ตำรวจ เตือน ใช้พรบ.การชุมนุมจัดการกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง

กรณีที่จากเจ้าหน้าที่ทหารตัดขบวนตู้รถไฟของนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ซึ่งจะเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ จ. ประจวบคีรีขันธ์เมื่อวานนี้ พล.ต.ต. ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ฝากไปถึงกลุ่มผู้ชุมนุม ว่าให้คิดให้ดีก่อน เพราะปัจจุบัน พรบ.การชุมนุมในที่สาธารณะได้มีผลบังคับใช้แล้ว หากฝ่าฝืนก็อาจถูกดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งไม่สามารถอ้างว่าไม่รู้กฎหมาย หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้ ส่วนจะเข้าข่ายความผิดตามพรบ.การชุมนุมในที่สาธารณะด้วยหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาว่ามีผู้เข้าร่วมชุมนุมเท่าไหร่ เกินจำนวนที่มีการระบุไว้ใน พรบ.การชุมนุมในที่สาธารณะหรือไม่ รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในพื้นที่ภายในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง ก่อนการชุมนุมหรือไม่ ทั้งจะต้องตรวจสอบพฤติกรรมของกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย หากพบว่ามีเจตนากระทำความผิด ก็จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

โดยทางเจ้าหน้าที่เองก็ได้มีการเฝ้าระวังด้านการข่าว และติดตามพฤติกรรมของกลุ่มผู้ชุมนุมแต่ละกลุ่ม ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มอื่น 

ส่วนความคืบหน้าการส่งสำนวนคดีแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พล.ต.ต. ปิยะพันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ส่งสำนวนไปทั้งหมดแล้ว 6 สำนวน ที่ทางพนักงานสอบสวนส่งมอบให้กับกองคดีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อส่งมอบให้กับคณะกรรมการพิจารณาความครบถ้วนของสำนวนอีกครั้ง โดยล่าสุด ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงนามอนุมัติทั้ง 6 สำนวนส่งฟ้องต่ออัยการแล้ว ส่วนสำนวนที่เหลือทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้เร่งสรุปสำนวนที่มีความสำคัญที่สุดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว 

ขณะที่การติดตามผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างหลบหนี อาทิ พลตรี สุชาติ พรหมใหม่ นายทหารทรงคุณวุฒิกองทัพบก นายคชาชาต บุญดี และอดีตนายตำรวจสังกัดกองบัญชาการสอบสวนกลาง นั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินการกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองหลบหนีอยู่ที่ใด และยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือ หรือปล่อยให้ผู้ต้องหาหลบหนีอย่างแน่นอน

 

..ผสข.สมจิตร์ พูลสุข