*กราดยิงในสหรัฐตาย14/ผู้นำตุรกีปัดถูกรัสเซียใส่ร้ายค้าน้ำมันIS/น้ำมันดิ่งต่40เหรียญ*

ทันสถานการณ์ โลก 06.30น.

+++ตำรวจสหรัฐฯเร่งไล่ล่ามือปืนอย่างน้อย 1 คนที่กราดยิงภายในอาคารแห่งหนึ่งในเมืองซาน เบอร์นาร์ดิโน มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ท่ามกลางรายงานข่าวว่ามีผู้เสียชีวิต 14 รายและบาดเจ็บหลายสิบคน ขณะที่ทำเนียบขาวเผยประธานาธิบดีบารัค โอบามา เรียกรับฟังสรุปสถานการณ์เร่งด่วน เบื้องต้นยังไม่ทราบแรงจูงใจของคนร้ายและเอฟบีไอยังไม่ยืนยันว่า เป็นก่อการร้ายหรือไม่ จาร์รอด เบอร์กวน ผู้บัญชาการตำรวจท้องถิ่นบอกกับผู้สื่อข่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คนและบาดเจ็บ 14 ราย แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบถึงแรงจูงใจของคนร้าย  เหตุยิงกันคราวนี้เกิดขึ้นที่ศูนย์ภูมิภาคอินแลนด์ซึ่งเป็นศูนย์ดูแลผู้ป่วย ออทิสติก หนึ่งใน 21 ศูนย์พัฒนาผู้พิการที่บริหารงานโดยภาครัฐ ส่วนภาพข่าวจากซีเอ็นเอ็นพบเห็นผู้คนถูกอพยพออกมาจากอาคาร มีการจัดตั้งศูนย์คัดแยกผู้บาดเจ็บภายนอก และพบเห็นตำรวจและหน่วยสวาทปิดล้อมตัวอาคาร 

+++นักบินรัสเซียทุกคนที่ขึ้นบินออกปฏิบัติการโจมตีบรรดาผู้ก่อการร้ายในซีเรีย ได้รับอนุญาตจากกระทรวงกลาโหม ให้พกปืนเล็กยาวกึ่งอัตโนมัติ AK-47 พร้อมทั้ง ปืนพกออโตเมติกอีก 1 กระบอกขึ้นเครื่องไปด้วย เพื่อใช้เป็นอาวุธในยามฉุกเฉิน หลังจากกรณีเครื่องบิน Su-24 ลำหนึ่ง ถูกตุรกียิงตกวันที่ 24 พ.ย.  พันตรีโอเลก เปสคอฟ นักบิน Su-24 ที่ตกเป็นเหยื่อเครื่องบิน F-16 ของตุรกี กับผู้ช่วยของเขา ดีดตัวออกได้อย่างปลอดภัยก่อนเครื่องระเบิดกลางอากาศ แต่ทั้งสองคนถูกระดมยิงจากพื้นดินอย่างแน่นหนา   นักบินเสียชีวิต และ ศพยังถูกทำร้ายเมื่อลงถึงพื้น ขณะที่ผู้ช่วยซึ่งเป็นนายทหารยศนายร้อยโท ซึ่งร่มไปตกลงในพื้นที่ยึดครองของฝ่ายรัฐบาล ได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัยและทันเวลา ในขณะที่ฝ่ายกองโจรต่อต้านรัฐบาลนับร้อยคน ติดอาวุธครบมือ ออกพลิกป่าตามล่าหาตัว โดยเขาไม่มีอาวุธป้องกันตัว

+++ประธานาธธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี กล่าวหารัสเซีย "พูดให้ร้าย" ในวันพุธ(2ธ.ค.) หลังรัสเซียแสดงหลักฐานระบุว่าผู้นำรายนี้และครอบครัวลักลอบซื้อน้ำมันจากพวกนักรบรัฐอิสลาม(ไอเอส) ในซีเรียกระทรวงกลาโหมรัสเซีย แสดงหลักฐานอ้างว่านายเออร์โดกันและครอบครัวเกี่ยวข้องกับธุรกิจค้าน้ำมันผิดกฎหมายกับพวกไอเอส ยกระดับความเสี่ยงของเหตุเผชิญหน้าที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 สัปดาห์ หลังจากตุรกียิงเครื่องบินรบรัสเซียตกตามแนวชายแดนติดกับซีเรีย  นายเออร์โดกัน ยังได้ย้ำถึงคำท้าที่บอกว่าพร้อมจะลาออกหากข้อกล่าวหาต่างๆของรัสเซียได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นความจริง แต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ก็ต้องพิจารณาตำแหน่งของตนเองเช่นกัน หากข้อกล่าวหาไม่เป็นจริง

