*รอบวัน: นายกฯห่วงการวิจารณ์บทบาททูตสหรัฐฯ/กรธ.ลดขั้นตอนการพิจารณากม.ของส.ว.*

+++นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมกรธ. พิจารณาหลักการร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา โดยเมื่อร่างกฎหมายผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ต้องเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาภายใน 60 วัน หากเป็นกฎหมายการเงินต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และขยายเวลาได้ไม่เกิน 30 วัน แต่หากพิจารณาไม่เสร็จ ให้ถือว่าวุฒิสภาให้ความเห็นชอบในร่างกฎหมายดังกล่าว ที่ประชุมได้เพิ่มหลักการใหม่ เพื่อให้การพิจารณาร่างกฎหมายเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ลดขั้นตอนการพิจารณาของวุฒิสภาลง ให้เหลือเพียง 2 วาระ คือแปรญัตติและลงมติ โดยตัดขั้นตอนการรับหลักการออกไป ยืนยันว่า การลดขั้นตอนดังกล่าว ไม่ได้ทำให้วุฒิสภาเป็นเพียงตรายาง เพราะยังมีอำนาจทักท้วงและมีสิทธิไม่ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมาย

+++นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ปฏิเสธข่าวยื่นใบลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการ กกต. ว่า ยังเป็นเลขาธิการ กกต.และยังทำงานอยู่ ที่มีการปล่อยข่าวว่ายื่นใบลาออกไม่เป็นความจริง ส่วนสุขภาพก็แข็งแรงดี ไม่ได้มีปัญหา ข่าวที่ออกไปเป็นการลือกันไป ตอนนี้ก็ยังเหลือวาระอีกปีเศษ จึงจะครบ 5 ปีตามสัญญาจ้าง

+++พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แสดงความห่วงใยต่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของคนไทยที่มีต่อท่าทีการแสดงออกของเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย หลังจากมีการเผยแพร่ภาพถ่ายร่วมกันของเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ และแกนนำนปช. ว่ากระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงทำความเข้าใจสถานการณ์ภายในของไทย และแนวทางการบริหารประเทศให้แก่มิตรประเทศอย่างต่อเนื่อง และหากองค์กรระหว่างประเทศ หรือมิตรประเทศแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในประเทศไทย บนหลักการสากลโดยสุจริต เที่ยงธรรม รัฐบาลไทยก็จะน้อมรับความเห็นเหล่านั้นทุกครั้ง แต่หากเป็นการแสดงความเห็นหรือท่าทีที่มิได้วางอยู่บนหลักการที่เป็นกลางอย่างแท้จริง ย่อมนำความไม่สบายใจมาสู่คนไทย และอาจสั่นคลอนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน นายกรัฐมนตรี ไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นไม่ว่ากับประเทศใด ดังนั้นหากมีความประสงค์จะรับทราบเรื่องใด ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย รัฐบาลพร้อมที่จะให้เจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้อธิบายชี้แจงจนครบถ้วนในทุกมิติ

+++นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่อนุญาตให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปต่างประเทศเพื่อร่วมหารือกับสมาชิกรัฐสภายุโรป ว่า ถือเป็นดุลพินิจของศาลฯที่ไม่สามารถก้าวล่วงได้ ต้องเคารพการตัดสินใจของศาล แต่หากในอนาคตมีเหตุผลและความจำเป็น จำเลยสามารถยื่นขออนุญาตได้อีก ซึ่งศาลจะพิจารณาเป็นรายกรณี  อย่างไรก็ตาม หากในอนาคตมีการเชิญในลักษณะนี้อีก อาจต้องมีการชี้แจงเหตุผลให้ครบถ้วน และบอกถึงความจำเป็นให้มากขึ้น

+++นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึง การประชุมรถไฟไทย-จีน ครั้งที่ 9 ระหว่างวันที่ 3-4 ธ.ค.นี้ ว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นการรับรายงานผลการศึกษาการออกแบบและรายละเอียดของโครงการร่วมกัน โดยเฉพาะช่วงก่อสร้างที่ 2 เส้นทางแก่งคอย-มาบตาพุต และช่วงก่อสร้างที่ 4 เส้นทางโคราช-หนองคาย หลังจากนี้ฝ่ายไทยจะนำผลการศึกษาของทั้ง 2 ประเทศมาตรวจสอบอีกครั้งว่าตรงกันหรือไม่ คาดว่า จะใช้ระยะเวลาไม่เกินเดือน ก.พ.ปีหน้า หากไม่มีการแก้ไขก็จะเข้าขั้นตอนการสรุปเรื่องงบประมาณของโครงการ สำหรับการพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของโครงการจะต้องรอสรุปรายละเอียดและผลสำรวจโครงการให้แล้วเสร็จก่อน โดยยังคงยึดตามเป้าหมายเดิมที่จะเริ่มก่อสร้างโครงการได้ในเดือน พ.ค.2559

+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย เพิ่มขึ้น 1.17 จุด ที่ระดับ 1,340.62 จุด มูลค่าซื้อขาย 43,255.57ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย รอดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันนี้ หากมีการเพิ่มวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจและมีการลดอัตราดอกเบี้ยก็จะทำให้ตลาดฯ รีบาวด์ได้ในวันพรุ่งนี้ นอกจากนี้ ตลาดฯ ยังเฝ้าติดตามการประชุมโอเปค ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ เพราะหากออกมาดีก็จะยิ่งเป็นตัวสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้

