การแก้ปัญหาการจราจรในกรุงเทพมหานคร พ ล.ต.ท. ศานิตย์ มหาถาวร รักษาราชแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้กำหนด 5 มาตรการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว เช่น การบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะการจอดรถกีดขวางช่องทางจราจร จะดำเนินการล็อคล้อและยกรถพร้อมกำหนดปรับในอัตราโทษสูงสุด ส่วนความผิดอื่นๆ ที่ไม่กระทบต่อการจราจรจะพิจารณาปรับขั้นต่ำ 200 บาท เพื่อสร้างวินัยและไม่เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชน, การจัดระบบหยุดรับส่งของรถโดยสารสาธารณะ เช่น รถเมล์ รถตู้ แท็กซี่ ซึ่งมีการสำรวจจุดที่เป็นปัญหาทั้งสิ้น 46 จุด ทั่วกรุงเทพ และได้ลงไปกวดขันจับกุมกับรถที่ฝ่าฝืนแล้ว พร้อมประสายผู้รับเหมาก่อสร้างที่รุกล้ำพื้นผิวถนนและส่งผลกระทบจะต้องประสานงาน เพื่อแก้ไขเร่งด่วน
รวมถึงการจัดจราจรเส้นทางเข้าออกกรุงเทพฯ4ทิศ 11 สาย ให้มีความคล่องตัว ได้แก่ ทิศเหนือ ถนนวิภาวดีรังสิต แจ้งวัฒนะ งามวงศ์วาน , ทิศใต้ ถนนบรมราชชนี เพชรเกษม พระราม2 , ทิศตะวันออก ถนนสุขุมวิท เพชรบุรีตัดใหม่ และทิศตะวันตก ถนนรามอินทรา ลาดพร้าว และเกษตร-นวมินทร์, การจัดการจราจรบริเวณทางขึ้นลงทางด่วนจะต้องไม่มีการเบียดทางขึ้นลงหรือ การขับรถปาดหน้า จะลงไปดำเนินการกวดขันเร่งด่วน และสุดท้าย คือ สั่งการให้นายตำรวจระดับผู้บังคับการ และรองผู้บังคับการเป็นซีอีโอ ต้องรับผิดชอบงานจราจร ส่วนผู้กำกับการจะต้องลงไปแก้ไขและอำนวยความสะดวกจราจรด้วยตนเองทั้งเข้าและเย็นโดยส่งภาพถ่ายรายงานการปฏิบัติมาที่ผู้บังคับบัญชา โดยมาตรการดังกล่าวจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป ตั้งเป้าว่าการจราจรจะดีขึ้นกว่าเดิมร้อยละ 60 ซึ่งขณะนี้ได้มีการติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ ชื่อพร้อมเบอร์โทรศัพท์ของผู้กำกับการของแต่ละสถานีตำรวจนครบาล รวมทั้งสิ้น 368 จุด ทั่วกรุงเทพ โดยมอบหมายให้พล.ต.ต. อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประเมินผลทุก 30 วัน และจะมีการทำแบบสอบถามสำรวจความพึงพอใจของประชาชนในทุกพื้นที่ เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขต่อไป
พล.ต.ท. ศานิตย์ ย้ำด้วย หากใครเข้ามารับตำแหน่งผู้บัญชาการ แล้วชูนโยบายแก้ปัญหารถติดได้ ต้องบอกเลยว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะปัญหานี้แก้ไม่ได้ จะห้ามคนไม่ให้ซื้อรถไม่ได้ แต่เราสามารถบรรเทาปัญหานี้ให้ดีขึ้นได้ สำหรับกรอบระยะเวลาที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติวางไว้ให้ 3 เดือน เพื่อแก้ปัญหานั้น ไม่เป็นปัญหาและไม่รู้สึกกดดัน เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้ว และคาดว่าปัญหานี้จะคลี่คลายได้ภายใน 1 เดือน ส่วนการแก้ไขปัญหาจราจรบริเวณหน้าโรงเรียนเอกชนชื่อดัง ที่ผู้ปกครองจะจอดรถเพื่อรับ-ส่งบุตรหลานในช่วงเช้าและเย็นนั้น จะมอบหมายให้พล.ต.ต. อดุลย์ ไปพูดคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งการแก้ไขปัญหาจุดนี้ต้องทำด้วยความละมุนละม่อม จากนั้นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ปล่อยแถวตำรวจ และมอบนโยบายให้แก่ผู้กำกับ สน. ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ด้วย