*นายกฯพร้อมไปประชุมที่ฝรั่งเศส แบ่งเงินประมูล1800 MHz บางส่วนใส่งบกลาง*

26 พฤศจิกายน 2558, 14:07น.


จากการประมูลประมูลคลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 1800 MHz ชุดที่ 2 ความถี่ 1725-1740 MHz คู่กับ 1820-1835 MHz  ที่นำรายได้เข้ารัฐ 80,778 ล้านบาท พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า จะนำเงินมาใส่ในงบของรัฐบาลเนื่องจากรัฐบาลมีเรื่องที่ต้องดำเนินการหลายอย่างในสิ่งที่ใช้ประโยชน์ได้ โดยจะแบ่งเงินจากส่วนนี้เอาเข้างบกลางของกระทรวงการคลังเพราะถือว่าเป็นงบประมาณของรัฐ ซึ่งมีแผนงานที่รองรับอยู่แล้ว เช่นมาตรการเร่งด่วนที่ต้องทำเพื่อประชาชนผู้มีรายได้น้อย การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาในมิติอื่นๆ และวันนี้ต้องเร่งดำเนินการในทุกเรื่อง ทั้งเรื่องที่ต้องลงทุนโดยรัฐ การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) หรือการลงทุนโดยต่างประเทศ ซึ่งจะต้องทำให้เกิดความชัดเจนให้ได้โดยเร็ว แต่ในส่วนความร่วมมือในต่างประเทศ การเจรจาถือว่ามีความสำคัญเพราะต่างฝ่ายต่างก็มีความคิดเห็นที่ยังแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่ยืนยันว่าจะเกิดขึ้นได้แน่นอน เริ่มต้นได้ในรัฐบาลนี้จะต้องเกิดขึ้นให้ได้ อย่างน้อยก็ให้เป็นพื้นฐานหรือโครงการเริ่มต้นเพื่อให้รัฐบาลหน้าสานงานต่อ



ส่วนกรณีกระแสข่าวพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะบอร์ดการเคหะแห่งชาติ เตรียมเสนอนายกฯ ให้ปลดนายกฤษดา รักษากุล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เนื่องจากทำงานล่าช้าเกี่ยวกับแผนแม่บทโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ว่าใครมีประสิทธิภาพก็ทำต่อไป แต่หากใครไม่มีประสิทธิภาพก็ต้องพิจารณา ทั้งนี้ ในระหว่างที่รัฐบาลกำลังแก้ปัญหา ใครก็สามารถลาออกได้ทั้งหมด แต่เชื่อว่าการลาออกของนายกฤษดาจะไม่กระทบกับการจัดที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อยอย่างแน่นอน



นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้เป็นวันเริ่มต้นแห่งความสุข หลังจากลอยกระทงที่ได้ลอยสิ่งเลวร้ายออกไปแล้ว ดังนั้นขอให้เริ่มทำในสิ่งใหม่ๆที่เราจะมีการร่วมมือทั้งที่ผ่านมาและจากนี้เป็นต้นไป จะทำให้ดีที่สุดให้มั่นคงให้แน่นแฟ้นในทุกภาคส่วน จะต้องเดินหน้าประชารัฐให้ได้ก่อนเดือนก.ค. ปี 2560  ถ้าสร้างประเทศชาติ ให้เข้มแข็งไม่ได้ตอนนี้วันหน้าจะลำบาก เพราะสถานการณ์มีความอ่อนไหวทั้งในหลายประเทศในประชาคมโลก และในโลกใบนี้มีความขัดแย้ง อากาศเปลี่ยนแปลง ซึ่งนายกรัฐมนตรี ต้องไปร่วมประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Climate Change) ที่ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพราะผู้นำทุกประเทศต้องไปกล่าวถ้อยแถลงถึงความห่วงใยการแก้ปัญหาร่วมกันอย่างไร จากนั้นจะมีคณะทำงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอีกหลายหน่วยงานที่จะต้องประชุมต่อในอีกหลายวัน เพื่อให้ได้ข้อยุติ



นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  จะไปประกาศเจตนารมย์ที่จะร่วมมือในเรื่องของการแก้ไขปัญหาโลกร้อน ว่าจะร่วมมือกันอย่างไรในทุกมิติ รวมถึงการรักษาทรัพยาและสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะแผ่นดิน ผืนน้ำ อากาศ ทั้งหมดเป็นของมวลมนุษยชาติ ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง หรือประเทศใดประเทศหนึ่งที่จะรับผิดชอบได้แต่เพียงประเทศเดียว เพราะหน้าที่ของเราคือประชาชนทุกคนในโลกใบนี้ที่มีอยู่ 6,000 พันกว่าล้านคน และในอีก 15 ปี ข้างหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 8,000 พันล้านคน



ผู้สื่อข่าว: ปิยะธิดา เพชรดี 

ข่าวทั้งหมด

X