ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ลงนามคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจตุรกี ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2559 เพื่อตอบโต้การที่ตุรกียิงเครื่องบินรบของรัสเซียในบริเวณชายแดนซีเรีย โดยห้ามทำการบินแบบเช่าเหมาลำระหว่างสองประเทศ ห้ามภาคเอกชนของรัสเซียว่าจ้างชาวตุรกีเพิ่มเติมและจำกัดการนำเข้าสินค้าจากตุรกี จำกัดการทำงานของเอกชนตุรกีในรัสเซีย และจำกัดหรือห้ามจำหน่ายสินค้าบางชนิดที่นำเข้าจากตุรกี นอกจากนี้ยังให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราเครื่องบินของสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ที่เดินทางเข้ามาในรัสเซีย กับให้ชาวตุรกีต้องขอวีซ่าก่อนเดินทางเข้ารัสเซีย
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีรีเซป เตย์ยิป เออโดกานแห่งตุรกี กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ส่งผลอย่างรุนแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ และหวังว่าเหตุการณ์นี้จะไม่เคยเกิดขึ้น ทั้งหวังว่าจะไม่บานปลายไปมากกว่านี้ โดยต้องการพบกับประธานาธิบดีปูติน นอกรอบการประชุมโลกร้อนที่กรุงปารีสวันนี้ อย่างไรก็ตามตุรกีที่เป็นสมาชิกของสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ยืนยันว่าเครื่องบินของรัสเซียล่วงล้ำน่านฟ้าของตุรกีและละเลยคำเตือนหลายครั้งแล้ว
ด้านนายกรัฐมนตรีอาเหม็ด ดาวูโตกลู ของตุรกี เปิดเผยว่าตุรกีได้รับศพนักบินรัสเซียที่เสียชีวิตในพื้นที่ชายแดนแล้ว และนายอีกอร์ มิตยาคอฟ โฆษกสถานทูตรัสเซียในตุรกี เปิดเผยว่า ผู้ช่วยทูตทหารจะนำศพของนักบินโอเลก เปสคอฟ จากจังหวัด ฮาไตมาที่สนามบินแห่งหนึ่งในกรุงอังการา และรอการยืนยันวันที่และเวลาที่จะส่งกลับประเทศ
ผู้นำของชาติสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู ร่วมด้วยตุรกี ร่วมการประชุมที่สำนักงานใหญ่ของอียู ในกรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม เพื่อหารือเรื่องแนวทางการแก้ไขวิกฤติผู้ลี้ภัย โดยผู้นำอียูเสนอความช่วยเหลือตุรกี ทางด้านการเงินจำนวน 3,000 ล้านยูโร และสนับสนุนตุรกีเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกของอียู
นายแบร์กนาร์ กาเซอเนิฟ รัฐมนตรีกิจการภายในฝรั่งเศสยอมรับว่า ทางการฝรั่งเศส ปฏิเสธคำขอเข้าประเทศของผู้อพยพจำนวนกว่า 1,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวซีเรีย นับตั้งแต่เหตุก่อการร้าย เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยรวมถึง ความมั่นคงของฝรั่งเศสเอง นอกจากนี้ ยังให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ศุลกากรและเจ้าหน้าที่ด้านอื่นๆ กว่า 15,000 คนเพื่อควบคุมแนวชายแดน
ประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วโลก ร่วมการเดินขบวนเพื่อเรียกร้องให้เหล่าผู้นำประเทศต่างๆ หาทางแก้ปัญหาโลกร้อน ก่อนการประชุมของสหประชาชาติเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศจะเริ่มขึ้นในวันนี้ ที่จะมีการประชุมของสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือ ซีโอพี 21 (COP21) ซึ่งจะจัดขึ้นในกรุงปารีส ที่จะมีการออกมาตรการเพื่อแก้ปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม การที่กรุงปารีสกลายเป็นเหตุรุนแรง เมื่อเจ้าหน้าที่สลายการชุมนุมด้วยการยิงแก๊สน้ำตาที่จัตุรัสรีพับลิก และมีผู้ชุมนุมถูกจับกุม 208 คน จากนั้นก็ทยยอยปล่อยตัวออกมา
ทั้งนี้ ผู้นำประเทศและผู้นำรัฐบาล 147 ประเทศ รวมทั้งผู้แทนจากองค์กรต่างๆ ราว 40,000 คน เข้าร่วมการประชุมซีโอพี 21 ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ไปจนถึงวันที่ 11 ธันวาคมนี้ เพื่อหาข้อตกลงในการหาทางหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก เนื่องมาจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดสภาวะเรือนกระจก และทำให้โลกร้อนขึ้น
จากเหตุกราดยิงในคลินิกวางแผนครอบครัว เมืองโคโลราโดสปริงส์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐ เมื่อวันศุกร์ซึ่งเป็นความรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนอีกครั้ง ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐฯกล่าวประณามผู้ก่อเหตุ และเรียกร้องให้สนับสนุนมาตรการควบคุมเกี่ยวกับการใช้อาวุธ
ที่กรุงปักกิ่งของจีน มีการประกาศเตือนประชาชนให้ระวังมลภาวะทางอากาศ และให้อยู่ในบ้านเรือนของตนเองเป็นการชั่วคราว เนื่องจากค่ามลภาวะทางอากาศสูงกว่ามาตรฐานความปลอดภัยองค์การอนามัยโลก กำหนดไว้แล้ว
ขณะที่ฮ่องกงกำลังมีโครงการรันเวย์เส้นที่สามของสนามบินนานาชาติเชค แล็ป ก๊กของฮ่องกง ที่จะเป็นการขยายสนามบินนานาชาติและสะพานข้ามทะเลแห่งใหม่ ทำให้นักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมเตือนว่า จะมีผลให้โลมาสีชมพูที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำใกล้เคียงตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ โดยพบว่าโลมาสีชมพูในเกาะฮ่องกง มีจำนวนลงอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีโลมาสีชมพูอาศัยอยู่ในน่านน้ำฮ่องกงเพียง 60 ตัว ลดลงจากจำนวน 158 ตัวเมื่อปี 2546
โลมาขาวสายพันธุ์จีนหรือที่รู้จักกันในชื่อโลมาสีชมพู เนื่องจากลำตัวมีสีชมพูนั้นดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวชมชีวิตของโลมาพิเศษสายพันธุ์นี้ที่อาศัยอยู่ในทะเลใกล้เกาะลันเตาทางเหนือของฮ่องกง นอกจากนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของฮ่องกงในวาระการส่งมอบอำนาจการปกครองฮ่องกงคืนรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่จากอังกฤษเมื่อปี 2540 อีกด้วย
...