นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ผู้นำญี่ปุ่นมีคะแนนนิยมดีขึ้นเพียงเล็กน้อยมาที่ร้อยละ 49 จากที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์หลังออกกฎหมายด้านความมั่นคง ที่ร้อยละ 48.3 เพื่อให้กองกำลังป้องกันตนเองสามารถสนับสนุนการสู้รบในต่างประเทศ โดยในการสำรวจที่จัดทำโดยหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น พบว่า ชาวญี่ปุ่นส่วนมากไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องรีบแก้รัฐธรรมนูญฉบับใฝ่สันติ ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้ญี่ปุ่นดำรงความเป็นชาติที่สงบสุขมาได้หลายสิบปี ขณะที่นักวิจารณ์กลับมองว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเครื่องหมายของความพ่ายแพ้ ในยุคสงคราม และทำให้ญี่ปุ่นไม่สามารถยกระดับศักยภาพในการป้องกันตนเองได้อย่างเต็มที่ ซึ่งสาเหตุที่คะแนนนิยมดีขึ้นอาจเป็นเพราะประชาชนรู้สึกพอใจที่รัฐบาลให้คำมั่นว่าจะหันมามุ่งเน้นแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ก่อนจะมีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในปีหน้า ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ชุดกฎหมายความมั่นคงที่ประกาศใช้เมื่อเดือนกันยายน มีความจำเป็นในการรับมือภัยคุกคาม โดยเฉพาะพฤติกรรมก้าวร้าวของจีน นอกจากนี้ คะแนนนิยมของพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ที่เป็นรัฐบาล มีคะแนนร้อยละ 36.7 ซึ่งมากกว่าเดโมเครติก ปาร์ตี ออฟ เจแปน (ดีพีเจ) ถึง 3 เท่า
....