กรณีที่มีหนังสือลับให้ติดตามพฤติกรรมของชาวต่างชาติ โดยหน่วยต่อต้านข่าวกรองของรัสเซียได้มีการประสานมาว่ามีชาวซีเรียที่เกี่ยวข้องกับขบวนการไอเอส เข้ามาในไทย 10 ราย พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมนกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาว่าใครเป็นผู้ปล่อยเอกสารฉบับนี้ออกมา ซึ่งข่าวที่หลุดออกมามองได้ 2 แง่มุม คือ จะทำให้ประชาชนในพื้นที่ตื่นตระหนก และทำให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา เฝ้าระวังในการดูแลความปลอดภัยต่างๆ โดยตั้งแต่เดือนตุลาคมมีนักท่องเที่ยวชาวซีเรียเข้ามายังประเทศไทยกว่า 200 คน ซึ่งขณะนี้มีนักท่องเที่ยวชาวซีเรียเหลือในไทยประมาณ 20 กว่าคน ซึ่งการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยของชาวซีเรียเป็นไปตามที่วีซ่ากำหนดอยู่แล้ว
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีมาตรการในการป้องกันเรื่องดังกล่าว และได้มอบหมายให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 จับตาดูแลเป็นพิเศษในพื้นที่จังหวัดชลบุรี พัทยา และเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เนื่องจากเป็นเดือนของการท่องเที่ยวและเทศกาลต่างๆ โดยประเทศที่แจ้งข้อมูลเตือนภัยให้แก่ประเทศไทยไม่ได้มีเฉพาะประเทศรัสเซียเท่านั้น แต่ยังมีประเทศอื่นๆ ด้วย ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ามีประเทศอะไรบ้าง
ส่วนกระแสข่าวการควบคุมตัวนางวรรณา สวนสัน ผู้ต้องหาคดีระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร ได้ที่ประเทศตุรกี พล.ต.อ. จักรทิพย์ ระบุว่า กำลังหารือในเรื่องดังกล่าวกับพล.ต.ท. ศรีวราห์ ซึ่งทางการทูตมีช่องทางการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนอยู่แล้ว และไทยกับตุรกี ก็มีสนธิสัญญาร่วมกันในเรื่องดังกล่าวร่วมกัน เบื้องต้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่ได้มีการประสานกับทูตไทย ประจำประเทศตุรกี
สำหรับกระแสข่าวการออกหมายจับนายตำรวจยศ พล.ต.ต. ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการติดตั้งเสาสัญญาณโดยมิชอบของพ.ต.ต. ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด อดีตรองสารวัตรกองบังคับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.อ. จักรทิพย์ เปิดเผยว่า ยังไมได้คุยเรื่องนี้กับพล.ต.ท. ศรีวราห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีเบาะแสในเรื่องดังกล่าวอยู่เรื่อยๆ เพียงแต่ยังเปิดเผยไม่ได้
ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข