*รมว.คลัง เร่งแก้ปัญหาการบิน/รัสเซียโจมตี ซีเรีย ด้วยฟอสฟอรัสขาว/ซูจีพบเต็งเส่ง*

ข่าวเที่ยงครึ่ง

+++สำนักข่าวเอพีรายงานว่าหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สฉบับเอเชียอื่นๆ พาดหัวว่า "Thai spirits sagging with the economy" บรรยายถึงภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่และหมดอาลัยตายอยากตามหลังปีแห่งความยุ่งเหยิงทางการเมืองและข้อเกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์  แต่สำหรับฉบับของไทย พื้นที่ดังกล่าวถูกปล่อยให้ว่างเปล่าและบรรจุคำชี้แจงสั้นๆ 2 บรรทัดว่า "หัวข้อข่าวในพื้นที่นี้ถูกถอดออกโดยสำนักพิมพ์ของเราในไทย อินเตอร์เนชันแนล นิวยอร์กไทม์สและกองบรรณาธิการไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด"

+++รายงานของเอพีระบุว่าเรื่องราวเกี่ยวกับระบอบกษัตริย์เป็นประเด็นละเอียดอ่อนในไทย และไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่ารัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจไม่ตีพิมพ์เนื้อหาดังกล่าวของสำนักพิมพ์ นอกจากนั้น บริเวณหน้า 6 ที่ตีพิมพ์เรื่องราวที่เหลือก็ถูกปล่อยให้ว่างเปล่าเช่นกัน  นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือนที่สำนักพิมพ์ท้องถิ่นปฏิเสธตีพิมพ์รายงานเกี่ยวกับไทย โดยสำนักพิมพ์ของไทยตัดสินใจไม่ตีพิมพ์ อินเตอร์แนชันแนล นิวยอร์ค ไทมส์ ฉบับวันที่ 22 กันยายนทั้งฉบับ โดยบอกว่ามีเนื้อหาอ่อนไหวเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ไอลีน เมอร์ฟีย์ โฆษกของนิวยอร์กไทม์ส บอกว่าได้รับแจ้งเกี่ยวกับการตัดสินใจของสำนักพิมพ์แล้ว และยืนยันว่าทางหนังสือพิมพ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับเรื่องนี้

+++นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึง สำนักงานบริหารองค์กรการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (Federal Aviation Administration : FAA) ได้ลดอันดับไทยจาก Category 1 (CAT1) เป็น Category 2 (CAT 2)  โดยให้เหตุผลว่า มาตรฐานปัจจุบันของไทยยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศหรือ ICAO นั้น ว่า เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศ ถ้าหากรัฐบาลไม่เข้ามาดูแล ปัญหาการบินจะหนักกว่านี้  ตอนนี้ถือว่าผลกระทบบรรเทาลง  เส้นทางการบินเดิมยังสามารถทำการบินได้ตามปกติ โดยยอมรับว่าการแก้ปัญหามาตรการการบินของไทยต้องใช้เวลา ที่ผ่านมารัฐบาลก็ดำเนินการแก้ไขตามที่องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศแนะนำ 

+++หลังพล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา ร่วมตรวจสอบบริเวณป่าห่างจากริมถนนสายวิหารเซียน-เขาชีจรรย์ ประมาณ 100 เมตร ม.6 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังสืบทราบและคาดว่าเป็นที่ฝังศพ นายเวย์น ชไนเดอร์ อายุ 37 ปี ชาวออสเตรเลีย ที่ถูกแก๊งออสเตรเลียอุ้มจากเมืองพัทยามาฆ่าแล้วฝังดิน พบศพ นายเวย์น ชไนเดอร์ ไม่สวมเสื้อผ้า ตรวจสอบสภาพศพคอหักและมีรอยแตกบริเวณคิ้วซ้าย ซึ่งคาดว่าถูกของแข็งตีจนแตก นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบบริเวณที่พบศพไม่พบหลักฐานอย่างอื่น

