*รอบวัน(2): ตร.พร้อม100% กิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ/กกต.เตรียมสรรหาเลขาฯใหม่หลังเลิกจ้างภุชงค์*

09 ธันวาคม 2558, 08:49น.


+++การเตรียมกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)  พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) และรองโฆษก ตร. ประชุมวิดีโอทางไกลเพื่อเตรียมความพร้อมการถวายความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร การจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "BIKE FOR DAD ปั่นเพื่อพ่อ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้า ร่วมประชุม เป็นการตรวจความพร้อมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่ ส่วนไหนมีปัญหาอุปสรรคให้รีบแก้ไขทันที เพราะเหลือเวลาอีกเพียง 2 วันเท่านั้น โดยเฉพาะเรื่องการข่าวเป็นสิ่งสำคัญ ได้เพิ่มความเข้มกำชับไปในภาคต่างๆ รวมทั้งพื้นที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) เจ้าหน้าที่มีความพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ในทุกด้าน ในวันงานจะมีการวางกำลังทั้งตำรวจและทหารกว่า 30,000 นาย ส่วนตำรวจตระเวนชายแดนจะมาเสริมในแนวป้องกัน ส่วนงานด้านการจราจรมีความพร้อม มีการประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง ยังได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการรถไฟฟ้า ให้บริการฟรีในจุดที่ใกล้เคียงกับจุดที่มีการปั่นจักรยาน รวมทั้งการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ให้ขึ้นลงฟรีใน 11 ด่าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน



+++ความเคลื่อนไหวของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)นายธนิศร์ ศรีประเทศ ผู้ทรงคุณวุฒิ กกต. แถลงว่า ที่ประชุมกกต. มีมติ 4 ต่อ 1 ให้เลิกจ้างนายภุชงค์ นุตราวงศ์ จากตำแหน่งเลขาธิการกกต. และมีมติเอกฉันท์ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. เนื่องจาก ได้พิจารณารายงานผล การประเมินการปฏิบัติงานของเลขาธิการกกต. ประจำปี 2558 ว่าไม่ผ่านการประเมินผลร้อยละ 60 และให้นายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาฯกกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ซึ่งอาวุโสสูงสุดทำหน้าที่รักษาการแทน ส่วนการสรรหาเลขาฯกกต.คนใหม่ จะดำเนินการโดยเร็วที่สุด แต่กฎหมายก็ไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่าต้องสรรหาให้เสร็จภายในเมื่อใด ที่ประชุมยังให้สำนักงานไปพิจารณาเรื่องการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยนายภุชงค์ กรณีนำความลับของที่ประชุมกกต.ไปเผยแพร่ทางสื่อ รวมถึงกรณีถูกร้องเรียนปมทุจริตด้วย



+++การประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) วันที่ 21-22 ธ.ค. เพื่อพิจารณารายงานการปฏิรูปชุดแรกของคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศทั้ง 11 ด้าน และกมธ.วิสามัญการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น สัปดาห์หน้า 14 ธ.ค. สปท.จะเชิญผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน เข้ารับฟังความคืบหน้าในการทำงานของสปท. และวันที่ 15 ธ.ค.จะเชิญสื่อต่างประเทศมาฟังบรรยายสรุปเช่นกัน ขณะนี้สปท.เร่งทำงานโดยเฉพาะการรายงานการปฏิรูปประเทศที่สปท.จะพิจารณา



+++มาตรฐานการบิน นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมท่าอากาศยาน ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กทพ.) กล่าวว่า การประกาศผลการตรวจสอบด้านการบินของเอียซาในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ จะไม่เหมือนของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (เอฟเอเอ) ที่ลดระดับหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินของไทยจากประเภทที่ 1 เป็นประเภทที่ 2 เนื่องจากเอียซาจะพิจารณาเฉพาะเรื่องของสายการบินที่ให้บริการไปยังยุโรปเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันมี 2 สายการบิน คือ การบินไทย และสายการบิน เอ็มเจ็ท ดังนั้นผลที่ออกมาจะมุ่งตรงไปที่สายการบินคือ ให้สายการบินดังกล่าวให้บริการได้ตามปกติ หรือสั่งห้ามบินเข้าไปในยุโรป ผลที่ออกมาอาจจะห้ามเฉพาะสายการบินใดการบินหนึ่ง หรือไม่มีอะไรเลยก็ได้ แล้วแต่การพิจารณาของเอียซาจะออกมาแบบไหน โดยวันที่ 10 ธันวาคม จะมีการประชุมและประกาศผลผ่านทางเว็บไซต์ในเวลา 12.00 น. ที่ยุโรป ซึ่งตรงกับเวลาในไทยประมาณ 18.00 น. ส่วนผลอย่างเป็นทางการจะประกาศในวันที่ 11 ธันวาคม และหากมีการห้ามสายการบินจะเริ่มในวันที่ 12 ธันวาคม



