*นาโตเสริมขีปนาวุธชายแดนซีเรีย/รัสเซียประกาศรายชื่อสินค้าที่จะคว่ำบาตรตุรกีเริ่ม1ม.ค./จีนอ้างโคลนนิ่งคนได้แล้ว*

ทันสถานการณ์ โลก 06.30น.

+++มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คน จากเหตุท่อระเบิดบนทางข้ามแห่งหนึ่ง ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน อิสตันบูลในวันอังคาร(1ธ.ค.) ทำให้ต้องระงับบริการเดินรถไฟบางส่วนและกระพือความกังวลด้านความปลอดภัยในเมืองใหญ่ที่สุดของยุโรปแห่งนี้  ตุรกีอยู่ในระดับเฝ้าระวังภัยก่อการร้ายขั้นสูง นับตั้งแต่เกิดเหตุมือระเบิดฆ่าตัวตาย 2 คนโจมตีกรุงอังการาในเดือนตุลาคม คร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 100 ศพ 3 เดือนหลังเกิดเหตุโจมตีแบบเดียวกันนี้ในเมืองแห่งหนึ่งตามแนวชายแดนติดกับซีเรียในเดือนกรกฎาคม มีผู้เสียชีวิต 33 ราย

++++อาติลลา อัยดิเนอร์ นายกเทศมนตรี เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์เอ ฮาเบอร์ ว่าเหตุระเบิด ในวันอังคาร(1ธ.ค.) ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบัยรัมปาซา เกิดขึ้นในชั่งโมงด่วนตอนเย็น ขณะที่บัยรัมปาซา คือเขตที่อยู่อาศัยและพื้นที่อุตสาหกรรมในฝั่งยุโรปของอิสตันบูล 

ตุรกี กำลังเผชิญภัยคุกคามจากกลุ่มกบฏพรรคคนงานเคอร์ดิสถาน ซึ่งสมุนมักลงมือโจมตีตำรวจและกองกำลังความมั่นคงในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศที่มีชาวเคิร์ดเป็นคนกลุ่มใหญ่ เช่นเดียวกับกองกำลังปลดปล่อยประชาชนปฏิวัติ (ดีเอชเคพี-ซี) ที่ถูกสหรัฐฯและอังการาระบุว่เป็นองค์กรก่อการร้าย ขณะที่หนึ่งในสมาชิกกลุ่มมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีสถานกงสุลของสหรัฐฯเมื่อเดือนสิงหาคม

+++นายกรัฐมนตรี ดมิทรี เมดเวเดฟ ของรัสเซีย เห็นชอบชุดมาตรการคว่ำบาตรต่อตุรกี หลังตุรกียิ่งเครื่องบินรัสเซียตก แต่มาตรการต่างๆส่วนใหญ่เป็นไปตามที่เคยขู่ก่อนหน้านี้และมีการละเว้นประเด็นสำคัญๆ โดยเฉพาะในภาคพลังงาน  คำสั่งดังกล่าวที่เผยแพร่บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของรัฐบาลในวันอังคาร(1ธ.ค.) ระบุรายชื่อผลผลิตทางการเกษตรต่างๆที่รัสเซียจะไม่นำเข้าจากตุรกีอีกนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2016 เป็นต้นไป และห้ามเครื่่องบินเช่าเหมาลำไปยังตุรกี ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม คำสั่งของรัฐบาลยังรวมไปถึงระงับกิจกรรมของคณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างสองประเทศ และออกข้อจำกัดต่างๆต่อบริษัทขนส่งตุรกี ในส่วนของอาหารที่จะถูกแบนตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป มีทั้งผลไม้และผักต่างๆ อย่างเช่นมะเขือเทศ, หัวหอม, แตงกวา, องุ่น, แอปริคอทและแอปเปิล เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ไก่และเกลือ

+++พันธมิตรนาโต้มีแผนส่งเครื่องบินลาดตระเวนและขีปนาวุธเข้าไปเสริมระบบป้องกันตนเองแก่ตุรกีตามแนวชายแดนติดกับซีเรีย ท่ามกลางข้อพิพาทหลังตุรีกีายิงเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียตก  จากนั้น รัสเซีย เคลื่อนไหวประจำการเครื่องบินทิ้งระเบิด "ซู-34" ติดขีปนาวุธจากอากาศสู่อากาศ ดำเนินภารกิจในซีเรียเป็นครั้งแรก ด้านเยอรมนีและสหรัฐฯที่เตรียมถอนแท่นยิงขีปนาวุธแพทริออตออกไปจากดินแดนแห่งนี้ ส่งผลทำให้ ประเทศสมาชิกนาโต้เสนอให้ความช่วยเหลือกองทัพอากาศตุรกีเพิ่มเติม