+++ด้านนายอาห์เมต ดาวูโตกลู นายกรัฐมนตรีตุรกีก็ปฏิเสธคำกล่าวหาของรัสเซียเช่นกัน และเรียกร้องให้มอสโกร่วมมือลดความตึงเครียดระหว่างสองชาติ พร้อมระบุว่าความพยายามคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของรัสเซียต่อภาคธุรกิจของตุรกี ไม่เป็นไปตามกรอบกฎหมายระหว่างประเทศด้าน สหรัฐฯ  มาร์ค โทเนอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ออกมาปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงในวันพุธ(2ธ.ค.) ต่อข้อกล่าวหาของรัสเซียที่ว่ารัฐบาลตุรกีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบขนน้ำมันออกจากซีเรียของไอเอส

+++นายกรัฐมนตรีไฮเดอร์ อัล-อาบาดี ระบุในวันพุธ(2ธ.ค.) ว่าอิรักไม่ต้องการกองกำลังภาคพื้นต่างชาติเพื่อกำราบพวกรัฐอิสลาม(ไอเอส) หลังสหรัฐประกาศจะส่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษมาสู้รบกับนักรบกลุ่มนี้ ก่อนหน้านี้ นายแอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เพนตากอนเตรียมที่จะส่งกองกำลังพิเศษเพื่อโจมตีเป้าหมายในต่างแดนไปยังอิรัก เพื่อปฏิบัติการเคียงข้างกองกำลังท้องถิ่นในการต่อสู้กับพวกไอเอส ซึ่งบุกยึดพื้นที่อันกว้างขวางของอิรักตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่วน  พันเอกสตีฟ วอร์เรน โฆษกเพนตากอน ระบุว่าสหรัฐฯจะส่งหน่วยคอมมานโดราว 100 นายไปยังอิรักเพื่อสู้กับไอเอส

++++ราคาน้ำมันดิ่งลงต่ำกว่า 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล   น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.91 ดอลลาร์ ปิดที่ 39.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทรุดต่ำกว่า 40 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 42.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังคาดว่า ที่ ประชุม 12 ชาติสมาชิกโอเปกในเมืองหลวงของออสเตรีย จะมีมติคงเป้าหมายกำลังผลิตไว้ตามเดิมที่ 30 ล้านบาร์เรล แม้มีความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด    

+++ราคาน้ำมันที่ตกต่ำส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน และฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(2ธ.ค.) ขยับลง ท่ามกลางความเห็นที่แข็งกร้าวของประธานเฟด เพิ่มความคาดหมายว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ดาวโจนส์ ลดลง 158.67 จุด (0.89 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.729.68 จุด

