*รอบโลก:รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯเตรียมเยือนรัสเซีย/องค์กรสิทธิมนุษยชน เผยอาวุธบางส่วนของสหรัฐฯอยู่ในมือไอเอส*

10 ธันวาคม 2558, 05:47น.


+++ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างนางแนนซี กิบบ์ส บรรณาธิการจัดการของนิตยสารไทมส์ของสหรัฐฯว่า ในรอบปีนี้ ปัญหาก่อการร้าย ผู้อพยพและการประท้วงในหลายประเทศของยุโรปเป็นข่าวพาดหัวตามสื่อต่างๆ นิตยสารไทมส์ ได้คัดเลือกนายกรัฐมนตรีอังเกล่า แมร์เคิล ของเยอรมนี เป็นบุคคลแห่งปี 2558  ผู้นำเยอรมนีมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งวิกฤติเศรษฐกิจยุโรป โดยเฉพาะกรีซ การไหลบ่าเข้ายุโรปของผู้อพยพจากตะวันออกกลางและแอฟริกาและปัญหาก่อการร้าย นับเป็นสตรีรายที่ 4 ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นบุคคลแห่งปีนับตั้งแต่นายชาร์ลส์ เอ. ลินด์เบิร์ก ได้รับตำแหน่งนี้เป็นคนแรกเมื่อปี 2470 ส่วนผู้ที่ได้คะแนนลำดับ 2 คือ นายอาบู บักดา อัลแบกดาดี ผู้นำกลุ่มรัฐอิสลามหรือ ISIS ส่วน นายโดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีที่ลงสมัครประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันตามมาเป็นอันดับ 3



+++รอยเตอร์ รายงานอ้างนายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯว่า จะไปเยือนกรุงมอสโกว์ รัสเซียในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินและนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ถึงแนวทางการแก้วิกฤติทางการเมืองในยูเครนและซีเรีย นายแคร์รี่ได้พบปะกับนายลาฟรอฟในงานประชุมต่างๆทั่วโลก ครั้งนี้จะเป็นการเยือนรัสเซียครั้งที่ 2 ในปีนี้ เพื่อหารือเรื่องซีเรียและยูเครน ที่ยังมีความเห็นที่แตกต่างกัน



+++เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานอ้างประธานาธิบดีปูติน ว่า รัฐบาลรัสเซีย สามารถเก็บกู้กล่องดำจากเครื่องบินรบรัสเซียที่ถูกตุรกียิงตกและจะทำการวิเคราะห์ร่วมกับคณะผู้เชี่ยวชาญชาวอังกฤษ ผู้นำรัสเซีย บอกกับนายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียระหว่างการประชุมว่า อย่าเพิ่งเปิดกล่องดำในช่วงนี้ ควรจะเปิดกล่องดำร่วมกับคณะผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลทุกอย่างโดยละเอียด



+++รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า อาณาเขตที่เครื่องบินรัสเซียถูกยิงตกอยู่ในความควบคุมของกองกำลังรัฐบาลซีเรีย ทำให้พวกเขาสามารถเก็บกู้กล่องดำกลับมาได้ ผู้นำรัสเซียระบุว่า ผลวิเคราะห์กล่องดำจะชี้ชัดเรื่องเส้นทางบินและตำแหน่งของเครื่องบิน ตุรกี ระบุว่าเครื่องบินดังกล่าวรุกล้ำน่านฟ้าและไม่เบี่ยงออกนอกน่านฟ้าแม้ว่าจะถูกเตือนหลายครั้ง ขณะที่รัสเซียปฏิเสธ ระบุว่าบินอยู่ในเขตน่านฟ้าซีเรีย กล่าวหาตุรกีว่า วางแผนยั่วยุรัสเซียมาก่อนแล้วเนื่องจากไม่พอใจที่รัฐบาลรัสเซียให้การสนับสนุนรัฐบาลซีเรีย ขณะที่ตุรกีให้การสนับสนุนฝ่ายต่อต้านซีเรีย



+++สิงคโปร์ มองเห็นถึงอันตรายในเอเชียจากฝีมือพวกนักรบอิสลามิสต์ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะ โดยเฉพาะภัยคุกคามจากการจับมือกันของกลุ่มต่างๆตามหลังประกาศสวามิภักดิ์ต่อพวกไอเอส นายอึ้ง เอง เฮน (Ng Eng Hen) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงค์โปร์ เปิดเผยหลังจากลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านกลาโหมกับสหรัฐฯ ว่าการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองคือกุญแจสำคัญในการจัดการกับประเด็นต่างๆ  ในช่วง 3 ปีจำนวนผู้เห็นอกเห็นใจต่อไอเอสมีมากกว่าจำนวนเหล่าผู้สนับสนุนอัลกออิดะห์ในช่วง 10 ปีหลังอีก



