เมืองไทยฯ(2):สรรพสามิตเตรียมใช้ภาษีคาร์บอน/ป.ป.ช.เตรียมประชุมโครงการราชภักดิ์/สศค.แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ*

30 พฤศจิกายน 2558, 08:41น.


นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เตือนว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 จะมีการบังคับใช้ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ฉบับใหม่ ที่จะเปลี่ยนจากที่เก็บภาษีตามความจุกระบอกสูบ มาเป็นการเก็บภาษีตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งจะมีผลให้การเสียภาษีรถยนต์ใหม่มีทั้งปรับลดลง เท่าเดิม และปรับเพิ่มขึ้น โดยรถยนต์ที่มีภาระภาษีเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นกลุ่มรถยนต์กระบะและรถยนต์นั่งขนาดใหญ่



(รถกระบะหากปล่อย CO2 ไม่เกิน 200 กรัม/กิโลเมตร (กม.) จะเสียภาษีในอัตราเดิม 3% แต่ส่วนใหญ่ปล่อย CO2 เกิน ทำให้เสียภาษีอัตรา 5% หรือต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นคันละ 8 พันบาท ถึง 1.5 หมื่นบาท ส่วนรถกระบะดับเบิลแคป เดิมเสียภาษีอัตรา 12% หากปล่อย CO2 เกิน ทำให้เสียภาษีอัตรา 15% หรือต้องเสียเพิ่มคันละ 2.5-3 หมื่นบาท ขณะที่รถยนต์กระบะดัดแปลง (PPV) ที่เคยเสียภาษีอัตรา 20% ได้มีการปรับขึ้นจากเดิม เพราะเป็นรถยนต์นั่งโดยสารไม่ใช่รถใช้เพื่อการพาณิชย์หากปล่อย CO2 ไม่เกิน 200 กรัม/กม.จะเสียภาษีอัตรา 25% หรือเพิ่มขึ้นคันละ 7 หมื่นบาท ถึง 1.9 แสนบาท หากปล่อยเกิน CO2 เกิน จะเสียภาษีอัตรา 30% ทำให้ต้องเสียภาษีเพิ่มคันละ 1.5-1.9 แสนบาท ส่วนรถยนต์นั่งหรือรถเก๋ง รถยนต์ขนาดเล็กและขนาดกลางจะเสียภาษีเท่าเดิม ขณะที่รถยนต์อีโคคาร์ เสียภาษีเท่าเดิม 17% **** ส่วนรถเก๋งเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1800 ซีซี ส่วนใหญ่เสียภาษีอัตรา 30% เพราะปล่อย CO2 ไม่เกิน 150 กรัม/กม.แต่รถยนต์เครื่อง 1800 ซีซี จะปล่อยเกิน 150 กรัม/กม.ทำให้เสียภาษีเพิ่มเป็น 35% หรือเสียภาษีเพิ่มขึ้นคันละ 6 หมื่นบาท ถึง 1.7 แสนบาท หากปล่อย CO2 เกิน 200 กรัม/กม.จะเสียภาษีเป็น 40% ทำให้เสียภาษีเพิ่มคันละ 2-2.3 แสนบาท **** สำหรับรถเก๋งเครื่องยนต์ผสมไฟฟ้า หรือรถไฮบริด หากปล่อย CO2 ไม่เกิน 100กรัม/กม.จะเสียภาษีเท่าเดิม 10% แต่หากปล่อยเกิน จะเสียภาษีเป็น 20% หรือภาษีเพิ่มคันละ 7 หมื่นบาท ถ้าปล่อย CO2 เกิน 200 กรัม/กม.จะเสียภาษี 25% หรือเพิ่มขึ้นคันละ 4.8 แสนบาท)



ในวันนี้ยังมีความเคลื่อนไหวเรื่องอุทยานราชภักดิ์  นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ ป.ป.ช.จะสรุปข้อมูลและจะนำเข้าสู่ที่ประชุมในวันพรุ่งนี้ ซึ่งรวมถึงกรณีที่นายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เปิดเผยการตรวจสอบที่พบว่า เงินที่ใช้ในการก่อสร้างโครงการฯ ส่วนหนึ่งมาจากงบฯกลาง 63 ล้าน 5 แสน 7 หมื่นบาท



ด้านนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภา ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลจะอยู่ได้หรือไม่ได้นั้น อยู่ที่ 2 เรื่องใหญ่ๆ คือเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน และเรื่องความแตกสามัคคีกันเองในกลุ่มผู้มีอำนาจ ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งทำความจริงให้ปรากฏเปิดเผยต่อสาธารณะ อย่าปล่อยให้อึมครึมต่อไป



นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการกลุ่ม นปช.จะไปตรวจสอบการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์



วันนี้ยังมีการขอคืนพื้นที่ร้านค้าแผงเช่าพระเครื่องย่านท่าพระจันทร์ ตามนโยบายจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยเพื่อคืนทางเท้าให้กับประชาชน โดยมการเตรียมพื้นที่รองรับกลุ่มผู้ค้าที่ตลาดบางบัวทอง



นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รายงานคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจภูมิภาคและเศรษฐกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในปี 2558-2559 โดยคาดว่าจีดีพีในปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 3 ซึ่งลดลงจากคาดการณ์เมื่อช่วงกันยายนที่ว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.1 โดยคาดว่าส่งออกจะติดลบร้อยละ 5.3 มูลค่า 215,512 ล้านดอลลาร์ เงินเฟ้อจะติดลบร้อยละ 0.8 จำนวนนักท่องเที่ยว 29.6 ล้านคน ทำรายได้รวม 1,421 พันล้านดอลลาร์ ส่วนปีหน้าคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4 ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่จะขยายตัวร้อยละ 4.1



นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยาการณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว โดยประเมินจากอัตราขยายตัวของสินเชื่อซึ่งอยู่ในระดับร้อยละ 5.3 สูงกว่าการขยายตัวของเงินฝากที่ร้อยละ 5.2 ชี้ให้เห็นว่าสถาบันการเงินมีความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อ



นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มีคำสั่งให้สำนักนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ ให้ความรู้กับประชาชนตามชุมชนในต่างจังหวัดทั่วประเทศเพื่อให้ความรู้และเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่ต้องไม่พึ่งพาเงินกู้นอกระบบที่ถูกคิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ หรือบางรายอาจได้รับการทำสัญญาที่ไม่ถูกต้องจนส่งผลเสียต่อทรัพย์สินและชีวิต โดยในปัจจุบันรัฐบาลมีการกระจายแหล่งเงินทุนเกือบทั่วประเทศ ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (แบงก์รัฐ) เช่น ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) นอกจากนี้ยังมีโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อผู้ประกอบอาชีพ (นาโนไฟแนนซ์) ซึ่งได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังแล้วกว่า 19 ราย ที่เป็นดำเนินการผ่านเอกชน ซึ่งได้เปิดให้บริการแล้วบางส่วน



มาที่ข่าวอาชญากรรม กรณีตำรวจ ศปจร.น. ตรวจยึดรถของกลาง  204 คัน ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าไอที สแควร์ หลักสี่  ซึ่งเป็นรถหนีไฟแนนซ์ที่นายเลิศสุวัฒน์ หรือเฮียเม้ง ธนาสารพูนผล อายุ 41 ปี เจ้าของเต็นท์รถ เฮียเม้งรถบ้าน หลักสี่ และนายแชมป์ (ไม่ทราบชื่อและนามสกุล) หุ้นส่วนรับจำนำไว้ เมื่อวานนี้ พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์  ผบก.น.2  ได้เดินทางมาตรวจสอบความคืบหน้าคดี และเปิดเผยว่า สั่งการให้ตั้งคณะทำงานสอบสวนแล้ว และเร่งรัดการตรวจสอบรถยนต์ของกลาง หากพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับข้อหาทางอาญาอื่น ๆ ก็จะดำเนินคดีกับชื่อผู้ครองรถเป็นรายคันไป ร่วมถึงการการดำเนินคดีกับทางห้างที่ให้เช่าสถานที่จอดรถด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลามากกว่า 1 เดือน เนื่องจากรถยนต์ของกลางมีจำนวนมาก



นายสุพจน์ เจิมสวัสดิ พงษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมาปริมาณน้ำฝนมีปริมาณน้อยกว่าค่าเฉลี่ย ทำให้ระดับน้ำใต้ดินของแหล่งน้ำบาดาลชั้นบนที่ความลึกประมาณ 20-40 เมตร ลดลงเช่นกัน ทำให้ต้องขุดบ่อวางวงปูนซีเมนต์ลึกลงไปตามระดับน้ำ เรียกว่า "การทรุดบ่อ" ตามน้ำ โดยมีความลึกตั้งแต่ 4-15 เมตร ซึ่งเป็นระดับความลึกที่เสี่ยงต่อการขาดอากาศหายใจ ซึ่งที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตปีละหลายคน กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนที่ต้องการจะซ่อมแซมบ่อบาดาลตื้นของตัวเอง ต้องยึดหลักความปลอดภัย 3ต 1จ ได้แก่ ตรวจสอบก๊าซพิษและปริมาณออกซิเจนภายในบ่อ เติมอากาศ เตรียมอุปกรณ์ในการทำงานและอุปกรณ์ช่วยชีวิตให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และเจาะบ่อใหม่



ปิดท้ายที่สถานการณ์โรคไข้เลือดออก นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ยังพบผู้ป่วยในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะใน กทม.และตัวเมืองใหญ่ โดยคาดว่าจะมีผู้ป่วยประมาณ 4,000 รายต่อสัปดาห์ และขอเชิญชวนประชาชนและเครือข่ายทุกภาคส่วนช่วยกันรณรงค์และจัดการสิ่งแวดล้อมในครัวเรือน ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย



*-*

ข่าวทั้งหมด

X