+++ด้านสำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า  เวย์น รอดนี ชไนเดอร์ วัย 37 ปี ถูกลักพาตัว โดยกลุ่มชายสวมหน้ากากนอกที่พักของเขาในพัทยา เมืองรีสอร์ทริมทะเลซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องแหล่งค้าบริการทางเพศและเกี่ยวพันกับขบวนการอาชญากรรมอ้างอิงสื่อท้องถิ่นในไทย ได้ลงภาพคราบเลือดและปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุลักพาตัว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 คนดังกล่าวรายงานว่าเห็นเขาถูกตีจนหมดสติก่อนที่จะถูกแบกขึ้นรถตู้ โดยผู้ต้องสงสัยรายสำคัญสุดคือ แอนโตนิโอ แบกเนโต ชาวออสเตรเลียวัย 27 ปี ซึ่งศาลได้ออกหมายจับในข้อหาลักพาตัวและทำร้ายร่างกายแล้ว ซึ่ง ชไนเดอร์อยู่ในประเทศไทยมาเป็นเวลาราว 1 เดือนและเช่าบ้านหลังหนึ่งอยู่ โดยวางเงินมัดจำสำหรับ 6 เดือนไว้ 130,000 บา   ซิดนีย์มอร์นิงเฮรัลด์เสริมว่า ก่อนหน้านี้ชไนเดอร์เคยมีข้อพิพาททางกฎหมายในประเทศบ้านเกิดของเขา ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเป็นสมาชิกแก๊งเฮลส์แองเจิลของเขา สถานทูตออสเตรเลียในกรุงเทพยังไม่ได้ติดต่อกลับหลังจากรอยเตอร์ติดต่อขอความคิดเห็นไป

+++เว็บไซต์มิร์เรอร์ของอังกฤษรายงานว่า มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า มูเนอร์27 (Moonor27) โพสต์คลิปวิดีโอบนเว็บไมโครบล็อคทวิตเตอร์ กล่าวหารัสเซียใช้อาวุธเชื้อเพลิงที่เป็นผงพิษฟอสฟอรัสขาวซึ่งสามารถฆ่าผู้คนด้วยสารพิษหรือเผาไหม้ได้ ถล่มโจมตีเขตพลเรือนในเมืองรักกา ฐานที่มั่นกลุ่มไอเอสในซีเรีย ซึ่งถือว่าขัดกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะเป็นเคมีที่มีพิษสูงมาก สามารถทำให้เนื้อเยื่อและกระดูกมนุษย์ไหม้ เมื่อสูดดมเข้าไปจะสามารถทำลายหัวใจ ตับ ไต และทำให้เสียชีวิตได้ แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่ มิร์เรอร์รายงานด้วยว่าโอบามาได้หารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย นอกรอบการประชุมโลกร้อนที่ฝรั่งเศสราว 30 นาที หารือเรื่องวิกฤติซีเรียและยูเครน โดยโอบามาได้แสดงความเสียใจในเหตุเครื่องบินทิ้งระเบิดรัสเซียถูกตุรกียิงตกด้วย นอกเหนือจากเห็นชอบร่วมกันเพื่อสนับสนุนแนวทางการเมืองแก้วิกฤติซีเรีย

+++ในวันนี้  นางอองซานซูจี ผู้นำฝ่ายค้านเข้าพบหารือกับประธานาธิบดีเต็ง เส่งของเมียนมาร์เป็นครั้งแรกที่ผู้นำสองฝ่ายมาพบกัน ขณะที่พรรคฝ่ายค้านซึ่งชนะการเลือกตั้งทั่วไปเตรียมเข้าบริหารประเทศต่อจากรัฐบาลที่มีทหารปกครองมาหลายสิบปีจ้าหน้าที่ทำเนียบประธานาธิบดีเปิดเผยว่า นางซูจีมาเข้าพบประธานาธิบดีเต็งเส่งยังทำเนียบที่กรุงเนปีดอในช่วงเช้า จากนั้นมีกำหนดเข้าพบพลเอกมิน อ่อง หล่าย ในช่วงบ่ายวันนี้