หลังภาคประชาชน ในนามเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงาน (คปพ.) เรียกร้องให้รัฐบาล ยุติการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติปิโตรเลียม (ฉบับที่..) พ.ศ....และร่างพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่..) พ.ศ.... พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึง พ.ร.บ. 2ฉบับว่า ได้นำความเห็นจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รวม 26 ประเด็น โดยแบ่งเป็นเรื่องพ.ร.บ.ปิโตรเลียม 11 ประเด็น และพ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม 15 ประเด็น เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้รับทราบแล้ว
แต่สำหรับกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย ขอชี้แจงว่าขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณาในเรื่องพ.ร.บ.ปิโตรเลียมใน ครม.วันนี้ มีเพียงการนำเสนอใน 26ประเด็นข้างต้น ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนนตรี ได้กล่าวว่า ในเมื่อกระทรวงพลังงานพูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว จึงอยากให้มีการทบทวนหรือปรับปรุงกฎหมายฉบับดังกล่าวให้ครบถ้วน แล้วนำความเห็นกระทรวงพลังงานส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาทบทวนกฎหมายต่อไป โดยให้เสนอแนวคิดว่าสิ่งใดใส่ลงไปในกฎหมายให้ใส่ลงไป เพื่อให้เกิดความสบายใจกับทุกฝ่าย และส่งให้สนช.พิจารณา 3วาระตามปกติ ซึ่งคณะรัฐมนตรี มีมติให้ตั้งคณะกรรมการวิสามัญร่างกฎหมายฉบับนี้ขึ้น รวม15คน แบ่งเป็นสนช.12คน และรัฐบาล 3คน เพื่อให้เกิดความหลากหลาย และประธาน สนช.ได้ให้มีคณะกรรมาธิการอีก 30-35คน ให้ทุกฝ่ายได้เสนอความเห็น ทั้งสนช. รัฐบาล เอกชน ประชาสังคม และนักวิชาการ เพื่อหาข้อยุติ และให้ สนช.นำไปตรากฎหมายต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า หากแก้กฎหมาย ทางกระทรวงพลังงานอาจเกิดความไม่คล่องตัวหรือยืดหยุ่นในการทำงาน และไม่ยืดหยุ่นต่อบริษัทพลังงานต่อปิโตรเลียม ในการเจรจาผลประโยชน์ตอบแทนในการจูงใจให้ดำเนินการในพื้นที่ที่น้ำมันมากหรือน้อย ซึ่งที่ผ่านมาอยู่ประกาศหรือกฎกระทรวง แต่ถ้าจะให้เป็นพ.ร.บ.ก็จะให้สนช.พิจารณาหลากหลาย ซึ่งกระทรวงพลังงานก็ยินดีปฏิบัติ แม้การดำเนินในอนาคตจะยากขึ้นก็ตาม แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ฝ่ายต้องการให้การทำงานของกระทรวงพลังงานมีหลักการชัดเจนมากขึ้น ไม่อยากให้เป็นการใช้ดุลพินิจหรืออำนาจในการตกลงใจ ให้สนช.นำไปเปรียบเทียบต่อไป