+++อินโดนีเซีย ชาติเพื่อนบ้านของสิงคโปร์ รายงานว่ามีพลเมืองมากกว่า 500 คน เดินทางออกไปร่วมสู้รบในซีเรียและอิรักในฐานะนักรบต่างชาติ ส่วนจากมาเลเซียก็มีมากถึง 150 คน ในนั้นบางส่วนเป็นกำลังพลของกองทัพ ขณะเดียวกันก็มีชาวสิงคโปร์จำนวนเล็กน้อยออกไปร่วมรบเคียงข้างพวกนักรบด้วยเช่นกัน



+++นายไมเคิล คีแนน รัฐมนตรียุติธรรมออสเตรเลีย ระบุว่า ออสเตรเลียและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะต้องเพิ่มความพยายามเป็น 2 เท่าในการแลกเปลี่ยนข่าวกรอง และเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุก่อการร้ายโจมตีในภูมิภาคแบบเดียวกับที่กรุงปารีสของฝรั่งเศส



+++แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส เปิดเผยตัวมือระเบิดฆ่าตัวตายรายที่ 3 ที่ร่วมกันบุกกราดยิงประชาชน ที่เข้าชมคอนเสิร์ตภายในโรงละครบาตากล็อง ในกรุงปารีส ชื่อ นายฟูเอ็ด โมฮาเหม็ด อักกาด ชาวฝรั่งเศสวัย 23 ปี เคยเดินทางไปยังซีเรีย เมื่อปลายปี 2556 เจ้าหน้าที่เพิ่งพิสูจน์ทราบตัวตนนายอักกาด เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว จากการตรวจดีเอ็นเอเทียบเคียงกับญาติ  ผลการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล สร้างความวิตกมากขึ้นแก่เจ้าหน้าที่ทางการฝรั่งเศส เนื่องจากกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ ที่ทราบตัวตนแล้วล้วนแต่เป็นชาวยุโรป คือฝรั่งเศสและเบลเยียมและดูเหมือนจะวางแผนในยุโรป



+++ทางการฝรั่งเศสยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบคนร้ายที่ร่วมก่อการอีกอย่างน้อย 3 คน คนแรกเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 พ.ย. ระหว่างตำรวจบุกจู่โจมสถานที่หลบซ่อนตัว และอีก 2 คนมือระเบิดฆ่าตัวตาย โจมตีสนามกีฬาแห่งชาติสตั๊ด เดอ ฟรองซ์ ของฝรั่งเศส ซึ่งทั้งคู่ถือหนังสือเดินทางซีเรีย แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นหนังสือเดินทางปลอม

+++รายงานใหม่ขององค์กรนิรโทษกรรมสากล องค์กรสิทธิมนุษยชนในกรุงลอนดอน อังกฤษ ระบุว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ของกลุ่มไอเอส ส่วนใหญ่มาจากคลังอาวุธที่ยึดมาจากฐานทัพอิรักและกลุ่มกบฏซีเรียที่สหรัฐฯให้การหนุนหลัง รายงานดังกล่าวเป็นผลจากวิเคราะห์คลิปวีดีโอและภาพถ่ายหลายพันชิ้นจากอิรักและซีเรีย ยังได้เสนอแนะให้รัฐที่จัดส่งอาวุธรวมถึงสหรัฐฯให้กำชับกองทัพอิรักให้คุมเข้มเรื่องการดูแลคลังอาวุธให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น



+++กระแสความไม่พอใจจากหลายภาคส่วนในสังคม พุ่งตรงเป็นจุดเดียวไปที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และตัวเต็งผู้แข่งขันชิงเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน เพื่อลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งที่ 58 ในวันที่ 8 พ.ย. 2559 หลังจากทรัมป์ กล่าวเรียกร้องให้ปิดกั้นชาวมุสลิม ไม่ให้่เดินทางเข้าสหรัฐฯ  ความเห็นของนายทรัมป์ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากบรรดาผู้นำโลก



+++นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ กล่าวโจมตีนายทรัมป์ ว่า สร้างความแตกแยก ไร้ประโยชน์ และเป็นการคิดผิด



+++ขณะที่ นายฟาร์ฮาน ฮัก โฆษกองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า นายบัน คี-มูน เลขาธิการยูเอ็น กล่าวประณามคำพูดใดๆ ที่เป็นการต่อต้านอิสลาม ต่อต้านชาวต่างชาติ หรือทำให้เกลียดชิงกลุ่มชนต่างๆ



+++ขณะที่ เจ เค โรว์ลิง เขียนในทวิตเตอร์ว่า นายทรัมป์ร้ายยิ่งกว่า ลอร์ด โวลเดอมอร์ พ่อมดตัวร้ายในนิยายแฮร์รี พ็อตเตอร์ เสียอีก   

