+++พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการซักซ้อมเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับเสด็จฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ในกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ Bike For Dad วันที่ 11 ธ.ค. โดยเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้ทำการชี้แจงพิธีการต่าง ๆ อย่างรายละเอียด ว่า ผู้เข้าร่วมขบวนสำคัญ ทั้งขบวน A1,A2 ,B1,B2 , C1,C2 รวมถึง คณะทูตานุทูตต่างๆ ที่จะเข้ามาบริเวณพิธีในวันจริงว่าจะปฏิบัติตัวอย่างไรในการรับเสด็จ พล.อ.ธนะศักดิ์ ขอชื่นชมสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานอื่น ๆ ที่ร่วมกันเตรียมงาน วันนี้ถือว่าไม่มีที่ติ ภาพรวมสมบูรณ์มาก แต่เราซักซ้อมเพื่อความมั่นใจ เพื่อให้งานครั้งนี้ออกมาดีที่สุด ทุกคนตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี ทั้งนี้ในพื้นที่ต่าง ๆ ที่จะมีการปั่นจักรยานผ่าน ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งมาตรการรักษาความปลอดภัย อาหาร และเครื่องดื่ม ห้องสุขา และบริการฉุกเฉินส่วนรูปขบวนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แม้จะมีจักรยานเข้าร่วมถึง 999,999 คัน แต่ก็มีการจัดรูปขบวนให้สามารถปั่นไปด้วยความมีระเบียบเรียบร้อย
+++ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม กล่าวถึง กรณีการตรวจสอบการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ จ. ประจวบคีรีขันธ์ ว่า เรื่องนี้จบแน่นอน ขณะนี้คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบอยู่ยังไม่ได้ข้อสรุป ขอยืนยันว่า กระบวนการตรวจสอบโปร่งใส คณะกรรมการที่ตรวจสอบมีอยู่หลายคน ไม่ยอมเสียชื่อของตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งจะตรวจสอบอย่างเต็มที่แน่นอน
+++กรณีที่มีการเผยแพร่แผนผังเชื่อมโยงโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์บนโลกออนไลน์ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เมื่อคืนตำรวจได้จับคนทำแผนผังดังกล่าวแล้ว 1 คน ยังเหลืออีก 2 คน กำลังเตรียมดำเนินการจับกุมอยู่ ในส่วนตัวจะฟ้องกลับหมด โดยขณะนี้ยังไม่รู้ว่ามาจากกลุ่มทางการเมืองหรือไม่ เพราะยังอยู่ระหว่างการสอบสวน
+++กรณีที่นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังยืนยันจะไปอุทยานราชภักดิ์ให้ได้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็บอกแล้ว ถ้าจะไปไหว้สักการะสามารถทำได้ แต่ต้องถามว่าเขาจะไปทำอะไร หากไปตรวจสอบจะเอาอะไรไปตรวจสอบ ไฟฉายหรือ ถ้าอยากจะไปกราบไหว้เป็นเรื่องที่ทำได้
+++พล.ต.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ(คตร.) ประจำกลุ่มกระทรวงด้านความมั่นคง จำนวน 7 คน นำโดย พล.ท.ธนกร จงอุตส่าห์ ประธานอนุกรรมการ ได้เข้าพบ พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร เลขาธิการ กอ.รมน. เพื่อแนะนำตัวและประสานการปฏิบัติงานพล.อ.พิสิทธิ์ ได้กล่าวต้อนรับพร้อมระบุว่า กอ.รมน.ยินดีให้ความร่วมมือกับคณะอนุกรรมการฯ ในการปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและผอ.รมน.ที่เน้นย้ำการใช้จ่ายงบประมาณต้องให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
+++สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำโดยนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. รวมทั้งภาคีเครือข่ายต่อต้านการคอรัปชั่น ร่วมเดินรณรงค์วันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล จัดขึ้นในวันที่ 9 ธันวาคมของทุกปี เป็นการแสดงออก ถึงความร่วมมือในการต่อต้านการคอร์รัปชั่นโดยในปีนี้ การเดินรณรงค์ใช้เส้นทางถนนแจ้งวัฒนะ ไปยัง ศูนย์ราชการ อาคารบี ที่เป็นสถานที่จัดงานหลัก โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน ที่เป็นองค์กรที่ตระหนักถึง ความสำคัญของการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น หวังสร้างกระแสรณรงค์ในการต่อต้านการทุจริต และปลุกจิตสำนึกด้านคุณธรรมความโปร่งใสให้กลับคืนมาสู่สังคมไทย ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนที่เดินทางผ่านบริเวณดังกล่าว
+++หลังจากที่มีข่าวออกมาว่ามีนางร้าย ก. ไซส์มินิท้อง และมีคนคาดเดาว่าเป็น สาวกุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ ล่าสุดแฟนหนุ่มอย่าง บี้ เคพีเอ็น ได้ให้สัมภาษณ์ขณะบวงสรวงละครว่า กุ๊บกิ๊บตั้งครรภ์จริงและเป็นเรื่องราวที่ดี ตั้งใจที่จะมีเซอร์ไพรส์กุ๊บกิ๊บด้วยการขอแต่งงาน บี้ เปิดเผยว่า ได้หมั้นกับกุ๊บกิ๊บแล้วเมื่อ 2-3 เดือน โดยผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับรู้ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าเร็วเกินไปแต่ว่าเรารักกัน และรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องแต่งงานนั้น ขอให้รอวันแถลงข่าวดีกว่า
+++มีรายงานระบุว่า ผลการสอบสวนของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ(เอฟบีไอ) พบว่าคู่สามีภรรยาที่ก่อเหตุกราดยิงสังหารหมู่ 14 คนในรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้กู้ยืมเงินราว 28,000 ดอลลาร์ (100,800 บาท)มาจากทางออนไลน์ ซึ่งเป็นจำนวนเงินฝากในบัญชีธนาคารราว 2 สัปดาห์ก่อนก่อเหตุโจมตีเมื่อสัปดาห์ก่อน เอฟบีไอรายงานว่า นายไซเอ็ด ริซวาน ฟารุก วัย 28 ปีซึ่งเกิดในสหรัฐและเป็นลูกของผู้อพยพชาวปากีสถาน และนางทาชฟีน มาลิกภรรยาวัย 29 ปีที่เกิดในปากีสถาน มีแนวคิดฝักใฝ่กลุ่มหัวรุนแรง สมรสกันที่ซาอุดีอาระเบียก่อนเดินทางกลับมายังรัฐแคลิฟอร์เนียช่วงฤดูร้อนปี 2557 เจ้าหน้าที่สืบสวนเชื่อว่า ทั้งสองประกาศเข้าร่วมเป็นสมาชิกผู้นำกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) ทางเฟซบุ๊กก่อนก่อเหตุสังหารหมู่ มีผู้เสียชีวิต 14 คน และบาดเจ็บ 21 คน ส่วนทั้งสองเสียชีวิตจากการยิงปะทะตำรวจในเวลาต่อมา หากได้รับการยืนยันว่าเหตุกราดยิงครั้งนี้ได้รับอิทธิพลมาจากกลุ่มไอเอส จะถือเป็นเหตุก่อการร้ายนองเลือดที่สุดในสหรัฐนับตั้งแต่เหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2544