+++ EASA เป็นตัวแทน 28 ประเทศของ EU ประเมินสายการบินต่างๆ ซึ่งปกติจะมีการตรวจสอบและประกาศการพิจารณาสายการบินต่างๆ ของทุกประเทศที่ทำการบินเข้า EU ทุก 6 เดือน หรือปีละ 2 ครั้ง



+++นายแพทริค คี ประธานผู้บริหารระดับสูง ของ EASA กล่าวว่า ไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางการเดินทางของอากาศยานที่สำคัญ ซึ่ง EASA ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาการบินโดยเฉพาะความปลอดภัย มาตรการด้านความปลอดภัยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในปี 2557 ที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงกับเครื่องบินถึง 4 ครั้ง ทำให้การพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยการบินจึงไม่หยุดนิ่ง และเตรียมพร้อมตลอดเวลา



+++ส่วนการพิจารณาร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปิโตรเลียม และ พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้ทบทวนรายละเอียดในบางประเด็นที่ยังมีความขัดแย้งของร่างแก้ไขสองฉบับ โดยให้นำความเห็น 26 ประเด็นที่ยังมีความเห็นไม่ตรงกันส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี( ครม.)อีกครั้ง และเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป ซึ่งในขั้น สนช.ได้ให้ตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายปิโตรเลียมโดยเพิ่มจำนวนของกรรมการในคณะกรรมการให้มีความหลากหลายซึ่งจากปกติจะมีจำนวน 15 คน ประกอบด้วย สนช. 12 คน และรัฐบาล 3 คน เพิ่มจำนวนเป็น 30-35 คน ซึ่งในส่วนของภาครัฐจะเพิ่มนักวิชาการหรืออาจารย์จากมหาวิทยาลัยเข้ามา เพื่อให้การพิจารณาของร่างกฎหมายมีความเห็นจากทุกฝ่ายมากที่สุด



+++เมื่อวานนี้  ผบ.ตร. มีคำสั่ง ตั้งพล.ต.ต. มณฑล เงินวัฒนะ รักษาราชการตำแหน่งรองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ แทน พล.ต.ต. ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ที่ลาออกจากราชการ เพื่อให้การปฏิบัติราชการของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้และสำนักงานตำรวจแห่งชาติในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนเเปลง



+++ความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันในตลาดโลก  น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 14 เซนต์ ปิดที่ 37.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 47 เซนต์ ปิดที่ 40.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นวันที่ 2 ติดต่อกันที่น้ำมันดิบทั้งสองสัญญาแตะระดับต่ำที่สุดในรอบเกือบ 7 ปี



+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขยับลงแรงท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานและข้อมูลการค้าของจีน ดาวโจนส์ ลดลง 162.51 จุด ปิดที่ 17.568.00 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 13.48 จุด ปิดที่ 2,063.59 จุด แนสแดค ลดลง 3.57 จุด  ปิดที่ 5,098.24 จุด



+++การดิ่งลงของตลาดทุนโลกและดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้นักลงทุนหันไปถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ดันให้ราคาทองคำ ขยับขึ้นเล็กน้อย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ 1,075.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์+++นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) วิเคราะห์การประมูลคลื่น 900 MHz ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ว่าจะแข่งขันรุนแรงหรือไม่ พร้อมถอดบทเรียนการประมูลคลื่น 1800 MHz สำนักงาน กสทช.