+++ความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด  6.9  ทางภาคตะวันออกของอินโดนีเซีย เมื่อเย็นวันพุธ แรงไหวสะเทือนสร้างความแตกตื่นตกใจให้กับประชาชนที่อยู่ใกล้จุดศูนย์กลาง แต่ไม่เกิดสึนามิ และเบื้องต้นไม่มีรายงานความเสียหาย  



+++สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.21 น. วันพุธ ตามเวลามาตรฐานสากล หรือเวลา 17.21 น. ตามเวลาในประเทศไทย จุดศูนย์กลางอยู่ลึกใต้ทะเลบันดา 33.9 กิโลเมตร ห่างจากเมืองอัมบอน เมืองเอกของจังหวัดมาลูกู ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ 151 กิโลเมตร



+++ศูนย์เตือนภัยสึนามิอินโดนีเซีย ประกาศว่า จากการประเมินเบื้องต้นเชื่อว่าไม่น่าจะเกิดสึนามิ นายจานดรี ปัตตินามา เจ้าหน้าที่สถานีธรณีฟิสิกส์ในเมืองอัมบอน กล่าวว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนรุนแรง ในเมืองอัมบอนและเมืองบันดา สร้างความตกใจแก่ประชาชนจำนวนมาก

+++สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซว่า ผู้อพยพอย่างน้อย 12 คน รวมถึงเด็ก 6 คน จมน้ำเสียชีวิต และสูญหายประมาณ 12 คน หลังจากเรือไม้ที่ใช้เดินทางล่มเมื่อคืนวันอังคาร ในทะเลอีเจียน นอกชายฝั่งเกาะฟาร์มาโกนิซิของกรีซ หน่วยเรือลาดตระเวณยามฝั่งของตำรวจน้ำกรีซ สามารถช่วยเหลือเหลือรอดชีวิต 26 คน เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพกรีซ ยังออกค้นหาผู้สูญหาย ร่วมกับเรือลาดตระเวณของสหภาพยุโรป



+++ฝนที่ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนักทำให้เกิดน้ำท่วม มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 31 ศพ ขณะที่ประชาชนอีกราว 20,000 ครอบครัวต้องกลายสภาพเป็น คนไร้บ้าน ในกรุงคินชาซา เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก กรุงคินชาซา เผชิญภาวะฝนตกหนักและน้ำท่วม ต่อเนื่องมานานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว หรือนับตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายนส่วนใหญ่คนที่เสียชีวิตๆจากการถูกบ้านเรือนพังถล่มทับ ถือเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายปีที่เมืองหลวงแห่งนี้ ซึ่งเป็นเขตที่อยู่อาศัยของคนยากจน ที่มักมีการก่อสร้างบ้านเรือนด้วยวัสดุราคาถูกไม่มั่นคงแข็งแรง ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคองโก  รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เตือนว่า อาจต้องเผชิญกับฝนที่ตกหนักมากยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ช่วงเวลานี้ เรื่อยไปจนถึงช่วงสิ้นเดือนธันวาคม จึงขอความร่วมมือประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมยอมย้ายออกจากพื้นที่ปกติแล้ว ช่วงฤดูฝนของกรุงคินชาซา มักตรงกับช่วงเวลาระหว่างเดือนตุลาคมจนถึงเดือนพฤษภาคม แต่ปีนี้ ฝนกลับเริ่มตกในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน และเป็นฝนที่ตกลงมาหนักกว่าปกติ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของทุกปี



+++ศาลพิเศษของสหประชาชาติ ชานกรุงพนมเปญ ที่ดำเนินคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และอาชญากรรมสงคราม ต่อกลุ่มผู้นำเขมรแดงที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้ตั้งข้อหาเพิ่มอีก 1 คน คือ นายยิ้ม ทิต อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเขมรแดง  นายเนตร ภักตรา โฆษกศาลพิเศษของสหประชาชาติ กล่าวว่า นายมิเชล โบห์ลันเดอร์ ผู้พิพากษาไต่สวน ตั้งข้อหานายยิ้ม ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และอาชญากรรมสงคราม และอาจเผชิญข้อหาฆาตกรรม และละเมิดอนุสัญญาเจนีวา จากการกระทำความผิดอาญา ในหลายสถานที่ ในช่วงเขมรแดงเรืองอำนาจ เป็นรัฐบาลปกครองกัมพูชา ระหว่างปี พ.ศ. 2518 - 2522 คาดว่า การไต่สวนคดีนายยิ้มจะเสร็จสิ้นในไม่ช้า และศาลจะมีคำพิพากษาได้ประมาณสิ้นปี 2559  



 



CR:แฟ้มภาพ

ข่าวทั้งหมด

X