*กทพ.เร่งศึกษา8เส้นทางพิเศษ รองรับการเป็นศ.กลางศก.อาเซียน*

บทบาทของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาจราจร นายณรงค์ เขียดเดช รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร รักษาการในตำแหน่งผู้ว่า กทพ. เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กทพ.ดำเนินการแก้ไขปัญหาจราจร ในกรุงเทพ และปริมณฑล ตามบทบาทหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย จากนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม โดยกทพ. ได้เปิดให้บริการทางพิเศษแล้ว 7 สายทาง 5 ทางเชื่อมต่อ รวมระยะทางกว่า 207.9 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้ใช้ทางพิเศษเฉลี่ยวันละ 1.8 ล้านเที่ยว มีบางวันสูงสุดถุง 2.1 ล้านเที่ยว พร้อมกันนี้กทพ. ยังขยายโครงข่ายทางพิเศษ เชื่อมโยงพื้นที่กรุงเทพด้านตะวันตกเข้าสู่ใจกลางเมืองด้วยโครงการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพ ระยะทาง 16.7 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้ก็มีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 80 คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณกลางปี 2559

นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม จำนวน 8 โครงการ ได้แก่ โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพด้านตะวันตก โครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N1 N2 N3 และ East-West Corridor ด้านตะวันออก โครงการทางพิเศษสายบูรพาวิถี - พัทยา โครงการพิเศษสายฉลองรัช - นครนายก - สระบุรี โครงการพิเศษสายอุดรรัถยา - พระนครศรีอยุธยา โครงการในจังหวัดขอนแก่น อีกทั้งยังได้วางแผนโครงการพิเศษเพื่อรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษและเตรียมพร้อมกับการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจอาเซียนด้วย

ส่วนที่หลายฝ่ายก็กังวลในเรื่องของความปลอดภัยในการก่อสร้าง ซึ่งทางกทพ. ก็ได้เข้มงวดในเรื่องดังกล่าว ส่วนจะมีการก่อสร้างถนนสายอื่นเพิ่มเติมหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการศึกษาเรื่องผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม คาดว่าในช่วงปลายปีหน้าจะมีความชัดเจนขึ้น สำหรับรายได้ของ กทพ. ในปีนี้ คาดว่าจะได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะต้องจัดส่งให้คลังร้อยละ 40 ของรายได้ทั้งหมด

สำหรับ ช่วงเช้าของวันนี้ กทพ. ได้จัดพิธีทำบุญตามศาสนาเนื่อในวันคล้ายวันก่อตั้ง กทพ. ครบรอบ 43 ปี เพื่อเป็นสิริมงคลแก่องค์กร เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานภายในกทพ.