาลไทยในการแก้ไขปัญหามาตรฐานการบินพลเรือนของประเทศ โดยคงสถานะมาตรฐานของไทยไว้ จากนี้ไปจะมีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น   ไม่ใช่การดำเนินการเฉพาะในส่วนที่หน่วยงานกำหนดมาตรฐาน เช่นองค์การการบินระหว่างประเทศ  ICAO หรือ สำนักงานการบินพลเรือสหรัฐ FAA ตั้งข้อสังเกตเท่านั้น  แต่จะเป็นการทำงานชนิดถอนรากถอนโคนปัญหาเก่า ยกเครื่องใหม่ทั้งในส่วนองค์กร ระบบการทำงาน  วิธีการงาน  ไปจนถึงตัวบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน ให้การบินพลเรือนไทยเป็นไปตามมาตรฐานสากลที่ทุกประเทศยอมรับ



+++นายกรัฐมนตรี ยังฝากถึงเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบว่า  ขอให้ทำงานอย่างเต็มที่ ร่วมมือร่วมใจ สามัคคีกันแก้ไขปัญหาของชาติให้ลุล่วง  หนักหนาเพียงใด ยากแค่ไหน เหนื่อยสักเท่าไร ก็ต้องทำให้สำเร็จ  เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีและเกียรติยศของประเทศไทยในด้านการบินกลับคืนมา  และฝากไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่านว่า ในฐานะผู้นำประเทศ ท่านจะอำนวยการและสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกระดับเพื่อแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนของไทยที่หมักหมมมานานให้ลุล่วง  และวางรากฐานให้เข้มแข็งไม่ให้เราต้องตกอยู่ในความสุ่มเสี่ยงเช่นนี้อีกในอนาคต



+++วันนี้ ชวนกันไปต้อนรับ เอกชัย วรรณแก้ว ศิลปินพิการไร้แขนและมีขาพิการ ปีนพิชิตยอดเขาคีรีมานจาโรที่สูงที่สุดในทวีปแอฟริกาสำเร็จตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม โดยจะกลับถึงประเทศไทยวันศุกร์ 11 ธันวาคม นี้เวลาเที่ยง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินเคนย่าแอร์ไลน์ เที่ยวบิน KQ 886 จากกรุงไนโรบี



+++อีกกลุ่มที่ต้องให้กำลังใจต่อไปคือ ทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย หลังจากทำ ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม กวาด 95 ทอง, 76 เงิน และ 79 ทองแดง ผงาดคว้าตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง ในการแข่งขันกีฬาคนพิการ "อาเซียนพาราเกมส์" ครั้งที่ 8 ที่ประเทศสิงคโปร์ พล.ต.โอสถ ภาวิไล นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย และเลขาธิการคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้นับเป็นความสำเร็จที่ดีของนักกีฬาคนพิการไทยที่กลับมาทวงเจ้าเหรียญทองได้อีกครั้ง หลังจากในครั้งที่ 7 เมื่อปีที่ผ่านมา ที่เมียนมา ทีมนักกีฬาคนพิการไทยคว้าได้เพียงแค่รองแชมป์เท่านั้น ส่วนทัวร์นาเมนต์ต่อไปก็คือการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ 2016 วันที่ 7-18 ก.ย. 59 ที่ประเทศบราซิล ซึ่งขณะนี้สมาคมฯ ได้โควตานักกีฬาที่ผ่านการควอลิฟาย และจะได้ไปลุยในรายการดังกล่าวแล้วจำนวน 16 คน ประกอบด้วย ยิงปืน 4 คน, บอคเซีย 4 คน, ยิงธนู 3 คน, เทเบิลเทนนิส 1 คน, ว่ายน้ำ 1 คน, วีลแชร์ฟันดาบ 1 คน, วีลแชร์เทนนิส 1 คน และ ยูโด 1 คน อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่เหลือก็คาดว่านักกีฬาของไทยจะผ่านการควอลิฟาย และได้โควตาเข้าไปชิงชัยรอบสุดท้ายที่บราซิลอีกอย่างน้อย 51 คน สำหรับความหวังในการคว้าเหรียญทองนั้นตนเล็งไว้ที่ บอคเซีย, เทเบิลเทนนิส และ วีลแชร์ฟันดาบ ที่จะเป็น 3 ชนิดกีฬาที่เรามีลุ้นคว้าเหรียญทองมากที่สุด

ข่าวทั้งหมด

X