พ.ต.อ. สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (เลขาธิการ ปปง.) กล่าวว่า
ตามที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้มีหนังสือมายังปปง.ขอให้ตรวจสอบข้อมูลทางการเงินของ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา กับพวก ที่มีพฤติการณ์แสวงหาประโยชน์ เข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (5) คณะกรรมการธุรกรรม จึงเข้าไปตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่าพ.ต.ต.ปรากรม กับพวก เป็นเจ้าของทรัพย์สินหรือมีสิทธิครอบครองในทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ ปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่าทรัพย์สินดังกล่าว พ.ต.ต.ปรากรม กับพวก (นางสาวสุรีวรรณ ชาญยุทธิ์, นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์, พันเอก คชาชาต บุญดีและนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์) ได้มาในระหว่างที่กระทำความผิดมูลฐานดังกล่าว
ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2558 พลตรีวิจารณ์ จดแตง ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง และพวกเพิ่มเติมอีก 2 คดี โดยกล่าวโทษ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์, นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ และ พันเอก คชาชาต หรือ โจ้ บุญดี ร่วมกันกระทำความผิดในฐานความผิดมาตรา 112 และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่ทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้น เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น หรือในความผิดฐานอื่นที่พบภายหลัง และเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2558 ศาลทหารกรุงเทพ ได้ออกหมายจับพันเอก คชาชาต บุญดี ในข้อหาดังกล่าว
จากข้อเท็จจริงดังกล่าวพฤติการณ์ของพันเอก คชาชาต บุญดี กับพวก จึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123 และเป็นการกระทำโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นและประชาชนด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และด้วยการหลอกลวงนั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม อันอาจเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 อันเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) มาตรา 3 (5) และมาตรา 3 (18) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
คณะกรรมการธุรกรรม มีมติให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 11 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 44,330,069.44 บาท ประกอบด้วย
(1) เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ของนางสาวสุรีวรรณ ชาญยุทธิ์ จำนวน 1 บัญชี จำนวน 39,549.40 บาท
(2) เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ของนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ จำนวน 1 บัญชี จำนวน 352,809.74 บาท
(3) เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ของพันเอก คชาชาต บุญดี จำนวน 1 บัญชี จำนวน 317,839.62 บาท
(4) เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ของพันเอก คชาชาต บุญดี จำนวน 2 บัญชี รวมจำนวน 10,219,870.68 บาท
(5) เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ของนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ (โดยเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด) จำนวน 1 บัญชี จำนวน 800,000 บาท
(6) เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ของพันเอก คชาชาต บุญดี จำนวน 2 บัญชี รวมจำนวน 9,800,000 บาท
(7) ตั๋วแลกเงิน ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ของพันเอก คชาชาต บุญดี จำนวน 20,000,000 บาท
(8) ห้องชุด พหลโยธินปาร์ค เลขที่ 127/21 ชั้น 3 อาคารเลขที่ 3 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ราคา 1,800,000 บาท ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์
(9) ห้องชุด พหลโยธินปาร์ค เลขที่ 127/18 ชั้น 3 อาคารเลขที่ 3 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ราคา 1,000,000 บาท ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์
มีกำหนด 90 วัน นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ กล่าวคือ นับตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2558 ถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2559
CR:แฟ้มภาพ