+++บีบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐฯเรียกร้องให้ตุรกีและรัสเซียใช้วิธีการเจรจาเพื่อลดความตึงเครียด 1 สัปดาห์หลังตุรกียิงเครื่องบินรบลำหนึ่งของรัสเซียตกใกล้ชายแดนตุรกี-ซีเรีย หลังการพูดคุยกับประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกันของตุรกีในกรุงปารีส ฝรั่งเศส ด้าน นายกรัฐมนตรีอาเหม็ด ดาวูโตกลูของตุรกีว่า ผู้นำตุรกีเรียกร้องให้มีการเปิดช่องทางการสื่อสารทั้งทางทหารและทางการทูตระหว่างตุรกีกับรัสเซีย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุดังเช่นกรณีเครื่องบินรบเอฟ-16ของตุรกียิงเครื่องบินรบลำหนึ่งของรัสเซียตกใกล้ชายแดนตุรกี-ซีเรียเมื่อสัปดาห์ เขาพูดเรื่องนี้ระหว่างการแถลงข่าวในกรุงอังการา ก่อนออกเดินทางไปยังไซปรัส ระบุว่าทั้งสองฝ่ายควรจะนั่งโต๊ะเจรจากันแทนที่จะกล่าวหากันในเรื่องที่ไม่มีมูลความจริง

+++ราคาน้ำมันทรงตัวในวันอังคาร(1ธ.ค.) เวสต์เทกซัส ตลาดนิวยอร์ค  งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 41.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 17 เซนต์ ปิดที่ 44.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(1ธ.ค.) เริ่มต้นเดือนธันวาคม ด้วยการขยับขึ้นแรง จากการฟื้นตัวของกลุ่มสุขภาพและอุปโภคบริโภค ท่ามกลางยอดขายรถยนต์ที่แข็งแกร่งในอเมริกา ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 168.43 จุด (0.93 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,888.35 จุด

+++ยอดขายรถยนต์ที่แข็งแกร่งในเดือนพฤศจิกายน รักษาสถิติเป็นปีที่มียอดขายเติบโตมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในปี 2015 ปัจจัยนี้ดันหุ้นของฟอร์ด ปิดบวกถึง 1.6 เปอร์เซ็นต์ ส่วนจีเอ็ม ปิดบวก 0.2 เปอร์เซ็นต์  

ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร(1ธ.ค.) ปิดลบเล็กน้อย นักลงทุนจับตาไปที่ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯและรายงานการจ้างงานรายเดือนที่มีกำหนดเผยแพร่ออกมาในวันศุกร์(4ธ.ค.) โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 1.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,063.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++บรรษัทกระจายเสียงเอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานว่า ผู้นำของประเทศกำลังพัฒนาที่เข้าร่วมประชุมเรื่องสภาพภูมิอากาศประจำปีในกรุงปารีส ฝรั่งเศสในช่วงนี้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า บรรดาประเทศที่ร่ำรวยหรือชาติที่พัฒนาแล้วควรจะดำเนินการให้มากขึ้นเพื่อลดการปล่อยก๊าซที่ทําให้ เกิดภาวะเรือนกระจก นายมานูเอล วิเซนเต รองประธานาธิบดีของสาธารณรัฐแองโกลา ประธานกลุ่มประเทศด้อยพัฒนา กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เป็นผลจากการปล่อยแก๊สเรือนกระจกของประเทศที่พัฒนาแล้วกระทบต่อประเทศด้อยพัฒนาเป็นอย่างมาก เขาเสนอให้มีการลดเป้าการลดอุณหภูมิโลกลงมาที่ 1.5 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ ประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่เรียกร้องให้การทำข้อตกลงนี้มีผลผูกพันตามกฎหมาย เพื่อจะได้นำไปบังคับใช้ให้บรรลุวัตถุประสงค์ต่อไป

+++นายซู เสี่ยวชุน ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท ป๋อหย่าไลฟ์ กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจแนวหน้าด้านเทคโนโลยีชีวภาพของจีน และโรงงานโคลนนิ่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่า บริษัทมีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเพียงพอ ที่จะโคลนนิ่งมนุษย์ได้แล้ว แต่ปฏิบัติการถูกยับยั้งไว้ก่อน เนื่องจากกลัวว่าจะเกิดการต่อต้านจากสังคม โดยเทคโนโลยีกำลังถูกพัฒนาเพื่อใช้กับสัตว์จำพวกลิง เพื่อสร้างสัตว์ทดลองสำหรับการวิจัยทางการแพทย์ ลำดับขั้นทางชีวภาพระหว่างลิงและมนุษย์นั้นไม่ไกลกันนัก จึงมีความเป็นไปได้ในเรื่องของเทคโนโลยีสำหรับการโคลนนิ่งมนุษย์

+++บริษัทป๋อหย่าไลฟ์ และหุ้นส่วนธุรกิจ กำลังก่อตั้งโรงงานขนาดยักษ์ ที่นิคมอุตสาหกรรมเทียนจิน ทางภาคเหนือของประเทศ และจะเริ่มกระบวนการผลิตในอีก 7 เดือนข้างหน้า โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การผลิตวัวโคลนนิ่งให้ได้ปีละ 1 ล้านตัว ภายในปี พ.ศ. 2563 นอกจากนี้ยังมุ่งเป้าไปที่การผลิตม้าสายพันธุ์ดี สัตว์เลี้ยง และสุนัขตำรวจที่มีความชำนาญในการค้นหาและดมกลิ่น นายซู กล่าวอีกว่า บริษัทป้อหย่าไลฟ์จะก่อตั้งธนาคารพันธุกรรม เพื่อเก็บรักษาตัวอย่างเซลล์แช่แข็งราว 5 ล้านเซลล์ ของสิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธุ์ สำหรับการสืบต่อพันธุ์สร้างขึ้นใหม่ในอนาคต เพื่อดำรงความหลากหลายทางชีวภาพให้คงไว้