นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า คณะกรธ.ทั้ง 21 คนจะพยายามร่างรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ ให้เหมาะสมกับสภาวะของคนไทย และบริบทของประเทศไทยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่รัฐธรรมนูญจะยั่งยืนถูกคว่ำหรือไม่ อยู่ที่การศึกษา ที่จะทำให้คนมีวินัย และการบังคบใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา เชื่อมั่นว่า แรงกดดันต่างๆ ที่มายังรัฐบาล ไม่ส่งผลต่อโรดแมปการร่างรัฐธรรมนูญ เพราะมีระยะเวลาที่กำหนดไว้ชัดเจน ส่วนความคืบหน้าการร่างรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ พิจารณาถึงเรื่องคณะรัฐมนตรี เรื่องท้องถิ่น และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากนั้น จะพิจารณาในเรื่องภาษา รายละเอียด ความสอดคล้องกัน คาดจะเริ่มทยอยเปิดเผยร่างได้ในเดือนมกราคม ปีหน้า
สำหรับการพิจารณาในหมวดคณะรัฐมนตรี ได้พิจารณาบางส่วนเกี่ยวกับเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่เดิมปรายให้อภิปราย เฉพาะนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี เป็นรายบุคคล และหากมีเรื่องกล่าวหาเรื่องทุจริต ก็ไปร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งทำให้การอภิปรายยุ่งยาก จึงคิดว่าการอภิปรายที่จะเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ จะอภิปรายได้ทั้งรายบุคคล หรือคณะรัฐมนตรี โดยไม่จำเป็นยื่นต่อ ป.ป.ช. เพราะหากมีข้อกล่าวหาทุจริต ก็ต้องไปถึง ป.ป.ช.อยู่แล้ว และในการยื่นไม่ไว้วางใจ ไม่ต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีแทน ขณะเดียวกัน กรณีหากเสียงฝ่ายค้านไม่ถึง 1 ใน 5 ของจำนวน ส.ส. ซึ่งไม่สามารถยื่นขอเปิดอภิปรายได้ แต่จะเปิดให้ผู้นำฝ่ายค้านสามารถยื่นเรื่องขอให้มีการประชุมสภา นัดพิเศษ เพื่อเสนอแนะต่อรัฐบาลได้ โดยไม่มีการลงมติ และให้ผู้นำฝ่ายค้านอภิปรายได้เพียงคนเดียว เพื่อเป็นความร่วมมือกันทำงานเพื่อบ้านเมือง และให้เกิดความปรองดอง