+++นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช. และกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า หลังจากที่ บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิ เคชั่น จำกัด ในเครือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการภายใต้แบรนด์ ทรูมูฟเอช เปิดให้บริการ 4จี บนคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ เป็นที่เรียบร้อย ขณะนี้สำนักงาน กสทช. อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบว่าแพคเกจที่ให้บริการของทรูมูฟเอช เป็นไปตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตของ กสทช. ที่กำหนดค่าบริการต้องถูกกว่าค่าบริการ 3จี บนคลื่นความถี่ย่าน 2100 เมกะเฮิรตซ์



+++คดีอาชญากรรม  หลังทหารนำกำลังเข้าจับบ่อนไฮโลในพื้นที่สน.ประเวศ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รรท.ผบช.น.) สั่งการให้ พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 เรียก 4 เสือ สน.ประเวศ เข้าปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (ศปก.บก.น.4) เป็นเวลา 30 วัน จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง และให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง พิจารณาข้อบกพร่อง ซึ่งตนเคยสั่งการไว้ก่อนหน้านี้ว่าห้ามให้มีอบายมุขในพื้นที่นครบาลและเร่งรัดจับกุมมาโดยตลอด พล.ต.ต.นันทชาติ ลงนามในคำสั่งย้าย 4 เสือ สน.ประเวศ ให้ พ.ต.อ.เมธา เจียมไกรศรี ผกก.สน.ประเวศ พ.ต.ท.ศิริ ราชรักษา รอง ผกก.ป.สน.ประเวศ พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง สว.สส. รรท. รอง ผกก.สส.สน.ประเวศ และ พ.ต.ท.สยุมภู ภักดีพุทธารักษ์ สว.อก.สน.อุดมสุข ช่วยราชการ สวป.สน.ประเวศ ไปช่วยราชการที่ ศปก.บก.น.4 เป็นเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. นี้ พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง



+++ตำรวจแถลงวันนี้ รวบ 3 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นทรัพย์ยิงเจ้าของร้านทองสุวิมล เยาวราช ตั้งอยู่เลขที่ 1526/53-54 ปากซอยเทพารักษ์ 10 ถนนเทพารักษ์ ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ เสียชีวิต ตำรวจฝ่ายสืบสวน ภ.1 และฝ่ายสืบสวน ภ.จ.สมุทรปราการ กระจายกำลังออกหาเบาะแสคนร้ายและตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ในร้านทองและบริเวณใกล้เคียง พ.ต.อ.นพดล สุคนธวิท ผกก.สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ประสาน พ.ต.อ.ดนัย รัตนประเสริฐ ผกก.สส.ภ.จ.นครพนม สืบทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุปล้นทรัพย์ร้านทองหนีมากบดานอยู่ในพื้นที่ ต่อมาตำรวจฝ่ายสืบสวนเข้าจับกุมนายธนากร เพชรนิล อายุ 22 ปี เป็นผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุปล้นทรัพย์ได้ที่บ้านเลขที่ 14 หมู่บ้านนามน หมู่ 6 ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม จากการสอบสวนนายธนากร รับสารภาพเป็นผู้ก่อเหตุ แล้วยิงเจ้าของร้านเสียชีวิต มีปัญหาเรื่องหนี้สินตัดสินใจร่วมกับเพื่อนหวังนำเงินไปใช้หนี้ ขณะก่อเหตุเจ้าของร้านทำท่าจะชักปืนที่อยู่ในลิ้นชักจึงตัดสินใจยิงป้องกันตัว หลังก่อเหตุแยกย้ายกันหลบหนีมาอยู่ที่บ้านเกิด จ.นครพนม ส่วนปืน .38 แบบแมกกาซีนถอดชิ้นส่วนแยกกันแล้วไปโยนทิ้งที่อ่างเก็บน้ำบ้านสุขเจริญ ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม จากนั้นคุมตัวนายธนากรมาสอบสวนที่ สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ



+++ชุดสืบสวน ภ. 1 และชุดสืบสวน ภ.จ.สมุทรปราการ จับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้อีก 2 คนทราบชื่อนายสมชาย หรือรัก วิเศษโวหาร อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194 หมู่ 1 ต.หนองโอ่ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์พาหลบหนี รวบตัวได้ที่บริเวณท้องสนามหลวง และนายพัลลภ ฌะสูงเนิน อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 14 ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม เป็นคนถือมีดดาบยืนคุมเชิงอยู่หน้าร้านทอง ภายหลังไปทำงานเป็น รปภ.ที่บริษัทแห่งหนึ่งย่านบางปู อ.เมืองสมุทรปราการ



 



 

ข่าวทั้งหมด

X