*ภัยแล้งกระทบเกษตรกร เขื่อนแม่สรวย จ.เชียงราย ปลูกพืชใช้น้ำน้อย-งดปลูกข้าวนาปรัง*

30 พฤศจิกายน 2558, 17:15น.


สถานการณ์ภัยแล้ง ในพื้นที่ผู้ใช้น้ำจากเขื่อนแม่สรวย จ.เชียงราย โดยนายอนุรักษ์ ชูเชิญ ผู้อำนวยการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่ลาว จ. เชียงราย ดูแลเขื่อนแม่สรวย กล่าวว่า เขื่อนแม่สรวย สามารถกักเก็บน้ำได้ไม่เต็ม 100 เปอร์เซนต์ หรือเพียง 37 ล้านลูกบาศก์เมตร จากระดับน้ำเต็มเขื่อน 73 ล้านลูกบาศก์เมตร สาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถเก็บน้ำได้เต็มเขื่อนคือ ปีนี้ฝนตกในพื้นที่เขื่อนน้อยกว่าปีที่แล้วครึ่งหนึ่ง ประกอบกับชาวบ้านยังมีความวิตกกังวลจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2557 จึงได้ขอให้เขื่อนเก็บน้ำไว้ไม่เกิน 60 เปอร์เซ็นต์ จนกว่าเขื่อนจะปรับปรุงเสร็จจึงจะสามารถกักเก็บน้ำได้เต็มปริมาณ ซึ่งปริมาณน้ำที่เก็บกักได้มีผลกระทบในเรื่องภัยแล้งอย่างแน่นอน ทำให้ไม่สามารถใช้น้ำเพื่อการเกษตรสำหรับฤดูนาปรังที่จะเริ่มต้นในเดือน ม.ค. ได้ กรมชลประทาน จะเก็บกักน้ำในเขื่อนไว้เพื่ออุปโภค บริโภคเท่านั้น แต่หากเกษตรกรที่มีแหล่งน้ำเป็นของตัวเอง เช่นมีบ่อบาดาล ในพื้นก็สามารถทำการเกษตรได้ 





ผู้อำนวยการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่ลาว กล่าวว่า พื้นที่ที่ปกติเคยทำนาปรัง อาจจะต้องแบ่งเป็นการทำนาส่วนหนึ่งและปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อย เช่นพืชไร่ผักสวนครัว กระเทียม ฟักทอง กรมชลประทาน มีการจ้างงานสำหรับเกษตรกรบางส่วนที่ไม่สามารถทำเกษตรได้ เช่นการรับจ้างซ่อมแซมตัวระบบส่งน้ำซึ่งในส่วนนี้อาจต้องเป็นแรงงานที่ใช้ทักษะ และแรงงานทั่วไป



 





ขณะที่นางอรพรรณ คำจันทร์ เกษตรกรในพื้นที่ระบุว่า มีนา 18 ไร่ และทำสวนอีก 4 ไร่ โดยแบ่งเป็นกระเทียม 2 ไร่ และฟักทอง 2 ไร่  แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเมื่อถึงฤดูนาปรังในช่วงเดือน มกราคม จะรับมือกับภัยแล้ง โดยหันไปปลูกพืชชนิดใดบ้าง จึงต้องการให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนในเรื่องของเมล็ดพันธุ์ เนื่องจากขณะนี้ไม่มีโครงการประกันราคาสินค้าแล้ว แต่ในส่วนผลกระทบจากเขื่อนเรื่องแผ่นดินไหว ขณะนี้ไม่มีความกังวลแล้วเพราะเจ้าหน้าที่ได้ซ้อมแผนรับมือหลายครั้ง รวมถึงมีการติดตั้งหอสัญญาณเตือนภัยอีกด้วย





 



ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี 

ข่าวทั้งหมด

X