สำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐหรือเอฟบีไอ เปิดเผยผลการสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับนายซาอิด ฟารุค และนางทาชฟีน มาลิคคู่สามีภรรยาซึ่งร่วมกันก่อเหตุกราดยิงที่ศูนย์บริการสาธารณสุขซานเบอร์นาดิโน่ มลรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นที่ทำงานของนายฟารุค และเอฟบีไอเชื่อว่า เป็นการโจมตีเพื่อฝึกซ้อมสำหรับการก่อเหตุครั้งใหญ่ในอีกหลายวันถัดมา แต่ปรากฎว่าทั้ง 2 คนถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับและวิสามัญในอีกหลายชั่วโมงหลังการก่อเหตุ ทำให้เจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกาตรวจสอบคดีนี้ในลักษณะเดียวกับคดีก่อการร้าย ซึ่งนายเดวิด โบว์ดิช ที่ปรึกษาผู้อำนวยการเอฟบีไอ ประจำลอสแอลเจลิส เปิดเผยว่า ทั้ง 2 คนเคยแสดงความเห็นในแนวทางรุนแรง รวมถึงเคยไปฝึกซ้อมยิงปืนด้วย ทั้งนี้ เอฟบีไอไม่ได้เปิดเผยผลการสอบสวนทั้งหมด แต่ระบุว่า จากวัตถุระเบิดที่ประกอบขึ้นเอง อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน รวมถึงอาวุธจำนวนมากที่พบในห้องพัก แสดงให้เห็นว่าทั้งคู่มีการเตรียมก่อเหตุต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ยังพบว่านายฟารุคเดินทางไปซาอุดิอาระเบียในเดือนกรกฎาคม 2557 แล้วกลับมาสหรัฐในอีก 2 สัปดาห์ถัดมาโดยมีนางมาลิคเดินทางกลับมาด้วยในฐานะคู่สมรส ซึ่ง 1 วันก่อนที่จะลงมือก่อเหตุเขายังโพสต์ข้อความสนับสนุนกลุ่มไอเอสในบัญชีเฟซบุ๊ก แต่ไม่มีหลักฐานว่าการวางแผนก่อเหตุเกิดขึ้นในต่างประเทศหรือไม่ เพียงแต่ต้องสงสัยเรื่องที่มาของเงินที่ทั้งคู่นำไปซื้ออาวุธเหล่านี้ ส่วนบิดาของนายฟารุคก็ยอมรับว่าบุตรชายยกย่องแนวคิดของกลุ่มไอเอส และเกลียดชังอิสราเอล นอกจากนี้ยังเล่าว่า บุตรเคยเล่าว่าถูกเพื่อนร่วมงานล้อเลียนเรื่องการไว้หนวดเครา และครอบครัวยังทราบว่า เขามีอาวุธปืนอยู่ในครอบครองเป็นปืนสั้น 2 กระบอกและปืนไรเฟิล 2 กระบอก แต่ไม่รู้เรื่องวัตถุระเบิดที่พบ
..