*ญาติผู้เสียชีวิตจากคดีแพรวาประชุมยื่นอุทธรณ์หรือไม่ หลังศาลแพ่งสั่งจำเลยชดใช้30ลบ.*

26 พฤศจิกายน 2558, 14:13น.


ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีที่ น.ส.สะโอด ซิมกระโทก และญาติของผู้เสียชีวิต 9 ราย และผู้บาดเจ็บ 4 คน จากอุบัติเหตุ น.ส.แพรวา หรือ อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขับรถยนต์ซีวิค เฉี่ยวชนรถตู้โดยสารพลิกคว่ำ เมื่อคืนวันที่ 27 ธ.ค. 2553 ร่วมกันเป็นโจทก์รวม 28 คน ยื่นฟ้อง น.ส.แพรวา รวมทั้งบิดาและมารดา เรื่องกระทำละเมิด ให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย กว่า 100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี



 ศาลแพ่งพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าคดีนี้เป็นคดีแพ่งที่สืบเนื่องมาจากคดีที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางมีคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถึงที่สุดว่าการขับรถของ น.ส.แพรวา เป็นการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ รวมถึงทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งเป็นการกระทำละเมิด จึงต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และเมื่อรับฟังได้ว่า น.ส.แพรวา จำเลยที่ 1 กระทำผิด บิดา และมารดา ซึ่งเป็นจำเลยที่ 2 และ 3 ก็ไม่ได้นำสืบถึงความระมัดระวังในการดูแลจำเลยที่ 1 จึงต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายด้วย   พิพากษา ให้ น.ส.แพรวา บิดา และ มารดา ของน.ส.แพรวา ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ประกอบด้วยค่าไร้อุปการะ และค่ารักษาพยาบาล รวมถึงค่าอื่นๆ ให้กับโจทก์ร่วม รวม 28 คน ซึ่งเป็นครอบครัวของผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ แต่ละคน ในจำนวนเงินแตกต่างกัน ตั้งแต่ คนละ 4 พันบาท ถึง 1 ล้าน 8 แสนบาท รวมเป็นเงินประมาณ 30 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี



พ.ต.อ.เอกศรัญ นิลวรรณ บิดาของน.ส.สุดาวดี นิลวรรณ 1 ในผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ศาลสั่งให้ชดใช้เงินประมาณ 1 ใน 3 ของจำนวนเงินที่เรียกร้องไป ซึ่งความเห็นของผู้เสียหายส่วนใหญ่เห็นว่า น้อยเกินไป แต่ก็เคารพคำตัดสินของศาล โดยจากนี้ทางกลุ่มทนายความของโจทก์จะประชุมหารือกันในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ ว่าจะมีการยื่นอุทธรณ์ หรือไม่ และหากยื่นอุทธรณ์ จะยื่นในประเด็นใด ส่วนค่าสินไหมทดแทนที่ศาลสั่งจ่าย แตกต่างกันออกไป ทั้งค่าไร้อุปการะ,ค่ารักษาพยาบาล ,ค่าเดินทาง และ ค่าทุกข์ทรมานจากการรักษาอาการบาดเจ็บ และคาดว่าทางฝ่ายจำเลยจะมีการยื่นอุทธรณ์เช่นกันเพื่อยืดเวลาการจ่ายค่าเสียหายออกไป



สำหรับคดีอาญาที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 1 ยื่นฟ้อง น.ส.แพรวา อายุ 17 ปี(ขณะเกิดเหตุ) ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ในความผิดฐานขับรถยนต์โดยประมาท จนเป็นเหตุในผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และถึงแก่ความตาย และทรัพย์สินเสียหาย นั้น ซึ่งคดีได้ถึงที่สุดแล้ว ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้จำคุก น.ส.แพรวา 3 ปี แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 4 ปี บำเพ็ญประโยชน์ 48 ชั่วโมงต่อปี และห้ามขับรถจนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปี ซึ่ง น.ส.แพรวา ได้ยื่นฎีกาสู้คดี แต่ศาลไม่รับฎีกา จึงทำให้คดีสิ้นสุดตามคำพิพากษาดังกล่าว 



 



แฟ้มภาพ

ข่าวทั้งหมด

X