ความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนเหตุกราดยิงในศูนย์บริการสาธารณสุขอิงแลนด์ เรจินัล ในซานเบอร์นาดิโน มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 14 ศพ และบาดเจ็บ 21 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ในการตรวจค้นบ้านพักของคนร้าย 2 คนที่ถูกตำรวจวิสามัญระหว่างพยายามหลบหนี ซึ่งบ้านหลังนี้ตั้งอยู่ในแคลิฟอร์เนียเช่นกัน เจ้าหน้าที่พบอาวุธหลายชนิด กระสุนปืน และระเบิด ทั้งที่ประกอบเสร็จแล้วและอุปกรณ์ที่พร้อมสำหรับการประกอบเพิ่มเติม ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่พบแรงจูงใจที่ทำให้นายซาอิด ริซวาน ฟารุค อายุ 28 ปีกับนางทาสฟีน มาลิค อายุ 27 ปีลงมือก่อเหตุ แต่ตำรวจเชื่อว่าทั้งคู่มีแผนจะก่อเหตุอีกครั้ง

ด้านเจ้าหน้าที่ชัณสูตรศพทยอยแจ้งชื่อของผู้เสียชีวิต ขณะที่ในการเก็บหลักฐานจากจุดที่มีการวิสามัญคนร้ายเจ้าหน้าที่พบกระสุนตกอยู่มากกว่า 400 นัด และมีตำรวจบาดเจ็บ 2 นายจากเหตุการณ์นี้ และทำให้เป็นเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา นับตั้งแต่มีผู้เสียชีวิต 26 คนในเหตุกราดยิงที่โรงเรียนในนิวตัน รัฐคอนเนคติกัต เมื่อปี 2555 นอกจากนี้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐยังมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่สืบสวนกลางสหรัฐหรือเอฟบีไอ รับหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวนแทนตำรวจซานเบอร์นาดิโนเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุกราดยิง เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเหตุก่อการร้าย โดยนายทอม ริดจ์ รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เปิดเผยว่าจากหลักฐานทั้งหมดชี้ไปในทางเดียวกันว่าเป็นการก่อการร้าย แม้ว่านายฟารุคที่เกิดในสหรัฐอเมริกา จะไม่เคยอยู่ในบัญชีรายชื่อของผู้ที่ถูกจับตาว่ามีพฤติกรรมก่อเหตุรุนแรง และเคยทำงานที่สำนักงานสาธารณสุขซานเบอร์นาดิโนมานาน 5 ปี และเพื่อนร่วมงานเปิดเผยว่า เขาเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามและมักพูดคุยเกี่ยวกับศาสนา นอกจากนี้ คนร้ายทั้ง 2 คนยังมีบุตรสาว 1 คนอายุ 6 เดือนที่ฝากไว้ที่บ้านของยายก่อนที่จะไปก่อเหตุ โดยในระหว่างงานการจัดกิจกรรมที่ศูนย์ที่เกิดเหตุ นายฟารุคเข้าร่วมงาน จากนั้นก็ถอดเสื้อคลุมออก แล้วออกไปด้านนอก เมื่อกลับมาอีกครั้งก็มีนางมาลิคกลับมาด้วยจากนั้นก็เปิดฉากกราดยิง