ผู้นำรัสเซียลงนามมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจตุรกี

ความบาดหมางระหว่างรัสเซียกับตุรกียังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายลง ล่าสุด รัสเซียประกาศมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อตุรกี โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียได้ลงนามในคำสั่งคว่ำบาตรตุรกี ได้แก่ การห้ามนำเข้าสินค้าหลายรายการจากตุรกี การห้ามทำธุรกิจกับบริษัทของชาวตุรกีในรัสเซีย และการจำกัดชาวตุรกีในการทำงานกับบริษัทของรัสเซีย ทั้งเรียกร้องให้มีการระงับเที่ยวบินโดยสารเดินทางระหว่างสองประเทศ และขอให้ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวรัสเซียระงับการจำหน่ายแพคเกจทัวร์ไปตุรกีด้วย คาดว่ามาตรการคว่ำบาตรจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของชาวตุรกีอย่างมาก เนื่องจากรัสเซียเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของตุรกี และเมื่อปีที่แล้วก็มีชาวรัสเซียมากกว่า 3 ล้านคนเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในตุรกี

นายดมิตรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวว่า ปัจจุบันมีชาวตุรกีเดินทางเข้าไปทำงานในรัสเซียเกือบ 90,000 คน เมื่อรวมกับสมาชิกในครอบครัวที่ติดตามเข้าไปอาศัยอยู่ในรัสเซียก็จะทำให้ตัวเลขชาวตุรกีในรัสเซียมีถึง 200,000 คน เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรของรัสเซียรายงานว่า สินค้าเกษตรที่นำเข้าจากตุรกีร้อยละ 15 ไม่เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของรัสเซีย ทำให้มีการระงับการนำเข้าสินค้าบางประเภท ส่งผลให้มีรถบรรทุกสินค้าจากตุรกีจอดอยู่ตามพรมแดนจำนวนมาก เฉพาะปีนี้ ตุรกีได้ส่งออกอาหารและสินค้าเกษตรแก่รัสเซียคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านยูโร หรือราว 40,000 ล้านบาทแล้ว ซึ่งผักที่นำเข้าจากตุรกีคิดสัดส่วนเป็นร้อยละ 20 ของผักทั้งหมดในรัสเซีย ขณะที่สำนักงานการค้าระหว่างประเทศของตุรกีเผยว่า การส่งออกสินค้าจำพวกเครื่องหนัง สิ่งทอ และเสื้อผ้าไปยังรัสเซียนั้นมีมูลค่ามากกว่า 1,520 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 53,000 ล้านบาท ด้านกระทรวงการต่างประเทศของตุรกีออกประกาศเตือนพลเมืองชาวตุรกีหลีกเลี่ยงการเดินทางไปรัสเซียโดยไม่จำเป็น จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

**7.21F174**