*ศาลฎีกาฯ ไม่อนุญาตให้ยิ่งลักษณ์ ไปต่างประเทศ ยังไม่มีเหตุสมควร*

กรณีที่มีข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยคดีโครงการรับจำนำข้าว ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขอเดินทางออกนอกประเทศ ตามหนังสือเชิญจากต่างประเทศ เพื่อไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทย ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม หรือเมืองสตราสบูร์ก ประเทศฝรั่งเศส นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้รับการประสานจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ไม่ทราบว่ามีผู้ดำเนินการแทนหรือไม่ ขณะนี้ทุกอย่างก็ต้องไปเป็นเงื่อนไขของศาลฎีกาฯ ในการให้ประกันตัวว่าหากจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ก็ต้องขออนุญาตศาลทุกครั้ง

มีรายงานแจ้งว่า ต้นสัปดาห์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกประเทศต่อศาลฎีกาฯ แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศ โดยศาลเห็นว่ากรณีดังกล่าวยังไม่มีเหตุสมควร จึงยกคำร้อง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลยกรณีไม่ระงับยับยั้งโครงการทุจริตรับจำนำข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี  ซึ่งนายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด ในขณะเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลยฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ส่งผลให้รัฐได้รับความเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท

ศาลฎีกาฯ นัดไต่สวนพยานโจทก์ครั้งแรก ในวันที่ 15 ม.ค. 2559 เวลา 09.00 น. โดยก่อนหน้านี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ยื่นขอประกันตัวจากศาลฎีกาฯ ในวงเงินประกัน 30 ล้านบาท และได้รับการอนุมัติ แต่จะต้องเดินทางมารายงานตัวต่อศาลฎีกาฯในวันดังกล่าวด้วย