ข่าวเที่ยงครึ่ง
+++หม้อแปลงไฟฟ้าหน้าบริษัท วนชัย กรุ๊ป ต.เขานิพัทธ์ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ระเบิด และมีประกายไฟลุกไหม้สายส่งไฟฟ้าแรงสูง เป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร ทำให้สายไฟฟ้าขาดเป็นระยะ ตกใส่หลังคาบ้านเรือนประชาชน รวมถึงรถยนต์ ที่จอดอยู่ริมถนนสายเอเซีย 41 เบื้องต้นมีบ้านถูกไฟไหม้กว่า 10 หลังคาเรือน รถยนต์เสียหายหลายคัน และมีผู้บาดเจ็บ 5 คน ในจำนวนนี้ 1 คนอาการสาหัส ขณะนี้นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลเขานิพันธ์ ระดมรถดับเพลิงกว่า 10 คัน เข้าควบคุมเพลิง แต่การทำงานยังเป็นไปด้วยความยากลำบาก.
+++เช้าวันนี้ตัวแทนชาวบ้านและเอ็นจีโอเครือข่ายคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซไทย-มาเลเซีย เดินทางมายังศาลจังหวัดสงขลา เพื่อฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น คดีสลายการชุมนุมเครือข่ายคัดค้านท่อส่งก๊าซ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2545 โดยนายสักกริยา หะมะหวังเอียด กับพวกรวม 25 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยศาลใช้เวลา 4 ชั่วโมง ยกฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ เนื่องจากเห็นว่า การทำงานเจ้าหน้าที่ เป็นการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ซึ่งโครงการนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างไทยมาเลเซีย ขณะที่คดีที่ตำรวจฟ้องร้องชาวบ้านและเอ็นจีโอ ศาลฎีกามีคำพิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม
++++โรดโชว์เจ้าสัว นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการปาฐกถาพิเศษ ในงานสัมมนา “Thailand:Moving Forward to Sustainable Growth” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างที่ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลไทยเดินทางมาเจรจาการค้าการลงทุน หรือโรดโชว์ที่กรุงโตเกียว ประเทศ ญี่ปุ่น ซึ่งมีนักธุรกิจญี่ปุ่นให้ความสนใจเข้าร่วมการสัมมนา กว่า 1,000 คน ว่าในหลายปีที่ผ่านมา การเมืองในประเทศมีความผันผวน จนกระทั่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในช่วงปีเศษ ไทยอยู่ในช่วงของการปฏิรูปการเมือง ขณะที่ด้านเศรษฐกิจแม้เศรษฐกิจโลกจะซบเซาและการส่งออกของไทยจะได้รับผลกระทบ แต่ฐานะเศรษฐกิจในภาพรวม ยังแข็งแกร่งอยู่มากและด้วยผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจคาดว่าเศรษฐกิจในไตรมาส 4 และต้นปีหน้า จะขยายตัวดีขึ้น โดยคาดว่าจะมีอัตราเติบโตเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 3%ในปีนี้ และ 3.5 – 4% ในปีหน้า แต่การเติบโตในระยะสั้น ไม่ใช่เป้าหมายที่สำคัญ แต่เป้าหมายของไทยคือการเติบโตที่ยั่งยืน ซึ่งประเทศไทย ต้องดำเนินการหลายประการ
+++พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลก กำลังเคลื่อนจากตะวันตกมาสู่ตะวันออก ซึ่งเป็นโอกาสและศักยภาพของประเทศไทยในอนาคต ทั้งมีที่ตั้งอยู่ใจกลางหากไทยมีการปฏิรูปอย่างจริงจัง และได้รับการสนับสนุนจากญี่ปุ่นทั้งภาครัฐและเอกชน ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงยิ่งในยุคข้างหน้า การร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างไทยและญี่ปุ่น ในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ จะเอื้อประโยชน์อันสูงยิ่ง ไม่เพียงเฉพาะกับประเทศทั้งสอง แต่ยังสามารถเอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศเพื่อนบ้านใน CLMV โดยไทยยินดีที่จะเป็นแกนนำสำคัญด้วยการสนับสนุนจากญี่ปุ่น
++คดีบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด สำแดงเท็จภาษีนำเข้าบุหรี่ หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษี มูลค่าความเสียหาย 6.8 หมื่นล้านบาท ที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องต่อศาล และนัดหมายนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องในวันที่ 27 พฤศจิกายน นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า คดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 8 ราย ได้แก่ บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด โดยนายทรอย เจ ม้อดลิน ผู้จัดการสาขา และประชาชนอีก 7 ราย โดยนายทรอย เจ ม้อดลิน ผู้ต้องหาที่ 1 ได้ส่งผู้รับมอบอำนาจมาขอเลื่อนฟังคำสั่ง ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย พยายามติดต่อขอข้อมูลจากทางศาลอาญาเพื่อทราบจำนวนหลักทรัพย์ในการปล่อยชั่วคราวมาตลอด