ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU) พล.ร.ท.จุมพล ลุมพิกานนท์ รองเสนาธิการทหารเรือ โฆษกศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) กล่าวว่า ศปมผ.แก้ปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมายให้เป็นการแก้ไขอย่างยั่งยืน โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมประมง กรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ กรมศุลกากร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้วยการสร้างกติกาที่มีประสิทธิภาพ เช่น การตรา พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 แผนการบริหารจัดการประมงทะเลไทย การแก้ไขปัญหาความซ้ำซ้อนของทะเบียนเรือและใบอนุญาตทำการประมง เพิกถอนเรือประมงผิดกฏหมายจำนวน 8024 ลำ และการช่วยเหลือชาวประมงที่ได้รับผลกระทบโดยคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมติเงินช่วยเหลือชาวประมงจำนวน 228 ล้านบาท พล.ร.ท.จุมพล ยืนยันว่า หลังจากนี้ อียูจะประเมินไทยให้ใบเหลืองหรือใบแดง ถือว่าไม่มีความสำคัญมากนัก เนื่องจากว่า ศปมผ. ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนให้ประเทศไทยมีการทำประมงให้ได้มาตรฐานและเป็นไปตามหลักสากล ทั้งการฟื้นคืนทะเลไทย จำกัดอุปกรณ์จับสัตว์น้ำ รักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งจะต้องเกิดการผลักดันและทำอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ศปมผ.ยังพิจารณาให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างสมดุลยั่งยืน โดยควบคุมจำนวนเครื่องมือทำการประมงที่มีประสิทธิภาพ การพัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับให้ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศเชื่อมั่นว่าปลาที่จับและกระบวนการผลิตเป็นไปอย่างถูกต้อง รวมทั้งการการจัดแรงงานภาคประมงให้มีประสิทธิภาพ เปิดโอกาสให้มีการลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวด้วยการบูรณาการฐานข้อมูลเรือประมงและแรงงานประมงให้สามารถบังคับใช้กฏหมายได้รวดเร็ว
ทั้งนี้ ในช่วงเดือน พ.ย.2558-เม.ย.2559 ศปมผ.มีแผนดำเนินการอย่างต่อเนื่องโดยมีการนำกฏหมายและแผนที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีมาปฏิบัติและบังคับใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัดและเตรียมเปลี่ยนผ่านให้หน่วยงานรับผิดชอบหลัก เช่น กรมประมง กรมเจ้าท่า ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) มีความพร้อมในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฏหมายภายหลัง ศปมผ. ยุติการปฏิบัติการ การแถลงในวันนี้ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงด้วย ทั้งนายมีศักดิ์ ภักดีคง รองอธิบดีกรมประมงนางจิราภรณ์ จันทรศิริ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า และนายอารักษ์ พรหมมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน
ผู้สื่อข่าว: ปิยะธิดา เพชรดี