*รอบวัน:ฝ่ายความมั่นคง ให้ความมั่นใจคำเตือนของรัสเซีย/คุม จิรวงศ์ ผตห.ม.112 ฝากขังผัด 5/ฝากขังผตห.คดีขอนแก่นโมเดล ผัด 2*

+++ช่วงบ่ายนี้ ตามกันต่อ หลังจากมีรายงานหนังสือคำสั่ง ให้ติดตามพฤติการณ์ชาวต่างชาติ โดยในคำสั่ง ระบุว่า ด้วยหน่วยต่อต้านข่าวกรองของรัสเซีย หรือเอฟเอสบี ประสานผ่านสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)แจ้งเตือนความเป็นไปได้ในการก่อเหตุร้ายของกลุ่มก่อการร้ายไอเอส (Islamic State) ต่อผลประโยชน์ของรัสเซียในประเทศไทย โดยมีชาวซีเรีย 10 รายที่เกี่ยวข้องกับกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส (IS) ได้เดินทางเข้าไทยแล้วระหว่างวันที่ 15-31 ต.ค.2558 ก่อนหน้านี้ มีการเปิดเผยจากในส่วนของกองทัพและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องการตรวจสอบและการให้ความมั่นใจ พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติและที่ปรึกษา สบ.10 ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนว่าเป็นอย่างไร แต่อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับกรณีดังกล่าว รอให้ข้อเท็จจริงปรากฏก่อน

+++พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.) ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้น เพราะหน่วยงานด้านการข่าว ยังไม่พบข้อมูลการเคลื่อนไหวในประเทศไทย

+++ ด้าน พล.ต.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่า ประเด็นที่มาของเอกสารลับมากขอให้เป็นการยืนยันความมีอยู่จริงของหน่วยราชการนั้นๆ สำหรับความเห็นต่อประเด็นเนื้อหาของเอกสาร ชี้แจงว่า ประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งโดยตรงกับประเทศใด ส่วนความน่าจะเป็นที่กลุ่มก่อการร้ายจะเดินทางเข้าไทยนั้นต้องรอการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลตามข้อมูลในเอกสารที่มีการเผยแพร่ ทั้งนี้ หน่วยงานด้านความมั่นคงทุกหน่วยได้มีมาตรการรองรับตามภารกิจของแต่ละหน่วยแล้ว และเห็นว่าข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ หากยังไม่มีการยืนยันในข้อเท็จจริง อาจทำให้สังคมเกิดข้อกังวลเกินกว่าเหตุได้

+++เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และทหารจากมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) พร้อมด้วยทีมพนักงานสอบสวน ได้นำตัวนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรือ อาท เลขาส่วนตัวนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง ผู้ต้องหากระทำความผิดในข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาฝากขังที่ศาลทหารกรุงเทพ เป็นผัดที่ 5 ระยะเวลา 12 วัน หลังการฝากขังผัดที่ 4 เมื่อวันที่ 25 พ.ย. จะครบกำหนดในวันที่ 7 ธ.ค. นี้ แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาฝากขังก่อนครบกำหนด

+++ส่วนผู้ต้องหาคดีขอนแก่นโมเดล พนักงานสอบสวนนำตัว จ.ส.ต.ประธิน จันทร์เกศ และ นายณัฐพล ณ วรรณ์เล ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูงและนำเข้าสู่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยจากการสอบสวนพบความเชื่อมโยงกับขอนแก่นโมเดล และเตรียมก่อเหตุในช่วงกิจกรรมสำคัญ มาฝากขังผัด 2 โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร ดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

+++นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายกลุ่มสิทธิมนุษยชน ในฐานะทีมทนายผู้ต้องหาคดีขอนแก่นโมเดล กล่าวว่า จะคัดค้านการฝากขัง 2 ผู้ต้องหาในผัด 2 เพราะไม่เชื่อในพยานหลักฐานที่มีและการออกหมายจับมีพิรุธหลายเรื่อง เช่น คนที่อยู่ในเรือนจำจะออกหมายจับได้อย่างไร นอกจากนี้จะแถลงต่อศาลทหารว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปราม คุกคามทีมทนายความ ภายหลังที่เดินทางไปแจ้งความเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมีลักษณะการโทรศัพท์มาตลอด และพยายามกักบริเวณทีมทนายที่เดินทางไปเยี่ยมผู้ต้องหา ที่เรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี มทบ.11 โดยกันทนายออกจากกัน และให้พบผู้ต้องหาเพียง 5 นาที หลังจากนั้นก็มีการตามประกบและพยายามจะนำตัวทนายไปยังกองบังคับการปราบปรามและขอให้ถอนแจ้งความก่อนหน้านี้ที่เอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ  พร้อมเรียกร้องถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ในฐานะเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเมตตา อยากให้มีความเมตตาในเรื่องนี้

+++เจ้าหน้าที่รัฐบาลฮังการี เปิดเผยว่า หนึ่งในกลุ่มก่อการร้ายปารีส ฝรั่งเศส ได้เดินทางไปฮังการีเพื่อหาผู้ร่วมก่อการร้ายจากกลุ่มผู้เข้าเมืองที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับทางการ นายยานอส ลาซาร์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีฮังการี แถลงข่าวที่กรุงบูดาเปสต์ว่า ยืนยันได้ว่าหนึ่งในกลุ่มก่อการร้ายที่กรุงปารีสของฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนเคยเดินทางมาที่สถานีรถไฟเคเลตี กรุงบูดาเปสต์เพื่อหาคนร่วมก่อเหตุจากกลุ่มผู้เข้าเมืองที่ไม่ยอมขึ้นทะเบียนกับทางการแล้วเดินทางออกนอกประเทศไปด้วยกัน แต่ไม่ได้ระบุชื่อชายคนนั้น ช่วงเวลา หรือบุคคลที่เขามาติดต่อไปร่วมก่อการร้าย

+++ขณะที่แหล่งข่าวรัฐบาลฮังการียืนยันในเวลาต่อมาว่าชายคนดังกล่าวคือนายซาลาห์ อับเดลสลาม ชาวเบลเยียมวัย 26 ปีที่ยังคงหลบหนีการตามล่าอยู่ทั้งนี้ก่อนที่ฮังการีจะปิดพรมแดนด้านติดกับเซอร์เบียในกลางเดือนกันยายน ผู้เข้าเมืองและผู้ลี้ภัยหลายพันคนได้พักค้างคืนที่สถานีรถไฟเคเลตีอยู่หลายวันหรือหลายสัปดาห์ระหว่างรอเดินทางต่อไปยังยุโรปเหนือ แหล่งข่าวฝรั่งเศสเผยว่า รถที่นายอับเดลสลามเช่ามาก่อเหตุในกรุงปารีสมีประวัติว่าแล่นอยู่ในฮังการีเมื่อวันที่ 17 กันยายน ขณะที่ทางการออสเตรียแจ้งเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนว่า มีบันทึกว่าเขาถูกตำรวจเรียกตรวจกลางทางเมื่อวันที่ 9 กันยายน ขณะขับรถป้ายทะเบียนเบลเยียมมาจากเยอรมนีกับชายอีก 2 คนและบอกกับตำรวจว่ามาท่องเที่ยว

CR:แฟ้มภาพ ,Reuters