ทันสถานการณ์ฯ:ปธน.สหรัฐแถลงยุทธศาสตร์ความปลอดภัย/รัสเซียตำหนิสหรัฐไม่ลงโทษตุรกี/ลอบสังหารคนสนิทผู้นำเยเมน*

07 ธันวาคม 2558, 06:06น.


ในวันนี้ ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐ จะแถลงยุทธศาสตร์การรักษาความปลอดภัยแก่ชาวอเมริกันและแผนการกวาดล้างนักรบกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส



รัฐสภาอังกฤษมีมติให้กองทัพเข้าร่วมในปฏิบัติการโจมตีกลุ่มไอเอสในซีเรีย และให้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดประจำการที่ฐานทัพในไซปรัส โดยมีปฏิบัติการสำคัญคือการโจมตีบ่อน้ำมันที่เป็นแหล่งเงินทุนจากการค้าน้ำมันเถื่อนของกลุ่มไอเอส



เหตุคนร้ายใช้มีดไล่แทงประชาชนที่สถานีรถไฟใต้ดินเลย์ตัน สโตน ในกรุงลอนดอน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน และจับผู้ต้องสงสัยไว้ 1 คน ซึ่งหน่วยงานต่อต้านการก่อการร้ายของอังกฤษกำลังสอบสวนอยู่



นายเซอร์เก ซอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย โพสต์เฟซบุ๊ก กล่าวประณามสหรัฐที่ไม่รับรู้เรื่องที่ตุรกีซื้อน้ำมันเถื่อนจากกลุ่มไอเอสในซีเรีย และเห็นว่าเป็นการสมรู้ร่วมคิด เพราะยานโดรนของสหรัฐจับภาพการขนน้ำมันได้ถึง 3 ครั้ง ในบริเวณชายแดนตุรกี-ซีเรีย และที่เขตที่กลั่นน้ำมัน



ที่เยเมนเกิดเหตุระเบิดโจมตีขบวนรถของนายจาฟาร์ ซายีด ผู้ว่าการนครเอเดน ที่มั่นหลักของฝ่ายรัฐบาลเยเมน ส่งผลให้เขาเสียชีวิตพร้อมเจ้าหน้าที่อารักขา 6 คน ต่อมากลุ่มไอเอสประกาศว่าเป็นผู้ก่อเหตุ และยังเป็นการโจมตีที่เกิดขึ้น 1 วันหลังจากที่ผู้แทนของสหประชาชาติ หารือกับประธานาธิบดีมันซูร์ ฮาดิ ผู้นำเยเมน เพื่อยุติสงคราม



ที่ประชุมรัฐมนตรีกิจการภายในของสหภาพยุโรป หรือ อียู มีมติให้ระงับการบังคับใช้เขตการท่องเที่ยวภายในยุโรปที่ไม่ต้องใช้พาสปอร์ตเชงเก้น และให้แต่ละประเทศตั้งด่านตรวจเป็นเวลา 2 ปี เพื่อรับมือปัญหาผู้อพยพจากซีเรียและตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ยังเห็นชอบตามข้อเสนอของฝรั่งเศส ที่ขอให้มีการบันทึกชื่อของผู้โดยสารเครื่องบิน



รัฐบาลอาเซอร์ไบจานแต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริงเหตุเพลิงไหม้แท่นขุดเจาะน้ำมันในแปลงสัมปทานหมายเลข 10 นอกฝั่งทะเลแคสเปียน ห่างจากกรุงบาคู เมืองหลวงของอาเซอร์ไบจานไปทางใต้ราว 90 กม. ซึ่งเกิดเหตุเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม และทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนสูญหาย 30 ราย สามารถช่วยเหลือออกมาได้ 32 คน ผลสอบในเบื้องต้นพบว่าสาเหตุเกิดจากลมพายุที่ทำให้ท่อส่งก๊าซรั่วไหล จึงเกิดระเบิดและไฟไหม้ตามมา ขณะที่อัยการระบุว่าระบบเตือนภัยและป้องกันไฟไหม้ของแท่นขุดเจาะอาจไม่ได้มาตรฐาน



นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษ แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต 1 คนและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากพายุเดสมอนด์ ซึ่งเคลื่อนผ่านพื้นที่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่



นายบิล คัลเลน ผู้อำนวยการภาคพื้นดินขององค์การอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) สั่งเลื่อนการยิงจรวดส่งเสบียง ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ซึ่งเป็นการปฏิบัติภารกิจครั้งแรกในรอบ 30 วัน เนื่องจากมีพายุเคลื่อนผ่านบริเวณฐานปฏิบัติการในเคปคานาเวอรัล รัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ



นายเน ฉ่วย เตว อ่อง หลานชายของนายพลตาน ฉ่วย อดีตผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา เผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเครือข่ายออนไลน์เฟซบุ๊ก ว่านายพลตาน ฉ่วย เปิดโอกาสให้นางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ เอ็นแอลดี เข้าพบอย่างลับๆ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมาหลังพรรคเอ็นแอลดีได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งนายพลตาน ฉ่วย เห็นว่านางซูจีมีความเหมาะสมกับตำแหน่งผู้นำในอนาคต แต่ไม่ได้เรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญที่บุคคลที่มีสมาชิกครอบครัวเป็นชาวต่างชาติรับตำแหน่งประธานาธิบดี



นายวิน เต็ง ส.ส.อาวุโสแห่งพรรคเอ็นแอลดี ยืนยันว่า มีการพบปะกันระหว่างนางซูจีและนายพลตาน ฉ่วย เนื่องจากนางซูจีเห็นว่านายพลตาน ฉ่วยยังมีอิทธิพลต่อกองทัพและแกนนำรัฐบาลชุดปัจจุบัน



ส่วนเหตุรถไฟโดยสารชนรถมินิบัสในกรุงจาการ์ตา ของประเทศอินโดนีเซีย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 คนซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ที่อยู่ในมินิบัส และมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 6 คน ขณะที่ไม่มีคนบนรถไฟได้รับบาดเจ็บ ตำรวจเมืองทัมโบรา เปิดเผยว่า คนขับรถมินิบัสฝ่าสัญญาณเตือน และข้ามทางรถไฟ ทำให้รถไฟซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองโบกอร์ พุ่งเข้าชนอย่างแรง และถูกรถไฟลากไปเป็นระยะทางประมาณ 300 เมตร



นายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูล ผู้นำออสเตรเลีย ประกาศทุ่มงบประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เพื่อสนับสนุนมาตรการป้องกันและปราบปรามยาบ้าและยาไอซ์ในประเทศ  โดยจะใช้โครงการด้านสาธารณสุขเพื่อลดจำนวนผู้เสพติดยาบ้าและยาไอซ์ ควบคู่ไปกับปฏิบัติการของตำรวจในการจับกุมและกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติด รวมถึงเสนอจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือครอบครัวเจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปราบปรามยาเสพติด ตลอดจนส่งเสริมแนวทางการบำบัดและรักษาอาการของผู้ติดยาเสพติดในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ โดยสถิติผู้เสพยาไอซ์ทั่วประเทศเพิ่มขึ้นราว 200,000 คน จากผลสำรวจช่วงปี 2550-2556 ซึ่งจำนวนผู้เสพยาที่มากขึ้นดึงดูดให้ขบวนการค้ายาเสพติดจากทั่วโลกลักลอบเข้ามาค้ายาในออสเตรเลียเพิ่มมากขึ้น ทั้งจากเม็กซิโก, อิหร่าน, จีน และประเทศแถบแอฟริกาตะวันตก ขณะที่รัฐบาลจีนและฮ่องกง, สหรัฐอเมริกา และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ให้ความร่วมมือกับออสเตรเลียเป็นอย่างดีในการปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ



*-*

ข่าวทั้งหมด

X