*ประเทศกำลังพัฒนาเรียกร้องประเทศร่ำรวยลดการปล่อยก๊าซที่ทําให้เกิดภาวะเรือนกระจก*

บรรษัทกระจายเสียงเอ็นเอชเคของญี่ปุ่น รายงานว่า ผู้นำของประเทศกำลังพัฒนาที่เข้าร่วมประชุมเรื่องสภาพภูมิอากาศประจำปีในกรุงปารีส ฝรั่งเศสในช่วงนี้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า บรรดาประเทศที่ร่ำรวยหรือชาติที่พัฒนาแล้วควรจะดำเนินการให้มากขึ้นเพื่อลดการปล่อยก๊าซที่ทําให้ เกิดภาวะเรือนกระจก ก่อนหน้านี้ผู้นำจากกว่า 150 ประเทศ กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมด้านสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ที่เรียกกันว่า คอป 21 ซึ่งเปิดฉากขึ้นเมื่อวานนี้

สำหรับการประชุมคอป 21 มีวัตถุประสงค์คือการบรรลุข้อตกลง ไม่เฉพาะแต่เพียงในบรรดาชาติอุตสาหกรรมเท่านั้น หากแต่ทุกประเทศทั่วโลกร่วมลงนามในข้อตกลงเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน พร้อมทั้งหามาตรการเพื่อลดอุณหภูมิทั่วโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียสจากระดับของยุคก่อนอุตสาหกรรม

ด้านนายกรัฐมนตรีนาเรนทรา โมดีของอินเดีย ผู้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก กล่าวว่าชาติที่ร่ำรวยแล้วจะต้องแสดงความรับผิดชอบและดำเนินการให้มากขึ้นเพื่อลดการปล่อยก๊าซที่ทําให้เกิดภาวะเรือนกระจก นายโมดี ย้ำระหว่างการประชุมกับประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐฯว่าประเทศที่ร่ำรวยแล้วควรจะหาทางช่วยประเทศกำลังพัฒนาเพื่อลดการปล่อยก๊าซที่ทําให้เกิดภาวะเรือนกระจกเช่นเดียวกัน

ด้านนายมานูเอล วิเซนเต รองประธานาธิบดีของสาธารณรัฐแองโกลา ประธานกลุ่มประเทศด้อยพัฒนา กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เป็นผลจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศที่พัฒนาแล้วกระทบต่อประเทศด้อยพัฒนาเป็นอย่างมาก เขาเสนอให้มีการลดเป้าการลดอุณหภูมิโลกลงมาที่ 1.5 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ ประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่เรียกร้องให้การทำข้อตกลงนี้มีผลผูกพันตามกฎหมาย เพื่อจะได้นำไปบังคับใช้ให้บรรลุวัตถุประสงค์ต่อไป

ทีมข่าวต่างประเทศ

CR:Twitter/ Narendra Modi