*กสม.ประชุมพรุ่งนี้กรณีคุมตัวกลุ่มปชต./สุเทพ ชี้ไม่เป็นธรรมกดดัน พล.อ.อุดมเดชลาออกรมว.คลังฮ่องกงเตือนผลกระทบศก.*

สรุปข่าว 19.35น.

+++แกนนำกลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตย พร้อมมวลชนที่ถูกทหารควบคุมตัวทั้งหมด จำนวน 38 คน เป็นชาย 22 คน หญิง 16 คน ถูกนำตัวไปยังกองบัญชาการควบคุมกองพลทหารราบที่9 บริเวณพุทธมณฑลสาย4 โดยได้จัดแพทย์มาตรวจสุขภาพกลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยทั้งหมดอีกด้วย  โดยถูกแยกเป็น 2 กลุ่ม คือแกนนำ กับ มวลชน ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ทหารกำลังทำความเข้าใจกับกลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตย ทั้ง 2 ส่วน โดยคาดว่า ในส่วนของมวลชน จะได้รับการปล่อยตัว สำหรับในส่วนของแกนนำ จะมีการทำข้อตกลงร่วมกันเช่นเดียวกับกรณี นายจตุพร พรหมพันธ์ และนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำนปช. ก่อนจะปล่อยตัวเช่นกัน

โดยขั้นตอนการปฏิบัติตามกฎหมายของคสช. โดยมี พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าฝ่ายกฎหมายคสช. และพ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ ได้ดำเนินการตามกฎหมาย โดยการให้แกนนำ และมวลชนทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันให้เข้าใจกันทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ เมื่อดำเนินการเสร็จก็ได้ปล่อยตัวแกนนำและมวลชนกลับบ้านทันที

+++ด้านนายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการ กสม.วันพรุ่งนี้(8ธ.ค.) มีโอกาสสูงที่จะมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือกันในที่ประชุมเป็นการภายใน นอกเหนือจากวาระการประชุมตามปกติ และหากการหารือมีข้อสรุปที่ชัดเจนก็จะมีการแจ้งสื่อมวลชนในภายหลัง  เมื่อถามว่าหากการหารือได้ข้อสรุปจะมีมาตรการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างไรนั้น ต้องดูข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก่อน ว่ามีการควบคุมตัวอย่างไร ละเมิดสิทธิในด้านไหน ส่วนมาตรการดำเนินการก็จะเป็นไปตามอำนาจที่ กสม.มีอยู่ตามกฎหมาย

+++นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย เชื่อว่า ประชาชนทั้งประเทศเข้าใจ สถานการณ์ดีว่าฝ่ายที่ต้องการบ่อนทำลายความมั่นคง ทำลายความศรัทธาที่มีต่อรัฐบาล หยิบยกเอาประเด็นเรื่องอุทยานราชภักดิ์ มาขยายให้ดูเป็นเรื่องใหญ่ ความจริงแล้วการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ใช้งบประมาณไปเท่าไหร่ ที่ทราบมาประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่โตเหมือนโครงการรับจำนำข้าวโครงการรถยนต์คันแรก โครงการบ้านเอื้ออาทร  แต่หากมีการทุจริตคอร์รัปชั่น จะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ก็เป็นเรื่องทั้งนั้น แต่เอาเรื่องมาขยายผลเหมือนใหญ่กว่าโครงการรับจำนำข้าว ที่สื่อนำเสนอทุกวัน อาจจะกลบเรื่องเก่า หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ แต่ว่าเราประชาชนตั้งหลักทำใจว่าในที่สุด ก็ต้องสะสางให้เห็นข้อเท็จจริงใครผิดใครถูกก็ว่าไปตามนั้น หรือการที่มีคนบางพวกบางกลุ่มที่นำ เรื่องดังกล่าวมาล้มรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือมาทำลายความเชื่อถือของ คสช.ตนยืนยันว่าไม่เป็นผล มวลมหาประชาชน และคนไทยทั้งหลายไม่ตกลงสู่กับดักหลุมพรางนี้อย่างแน่นอน

ส่วนข้อการเรียกร้องให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม รับผิดชอบ นายสุเทพ กล่าวว่า รู้สึกว่าไม่เป็นธรรม เพราะยังไม่ทราบว่าโครงการดังกล่าว มีการทุจริตคอร์รัปชั่นจริงหรือไม่และไม่ทราบว่าใครเป็นคนทุจริตหรือ พล.อ.อุดมเดช ท่านรู้เห็นหรือไม่รีบสรุปไปเล่นงานก่อน ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรม ทั้งนี้หากตรวจสอบแล้วพบว่า พล.อ.อุดมเดช มีความผิดจริง ก็ต้องปลดออกจากตำแหน่ง จะต้องถูกดำเนินคดีแต่ทางที่ดีประชาชนก็ต้องรอดูผลการตรวจสอบต่อไป 