แต่มีเหตุขัดข้องที่ศาลบอกจะต้องทราบจำนวนความผิดและพฤติการณ์ของคดีก่อน ดังนั้น เพื่อให้โอกาสผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย อีกครั้งในการเตรียมหลักประกันที่จะขอปล่อยชั่วคราวในชั้นศาล อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ต้องหาจะได้รับความคุ้มครองในการต่อสู้คดีและเพื่อเห็นแก่มนุษยธรรม จึงมีคำสั่งให้ผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย มาทราบ คำสั่งของพนักงานอัยการครั้งต่อไปในวันที่ 19 มกราคม 2559 เวลา 09.30 น. และให้แจ้งข้อกล่าวหาฐานความผิดและจำนวนกรรม รายละเอียดเกี่ยวกับราคาสินค้าและอากรที่ผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย จะถูกฟ้อง พร้อมทั้งแนะนำให้ประสานงานกับศาลอาญาเพื่อขอทราบหลักทรัพย์ที่จะขอปล่อยชั่วคราวในชั้นศาลต่อไป ทั้งนี้ ให้ผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ดำเนินการให้เรียบร้อยก่อนวันนัดครั้งต่อไป โดยพนักงานอัยการจะไม่อนุญาตให้เลื่อนการฟ้องคดีเพราะเหตุเดียวกันอีก
+++หลังการกล่าวปาฐกถาพิเศษ แล้วนายสมคิดและคณะ ได้เดินทางไปเข้าเยี่ยมคารวะนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรี จากนั้นในช่วงบ่ายนายสมคิด จะเป็นประธานฝ่ายไทยในการประชุม High Level JC ส่วนฝ่ายญี่ปุ่นจะมีเลขาคณะรัฐมนตรี(ครม.) เป็นประธาน โดยมีรัฐมนตรีเข้าร่วมหลายท่านจากทั้งสองฝ่ายซึ่งการประชุมมีการวางเป้าหายที่จะให้เกิด ความร่วมมือกันทางเศรษฐกิจในหลายด้านไม่ว่าจะเป็นการค้า การเกษตร อุตสาหกรรม การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษาและวิทยาศาสตร์เทคโนโลย
+++พรรคเพื่อไทยได้ออกแถลงการณ์ เรื่องโครงการอุทยานราชภักดิ์ เรียกร้องให้พลเอกอุดมเดช สีตะบุตร รลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หลังบุคคลใกล้ชิด ถูกศาลออกหมายจับโดยพรรคเพื่อไทยอ้างเป็นเป็นการถูกออกหมายจับในคดีอุทยานราชภักดิ์ ทั้งที่ความจริง ถูกออกหมายจับในคดีหมิ่นเบื้องสูง เรียกรับผลประโยชน์ กลุ่มเดียวกับ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา
+++พล.ต.ต.กริช กิตติลือ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ทราบเรื่องที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) มีคำสั่งย้ายตนไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.) แล้ว และจะเข้ารายงานตัวที่ ศปก.ตร.ในวันนี้ ตนเข้าใจดีกับคำสั่งย้ายดังกล่าว แต่ยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของการสั่งย้ายด่วนครั้งนี้ว่ามาจากเรื่องใด อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณผู้ร่วมงานทุกคนที่ จ.ลำปาง ถึงแม้ตนจะเพิ่งย้ายมาปฎิบัติงานที่นี่ได้ไม่ถึงเดือน โดยมารับตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม
+++อาการป่วยของพระเอกหนุ่ม ปอ-ทฤษฎี สหวงษ์ นายศรมนตรา พิชัยศรแผลง เปิดเผยอาการล่าสุดของพระเอกหนุ่มว่า เมื่อวานตอนหัวค่ำ สีหน้าของปอดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีโบว์และน้องมะลิเป็นกำลังใจสำคัญ ซึ่งปอเองก็มีการตอบสนองและมีปฏิกิริยาตอนที่รู้ว่าน้องมะลิมาหา หากมะลิมาหา พ่อปอจะรู้สึกดีมาก สังเกตได้เวลาที่บอกว่าน้องมะลิมาแล้วนะ ปอจะพยักหน้าเบาๆ ถ้าบอกปอว่า มะลิกลับแล้วนะ ปอจะส่ายหน้าไปมาช้าๆ เหมือนอยากให้มะลิอยู่ใกล้ๆฝากไปถึงแฟนคลับบางกลุ่ม ซึ่งตั้งขึ้นมามากมาย ทั้งเผยแพร่ข่าวสารและชวนทำกิจกรรมต่างๆเพื่อปอว่า อยากให้เข้ามาทำความรู้จักและพูดคุยกันก่อน เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน อย่างเพิ่งทำอะไรโดยไม่บอกไม่กล่าว ซึ่งตนและครอบครัวรู้สึกของคุณในความรักความหวังดีที่มอบให้ แต่ไม่อยากให้ทำอะไรเกินจริง เพราะแฟนคลับทุกคนเท่าเทียมกันหมด แพทย์ผู้รักษาได้เปิดเผยสั้นๆก่อนเข้าไปดูอาการปอ ว่า รอฟังการแถลงข่าวอีกครั้ง น่าจะมีข่าวดี
+++ชาวอเมริกันทั่วประเทศต่างเข้าคิวต่อแถวหน้าร้านค้าหลายแห่ง เพื่อรอเข้าไปจับจ่ายซื้อสินค้าลดราคาพิเศษรับวันแบล็คฟรายเดย์ ซึ่งเป็นวันที่ร้านค้าทั่วประเทศจัดมหกรรมลดราคาสินค้าครั้งใหญ่ รับเทศกาลหยุดยาวส่งท้ายปลายปี แม้บางพื้นที่จะต้องเผชิญฝนตกหนักหรืออากาศหนาวเย็น แบล็คฟรายเดย์นับเป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มการจับจ่ายของผู้บริโภคในตลาด และกำหนดทิศทางการจัดแผนส่งเสริมการขายของร้านค้าทั่วสหรัฐ ขณะที่ผู้ค้าปลีกทั่วอเมริกาเหนือต่างหวังว่ายอดขายสินค้าช่วงแบล็คฟรายเดย์ในปีนี้จะกระเตื้องขึ้น หลังยอดขายสินค้าช่วงต้อนรับวันเปิดเทอมต่ำกว่าที่คาดการณ์กันไว้