+++กรณีเรื่องคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีคำสั่งเปรียบเทียบปรับผู้บริหารของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL กรณีเข้าซื้อหุ้นบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO โดยอาศัยข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงราคาของหุ้น MAKRO ที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อประชาชนในเดือนเมษายน 2556 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัท ซีพี ออลล์ เจรจาตกลงจะซื้อหุ้น MAKRO ร้อยละ 64.35 จากบริษัท เอสเอชวี เนเธอร์แลนด์ บี.วี. (SHV) นายบัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) มีความเห็นว่าคณะกรรมการโดยหน้าที่ควรกำหนดนโยบายป้องกันการใช้ข้อมูลภายในที่ชัดเจนและกำกับดูแลให้ทุกคนในองค์กรถือปฏิบัติ ดังนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นตัวอย่างว่าคณะกรรมการต้องกำกับดูแลการปฏิบัติตามนโยบายในเรื่องที่กำหนดไว้อย่างจริงจัง สิ่งที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบกับการประเมินบริษัทในปีหน้า

+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียวญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 1.77 จุด ปิดที่19,939.90 จุด ฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลงที่ 62.68 จุด ปิดที่ 22,417.01 จุด

+++คดีอาชญากรรม คดีแก๊งมาเฟียต่างชาติ 5 คน บุกอุ้มนายเวย์น ชไนเดอร์ อายุ 37 ปี นักธุรกิจชาวออสเตรเลีย ที่เมืองพัทยา เมื่อช่วงเช้าตรู่วันที่ 30 พ.ย. และพบเป็นศพถูกฆ่าฝังดินอยู่กลางป่าในพื้นที่ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ ตอนกลางดึกวันที่ 2 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมตัว นายเทเลอร์ โจเซฟ ฟูลตัน ชีน เจอร์ราร์ด (Mr.Tyler Joseph Fulton Sheen Gerard) อายุ 21 ปี สัญชาติอเมริกัน หนึ่งในผู้ต้องสงสัยได้ที่ชายแดนด้าน จ.สระแก้ว พร้อมกับส่งตำรวจนอกเครื่องแบบออกแกะรอยไล่ล่าจับกุมตัวกลุ่มผู้ต้องสงสัย โดยเฉพาะ นายแอนโทนิโอ แบคนาโต้ อายุ 26 ปี ชาวออสเตรเลีย ที่ถูกออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เรียกประชุมทีมเจ้าหน้าที่ และสอบปากคำนายเทเลอร์ ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับผู้ต้องสงสัยชาวออสเตรเลียอีก 4 คนที่ยังหลบหนี ก่อเหตุบุกอุ้มฆ่า นายเวย์น ชไนเดอร์ จนเสียชีวิตจริง ส่วนชนวนเหตุตำรวจ ยังไม่ขอเปิดเผย คาดว่า น่าจะมาจากเรื่องขัดแย้งผลประโยชน์เกี่ยวกับยาเสพติด หรือไม่ก็ธุรกิจผิดกฎหมายบางอย่าง เพราะจากการเช็คประวัติกลุ่มผู้ต้องสงสัยและผู้เสียชีวิตพบว่าเป็นสมาชิกแก๊ง "ดิ เฮลล์ส แอง เจิลส์" ซึ่งเป็นกลุ่มแก๊งช้อปเปอร์ขนาดใหญ่ในประเทศบ้านเกิดที่ทางการออสเตรเลียกำลังเฝ้าจับตามอง

+++สถานการณ์ในต่างประเทศ  เหตุการณ์กราดยิง ในเมืองซานเบอร์นาร์ดิโน รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัย 2 คนที่ก่อเหตุกราดยิง 14 ศพและเสียชีวิตในการยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นชาย 1 คนและหญิง 1 คน โดยผู้ชายมีชื่อว่า ไซเอด ริซวาน ฟารูค วัย 28 ปี และผู้หญิงมีชื่อว่า ทาชฟีน มาลิก วัย 27 ปี นายตำรวจระดับสูง ไม่เชื่อว่า ยังมีผู้ต้องสงสัยรายที่ 3 ยังหลบหนีอยู่ นายฟารูค เกิดในสหรัฐฯ เป็นลูกจ้างในเขตซานเบอร์นาร์ดิโน ทำงานมานาน 5 ปี ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมในหน่วยงานสาธารณสุข ทั้งนี้เป็นที่เชื่อว่าผู้ต้องสงสัยทั้งสองเกี่ยวข้องกับเหตุกราดยิงซึ่งนับว่ารุนแรงที่สุดนับแต่เกิดเหตุสังหารหมู่ที่โรงเรียนแซนดี้ฮุกในเมืองนิวทาวน์ รัฐคอนเนตทิคัตเมื่อเดือนธันวาคม 2555 แต่เหตุจูงใจในการก่อเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด ตำรวจกำลังสอบสวนรายงานที่ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้อาจเกี่ยวข้องกับลูกจ้างรายหนึ่งซึ่งเกิดความไม่พอใจและออกไปจากงานเลี้ยงหลังเกิดข้อขัดแย้ง

+++เว็บไซต์ยูโรนิวส์ รายงานอ้างนายแบร์นาร์ด คาเซเนิร์ฟ รัฐมนตรีความมั่นคงภายในของฝรั่งเศสว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุโจมตีกรุงปารีส ฝรั่งเศสเมื่อเดือนที่แล้ว เจ้าหน้าที่ความมั่นคงฝรั่งเศสได้บุกตรวจค้นบ้านเรือนกว่า 2,000 แห่ง จับกุมผู้ต้องสงสัยกว่า 200 คนและยึดอาวุธราว 334 รายการ ทางการฝรั่งเศส สั่งปิดมัสยิด 2 แห่งเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังต้องสงสัยว่าบ่มเพาะลัทธิหัวรุนแรงของอิสลาม พร้อมยึดเอกสารคำสอนของกลุ่มจิฮาด รัฐบาลฝรั่งเศสสั่งห้ามผู้ต้องสงสัย 22 คนเดินทางออกนอกประเทศ