+++พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. แถลงผลจับกุม นายอันโตนิโอ แบ็คนาโต้ สัญชาติออสเตรเลีย ตามหมายจับศาลมณฑลทหารบก4 และได้อายัดตัวเพื่อดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดใดให้ผู้อื่น ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นนั้นถึงแก่ความตาย ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและร่วมกันลักลอบฝังซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังสาเหตุการตาย ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา กรณี คนร้ายเป็นชาวต่างชาติ 5 คน ก่อเหตุทำร้าย นายเวนย์ ชไนเดอร์ นักธุรกิจเจ้าของฟิตเนสชาวออสเตรเลีย แล้วอุ้มขึ้นรถหลบหนีไป เ ก่อนมาพบศพถูกฝังไว้ ที่บริเวณปากทางอ่างเก็บน้ำวัดญาณสังวราราม ต่อมาทราบว่าคนร้ายที่เหตุมี 5 คน คือ นายอันโตนิโอ แบ็คนาโต้ สัญชาติออสเตรเลีย นายไทเลอร์ โจเซฟ ฟูลตั้น ชีน เจอร์ราด สัญชาติอเมริกา ซึ่งทั้ง 2 คนถูกจับกุมตัวได้แล้ว ส่วนอีก 3 คนคือ นายสเตตสั้น ไอแซค โจนส์ สัญชาติอเมริกา นายมิทเชล พอล โคปแลนด์ สัญชาติออสเตรเลีย และนายเจ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ยังคงหลบหนี อยู่ระหว่างการติดตามตัว จากการสอบสวนทราบว่า นายแอนโทนิโอทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้ผู้ตาย แต่มาผิดใจกันเรื่องส่วนตัว ซึ่งไม่ยอมบอกสาเหตุที่แน่ชัด จึงลงมือฆ่าโดยใช้สนับมือกระแทกที่ด้านหลังศีรษะ 4 แห่ง ทำให้สมองกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงเป็นเหตุให้เสียชีวิต แล้วนำร่างไปฝัง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุที่เหลือ ซึ่งคาดว่าได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว และจะทำการประสานไปยังตำรวจสากลเพื่อติดตามตัวที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป

+++บีบีซี รายงานอ้างรัฐบาลซีเรียว่า มีทหารซีเรียเสียชีวิต 3 ศพและบาดเจ็บ 13 คนหลังเครื่องบินรบของสหรัฐฯและพันธมิตรจำนวน 4 ลำยิงจรวด 9 ลูกโจมตีค่ายทหารแซกา ในเมืองไอยัช จังหวัดเดียร์ อัลซอร์ ทางภาคตะวันออกของประเทศเมื่อค่ำวานนี้ ทำลายยานหุ้มเกราะ 3 คัน รถทหาร 4 คัน ปืนกลหนัก คลังอาวุธและเครื่องกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง โดยซีเรียได้ประณามการกระทำดังกล่าวว่าเป็นพฤติกรรมก้าวร้าวอย่างชัดเจน แต่พ.อ.สตีฟ วอร์เรน โฆษกกองกำลังพันธมิตรปฏิเสธว่าพันธมิตรไม่ได้โจมตีในท้องที่ดังกล่าว

+++มุมมองบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นฮ่องกงในช่วงเช้า หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 211,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2551

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวขึ้นในวันนี้ อันเนื่องมาจากความชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของสหรัฐ หลังข้อมูลจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนนี้ เพิ่มขึ้น 193.67 จุด หรือ 0.99% แตะที่ 19,698.15 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากปิดภาคเช้าในแดนบวกสอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ซึ่งขานรับข้อมูลจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ แต่ความคิดเห็นของนายจอห์น ซาง รมว.คลังของฮ่องกง กล่าวในวันนี้ว่า เศรษฐกิจฮ่องกงจะได้รับผลกระทบอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จากแนวโน้มขาลงของเศรษฐกิจโลก โดยภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวจะยังคงอ่อนแอ พร้อมเตือนว่านโยบายทางการเงินที่แตกต่างกันในสหรัฐและยุโรปอาจจะส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจโลก ถ่วงดัชนีให้ปิดอ่อนแรงลง ดัชนีฮั่งเส็งลดลง 32.67 จุด ที่ 22,203.22 จุด