*คุมแก๊งวัดทอง ทำแผนแทงพนักงานร้านอาหาร เร่งล่าหัวโจกอีก 1*

27 พฤศจิกายน 2558, 15:41น.


การแถลงผลการจับกุมเยาวชนก่อเหตุชิงทรัพย์และฆ่า พนักงานร้านเอสแอนด์พี หน้าตึกชินวัตร 2 พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร รักษาการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมตำรวจนครบาลบางซื่อ ร่วมแถลงผลจับกุมผู้ต้องหา 6 คน แก๊งวัดทอง ประกอบด้วย นายพัชรพงษ์ แสงเดือน หรือฮุย อายุ 19 ปี  นายธิติสรณ์ ภาษุวงษ์เจริญสุข หรือปิง อายุ 18 ปี  เยาวชนอายุ 17 ปี ชื่อแฟรงค์ นามสมมติ และเยาวชนอีก 3 คน ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนี 1 คน คือนายไบค์ ที่เป็นหัวโจก ผู้ต้องหาร่วมกันปล้นทรัพย์จนทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตาย หน้าตึกชินวัตร 2 ถนนพหลโยธิน เขตพญาไท เมื่อช่วงดึกวันที่ 22 พฤศจิกายน พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ของกลาง 3 คัน แท็บเลต ยี่ห้อซัมซุงกาแล็คซี่โน๊ต 10 และมีดที่ใช้ก่อเหตุ



 





ในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาทั้ง 7 คน  ขับขี่รถจักรยานยนต์ 3 คัน ตระเวนชิงทรัพย์ตั้งแต่บางซื่อ เตาปูน ประชาชื่น ต่อเนื่องรวม 6 สถานที่ ระหว่างนั้นนายฮุยกับพวกรวม 3 คน ลงมาก่อเหตุใช้อาวุธมืดแทงนายสมชาย สะอาดจิตร์ อายุ 28ปี  พนักงานร้านเอสแอนด์พี สาขาตึกชินวัตร 2 และอยู่ระหว่างรอรถจะกลับบ้าน แล้วชิงแท็บเล็ต ยี่ห้อซัมซุง กาแล็คซี่โน๊ต 10 จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งนายสมชายได้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา



จากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นพบว่า ผู้ต้องหาแต่ละคนเคยมีประวัติปล้น ชิงทรัพย์ และพยายามฆ่า ในช่วงก่อนเกิดเหตุได้นัดกันไปรวมตัวที่บ้านหลังหนึ่งเพื่อเสพยาโปโคดิว (ยาแก้ไอผสมแก้หวัด) จนเกิดอาการมึนเมา และเกิดความคึกคะนอง ก่อนจะออกตระเวนปล้นทรัพย์ นอกจากนี้นายฮุย ยังเคยมีประวัติครอบครองยาเสพติดและถูกดำเนินคดีในพื้นที่สน.ประชาชื่น



ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นก็พบประวัติอาชญากรรม เช่นกัน  ในช่วงคืนที่เกิดเหตุก่อวัยรุ่นกลุ่มนี้ ได้ขับรถจักรยานยนต์เริ่มจากพื้นที่ถนนกรุงเทพนนท์ 44 บางซ่อน ประดิพันธ์ จนมาถึงบางซื่อ และก่อเหตุใน พื้นที่พญาไท 3 ครั้ง พื้นที่เตาปูน 1 ครั้ง พื้นที่บางซื่อ 1 ครั้ง และประชาชื่น 1 ครั้ง โดยในพื้นที่ประชาชื่นไม่ได้มีการแจ้งความ 





ทั้งนี้ นายฮุย รับสารภาพว่า ทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ ไปตามจุดต่างๆ ตามเส้นทาง โดยมีนายไบค์เป็นหัวโจก เมื่อถึงแต่ละจุดและสบโอกาสนายไบค์และนายแฟรงค์จะลงจากรถไปลงมือก่อเหตุ โดยจุดหน้าตึกชินวัตร 2 นายแฟรงค์ใช้อาวุธมีดแทงนายสมชาย และนำทรัพย์สินที่ปล้นมานำไปขายและแบ่งส่วนแบ่ง เพื่อไปเที่ยวเตร่ ประทังชีวิต เติมน้ำมันรถ โดยยอมรับว่าการก่อเหตุปล้นทรัพย์ในครั้งนี้พึ่งเคยทำเป็นครั้งแรก





ขณะที่บรรยากาศการแผนประกอบคำแผนรับสารภาพ มีแฟนสาว ญาติผู้ตายและประชาชนในบริเวณใกล้เคียงกว่า 100 คน ติดตามการทำแผน และมีการโห่ร้องตลอด จนตำรวจไม่สามารถนำผู้ต้องหาลงไปทำแผนบริเวณจุดเกิดเหตุได้ ให้ผู้ต้องหาชี้จุดก่อเหตุบนรถตู้แทน และควบคุมตัวกลับมาที่สน.บางซื่อ ตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธมีดติดตัว เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย



ผู้สื่อข่าว:พนิตา สืบสมุทร 

ข่าวทั้งหมด

X