*นายกฯสั่งเพิ่มรักษาความปลอดภัยจุดเสี่ยง คนเบิกงบกลางสร้างอุทยานราชภักดิ์ ต้องรับผิดชอบ*

27 พฤศจิกายน 2558, 16:04น.


การติดตามกลุ่มที่เตรียมก่อเหตุรุนแรง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาคงามสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวว่า จับกุมคนร้ายได้แล้วบางส่วน และกำลังจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือ สั่งการให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในเรื่องความมั่นคง เฝ้าระวังพื้นที่ท่องเที่ยวมากขึ้น ด้วยการจัดกำลังทั้งตำรวจ ทหาร เฝ้าระวังพื้นที่จุดเสี่ยงรวมถึงพื้นที่จัดกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ Bike for dad จัดชุดสายตรวจ ชุดเคลื่อนที่เร็ว จัดกองกำลังในพื้นที่สูง ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก 



นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า โครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ จ. ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเจตนารมณ์ที่ดีแต่มีคนบางส่วนนำผลประโยชน์มาใช้เป็นเครื่องมือ  ส่วนกรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ระบุว่า การจัดสร้างนำงบประมาณกลางของรัฐบาล จำนวน 63 ล้านบาทไปใช้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งบกลางมีหลายหน่วยงาน ขอเข้ามาแต่จะนำไปใช้อะไรต้องสอบสวน  รัฐบาลให้นโยบายไปแล้วด้วยความสุจริต ไม่ได้ทำความผิด ดังนั้น คนที่ต้องรับผิดชอบต้องเป็นคนที่เบิกงบประมาณไป และสตง.ก็สามารถดำเนินการตรวจสอบได้ และหากพบผู้กระทำผิดก็ต้องลงโทษ



ส่วนเรื่องนี้จะถือเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้เข้าใจว่ารัฐบาลนี้เข้ามาเพื่ออะไร และไม่ได้มาเพื่อต่อสู้กับใคร หากทุกอย่างล้มเหลวก่อนปี 2560 ก็ให้ไปหาคนอื่นมาทำ  เพราะไม่ได้ต้องการความนิยมในรัฐบาลและคสช. นอกจากนี้ยังถามกลับไปยังกรณีโครงการจำนำข้าว ว่ารัฐบาลต้องรับผิดชอบหรือไม่ คณะกรรมการนโยบายข้าวต้องรับผิดชอบ ถามว่าใครเป็นประธาน



ส่วนกรณีที่พรรคไทย ออกแถลงการณ์ให้พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระกรวงกลาโหม ลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบ นายกรัฐมนตรี ถามกลับไปว่าพรรคอะไรลืมไปแล้ว ให้ไปถามกับผู้ที่ออกแถลงการณ์ออกมา ส่วนที่มีการวิจารณ์ ว่าผู้ต้องหาเป็นคนสนิทของพล.อ.อุดมเดช ขอให้แยกออกจากกัน ไม่เช่นนั้นหากคนใกล้ชิดทำผิดจะต้องลาออกทั้งหมดหรือไม่



เรื่องที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯวิจารณ์เรื่องมาตรา 112 นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่สนใจ เพราะอธิบายไปแล้วแต่ไม่เข้าใจ ยืนยันไม่ได้ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น ส่วนที่สหรัฐฯจะตัดสิทธิพิเศษทางการค้ากับไทย เป็นสิทธ์ของสหรัฐฯ รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาแรงงานทั้งหมดอย่างเต็มที่ ทั้ง ไอยูยู และการค้ามนุษย์ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงต่างประเทศ ต้องชี้แจง ส่วนสหรัฐฯจะฟังหรือไม่ก็เป็นเรื่องของสหรัฐฯ



กรณีที่เรือประมงไทยถูกโจรสลัดโซมาเลียปล้นยึดเรือไป  ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งเรือที่ผ่านน่านน้ำดังกล่าวก็ถูกปล้นทุกลำ และกองเรือของไทยยุทโธปกรณ์ ไม่พร้อมแต่ทหารเรืออดทนมาก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีความขัดความแย้งเกิดขึ้นสูง



นายกรัฐมนตรี ยังเปรียบเปรยตัวเองว่าไม่ใช่เรือแป๊ะ แต่เป็นแพขนานยนต์ที่ต้องทำงานแข็งกับเวลาเพื่อที่จะพาทุกคนข้ามฝั่งไปด้วยกัน ดังนั้นแพต้องไปด้วยกันทั้งหมด ไม่ใข่ไปกระจุกตัวอยู่ที่กลางแพ หากแพจะล่มก็ขึ้นอยู่กับทุกคน ตัวเองว่ายน้ำเป็นแต่ถ้าแพไม่ไปก็ตายด้วยกันทั้งหมด



ผู้สื่อข่าว: ปิยะธิดา เพชรดี



 

ข่าวทั้งหมด

X