++++นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) กล่าวว่าเธอกำลังมองไปถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยซึ่งจะถูกมองว่าเป็นข้อพิสูจน์ว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวจากภาวะถดถอยแล้ว ขณะที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินมีกำหนดหารือกันในวันที่ 15-16 ธันวาคม  ฉุดให้ราคาทองคำเมื่อวันพุธ(2ธ.ค.) ปิดลบพอสมควร โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 9.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,053.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++นักวิจัยอ้างอิงว่า อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ (Statue of Liberty) สัญลักษณ์ของประชาธิปไตยและเสรีภาพที่ตั้งตระหง่านกลางอ่าวนิวยอร์ก ได้แรงบันดาลใจจากโครงการก่อสร้างรูปปั้น “สตรีชาวนาอาหรับ” ที่ปากคลองสุเอซ       ผลการศึกษาล่าสุดสร้างความตกตะลึงไม่น้อยต่อชาวอเมริกันบางคน ในขณะที่ประเด็นการรับผู้ลี้ภัยสงครามจากซีเรียและประเทศมุสลิมอื่นๆ กำลังเป็นที่ถกเถียงอย่างหนักในสหรัฐฯเฟรเดริก โอกุสต์ บาร์โธลดี ประติมากรชาวฝรั่งเศสซึ่งเคยเดินทางไปอียิปต์ในช่วงปี 1855-1856 “ สถาบันสมิธโซเนียนอ้างข้อมูลจากการค้นคว้าของบาร์รี โมเรโน ซึ่งได้เขียนเรื่องราวประวัติของเทพีเสรีภาพไว้ว่า เดิมทีรูปปั้นดังกล่าวมีลักษณะเหมือน “หญิงชาวนาใส่ผ้าคลุมหน้า” เอ็ดเวิร์ด เบเรนสัน ซึ่งศึกษาประวัติความเป็นมาของเทพีเสรีภาพเช่นกัน ระบุว่า ““มันมีความเชื่อมโยงกับรูปปั้นอียิปต์ที่บาร์โธลดีออกแบบไว้เมื่อปลายทศวรรษ 1860 ก็จริง แต่เมื่อต้องมาอยู่ในสหรัฐฯ รายละเอียดของงานปั้นก็ถูกปรับเปลี่ยน... ของเดิมเหมาะสมกับสังคมอียิปต์ แต่ไม่เข้ากับความเป็นอเมริกา” บาร์โธลดี เริ่มออกแบบเทพีเสรีภาพในปี 1870 โดยอาศัยเค้าโครงรูปปั้นที่ตนเคยร่างไว้ อนุสาวรีย์นี้สร้างเสร็จสมบูรณ์ด้วยฝีมือของ กุสตาฟ ไอเฟล ผู้ออกแบบหอไอเฟลแห่งกรุงปารีส และถูกมอบเป็นของขวัญแก่รัฐบาลสหรัฐฯ ในปี 1886 

+++มารดาสาววัยรุ่นอายุ 15 ปีชาวอังกฤษ กล่าวโทษโรงเรียนที่ละเลยต่อการปกป้องเด็กนักเรียนจากโรคแพ้สัญญาณไว-ไฟ จนกระทั่งเด็กน้อยทนทรมานไม่ไหว ตัดสินใจฆ่าตัวตายเพื่อจบปัญหาสุขภาพที่โรงเรียนไม่เข้าใจ  เดบรา ฟราย (Debra Fry) มารดาของ เจนนี่ ฟราย (Jenny Fry) ระบุว่า บุตรสาวเสียชีวิตเพราะโรคแพ้สัญญาณไว-ไฟ โดยสาเหตุที่สรุปเช่นนี้ คือ เจนนี่ได้ส่งข้อความถึงเพื่อน บอกว่าเธอจะไม่ไปโรงเรียน และจะจบชีวิตเพื่อยุติความทรมานจากโรคแพ้สัญญาณไฟฟ้า หรืออีเอชเอส (EHS) ข่าวการเสียชีวิตของวัยรุ่น 15 ปีรายนี้ทำให้โลกหันมาให้ความสนใจโรค EHS ซึ่งองค์การอนามัยโลก หรือ World Health Organisation เคยออกแถลงการณ์เกี่ยวกับโรค EHS ตั้งแต่ปี 2005 ข้อมูลที่ WHO ระบุไว้คือโรค EHS นั้นสามารถแสดงออกผ่านอาการหลากหลาย ผู้ป่วยแต่ละรายจะมีความรุนแรงของอาการต่างกันไป สาเหตุของโรค EHS ยังไม่มีเกณฑ์วินิจฉัยที่ชัดเจน ขณะเดียวกันก็ยังไม่พบความเชื่อมโยงกับการแพ้สัมผัสเหมือนผู้แพ้ฝุ่นละออง หรือเกษรดอกไม้ล่าสุด คือ เดือนกันยายน ศาลประเทศฝรั่งเศสมีคำตัดสินให้หญิงวัย 39 ปีได้รับเงินชดเชย 500 ปอนด์ต่อเดือน เพราะมีอาการแพ้คลื่นความถี่วิทยุสำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตไร้สาย จนต้องย้ายไปอาศัยอยู่ในเขตชนบทที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้งาน